แม้ว่าอาวุธของคนในอดีตนิยมใช้ดาบ หอก หรือของมีคมอื่นใดไว้สำหรับต่อสู้ป้องกันตัว แต่ของเหล่านั้นมักจะมีราคาที่แพงเนื่องจากในสมัยโบราณการถลุงแร่เหล็กนั้นทำได้ยาก อีกทั้งของมีคมที่ดูเสมือนเป็นอาวุธไม่สามารถพกพาไปในที่รโหฐานของบุคคลอื่น รวมถึงที่สาธารณะได้ ดังนั้น คนอีสานจึงต้องประยุกต์ใช้สิ่งของอื่น ๆ ที่พกติดตัวเป็นประจำให้เป็นอาวุธได้“ผ้าขาวม้า” ก็เป็นหนึ่งในเครื่องแต่งกายประจำวันของชาวอีสาน สามารถพกพาไปได้ในทุกที่ มีประโยชน์ในการใช้งานได้หลากหลายที่สำคัญไม่ได้ดูเป็นอาวุธ จากที่กล่าวมา ผ้าขาวม้าจึงมีความเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะนำมาประยุกต์ใช้เป็นอาวุธในการต่อสู้ป้องกันตัว ซึ่งในอดีตบริบทสังคมผู้ไทยเรื่อง “เผยอผาบเสือ(ผู้เฒ่าปราบเสือ)” ที่กล่าวถึงการเสกผ้าขาวม้าให้แข็งเหมือนเหล็กแล้วใช้ตีเสือจนเสือตาย เมื่อคิดตามหลักความน่าจะเป็น ประกอบกับหลักการของมวยผู้ไทยที่มีการใช้ผ้าขาวม้าเป็นอาวุธ ก็ส่งผลให้เรื่องนี้มีความเป็นไปได้สูง โดยการใช้ผ้าขาวม้าเป็นอาวุธนั้นสามารถทำได้ 2 วิธีดังนี้ใส่ก้อนหินแล้วฟั่นเกลียววิธีทำใช้ผ้าขาวม้าห่อก้อนหินเอาไว้ในส่วนกลางของผ้า แล้วหมุนชายผ้าทั้งสองด้านให้เป็นเกลียวจึงทบสองชายผ้านั้นเข้าด้วยกัน แล้วมัดเป็นปมที่ชายผ้าเพื่อมิให้ผ้าขาวม้าเลื่อนหลุดมือเวลาใช้ต่อสู้ อาวุธชนิดนี้มีความรุนแรงที่สุดในบรรดาอาวุธจากผ้าขาวม้า ใช้ตีสัตว์ร้ายหรือป้องกันตัวจากผู้ประสงค์ร้ายได้เป็นอย่างดี หากใช้อย่างถูกวิธีสามารถทุบมะพร้าวให้ผ่าครึ่งได้ในครั้งเดียวมัดปมชายผ้า แล้วชกคู่ต่อสู้นำก้อนหินเล็ก ๆ 2 ก้อนมัดปมตรงชายผ้าขาวม้าทั้งสองข้าง จากนั้นนำผ้าขาวม้ามาพันมือเหมือนนวมโดยใช้ชายผ้าขาวม้านั้นอยู่ตรงศอกของผู้ใช้ ยามที่ชกคู่ต่อสู้ในระยะไกล ชายผ้าที่มีก้อนหินอยู่ข้างในจะเหวี่ยงใส่คู่ต่อสู้ ทำให้ฝ่ายตรงข้ามได้รับบาดเจ็บ ข้อเด่นของการต่อสู้แบบนี้ทำให้คู่ต่อสู้กะระยะการชกของเราไม่ได้ เพราะเมื่อชกสุดแขนก้อนหินที่อยู่ชายผ้าก็จะเหวี่ยงไปข้างหน้าในระยะ 1 ศอกนอกจากประโยชน์ทางการใช้งานแล้ว ผ้าขาวม้ายังมีลักษณะเป็นอาภรณ์บอกสถานะทางสังคมของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี เช่น ผู้มีฐานะร่ำรวยจะใช้ผ้าขาวม้าทอดิ้นเงินดิ้นทอง ผู้ที่เป็นปราชญ์จะใช้ผ้าขาวม้าไหมทอลายยาว ผู้อาวุโสจะใช้ผ้าขาวม้าไหม ส่วนหนุ่มสาววัยทำงานทั่วไปจะใช้ผ้าขาวม้าที่ทอจากใยฝ้าย เป็นต้น แม้ในปัจจุบันบทบาทของผ้าขาวม้าในสังคมคนอีสานจะลดน้อยลงเป็นอย่างมาก ผ้าขาวม้าที่เป็นผ้าทอมือ ไม่ว่าจะเป็นผ้าไหม หรือผ้าฝ้ายก็มีราคาที่สูง อีกทั้งคนส่วนใหญ่ไม่เล็งเห็นประโยชน์ด้านการใช้งาน ผ้าขาวม้าจึงเปรียบเหมือนผ้าหุ้มตำราที่มีเรื่องราวมากมาย แต่น้อยคนนักจะเปิดอ่านทุกภาพถ่ายโดยผู้เขียน (Facebook : เที่ยวนี้ มีเรื่องเล่า)