รีเซต

อนุทิน ย้ำ ไม่บังคับ 'เอกชน' ซื้อวัคซีน ชี้ ถือว่าผู้ที่มีบุญคุณ เหตุ สธ.จะได้มีเวลาฉีดวัคซีนให้ปชช.มากขึ้น

อนุทิน ย้ำ ไม่บังคับ 'เอกชน' ซื้อวัคซีน ชี้ ถือว่าผู้ที่มีบุญคุณ เหตุ สธ.จะได้มีเวลาฉีดวัคซีนให้ปชช.มากขึ้น
มติชน
11 มีนาคม 2564 ( 15:56 )
78
อนุทิน ย้ำ ไม่บังคับ 'เอกชน' ซื้อวัคซีน ชี้ ถือว่าผู้ที่มีบุญคุณ เหตุ สธ.จะได้มีเวลาฉีดวัคซีนให้ปชช.มากขึ้น

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีโรงพยาบาลเอกชนออกมาเรียกร้องขอนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนที่ต้องการฉีดว่า รัฐบาลเปิดกว้างอยู่แล้ว

 

เมื่อถามถึงกรณีที่รัฐบาลบังคับขายวัคซีนซิโนแวคให้กับเอกชน นายอนุทินกล่าวว่า พูดเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ จะบังคับขายซิโนแวคได้อย่างไร รัฐบาลยังซื้อไม่ได้เลย แต่เอามาให้ประชาชน ทั้งนี้ภาคเอกชนจะเอายี่ห้ออะไรเข้ามา ก็เอามาเลย ไม่มีปัญหา เพราะรัฐบาลให้นโยบายกับองค์การอาหารและยา (อย.) ว่า ถ้ามีการนำเข้ามาต้องเป็นวัคซีนที่ถูกต้องได้มาตรฐานมีความปลอดภัย ซึ่งอย.พร้อมที่จะจดทะเบียนให้ ยิ่งมีเยอะยิ่งดี ทำให้มีทางเลือก ยิ่งทำให้มีการแข่งขันเรื่องราคามากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับคนไทยมากยิ่งขึ้น

 

“เมื่อเช้าผมได้ข่าวแล้ว ยังคิดเลยว่าหาเรื่องอีกแล้ว ตอนที่ยังไม่พร้อมก็บอกปิดกั้น พอพร้อมเปิดก็บอกว่าจะไปบังคับให้ซื้อ จะไปบังคับได้อย่างไร คิดแบบง่ายๆว่า ผู้ผลิตวัคซีนในโลกนี้มีตั้ง 10-20 รายจะไปบังคับได้อย่างไร และขอถามว่าเป็นกงการอะไรที่เราจะไปบังคับ ผมไม่ได้คอมมิชชั่นอะไรกับเขา” นายอนุทิน กล่าว

 

เมื่อถามว่า วัคซีนสปุตนิก วี ที่จะหารือวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง นายอนุทินกล่าวว่า อะไรก็ตามที่พิสูจน์ได้ว่ามีมาตรฐานมีกระบวนการผลิตที่ถูกต้องไม่เป็นอันตราย มีผลวิจัยพัฒนาชัดเจนก็ต้องผ่าน แต่เขาจะขายให้เราหรือเปล่าก็ต้องไปถามเขาก่อน บางคนบอกว่าจะขายให้รัฐเท่านั้น บางคนสมัยก่อนที่เรายังมีวัคซีนไม่พอ เขาคิดว่าเราจะต้องง้อเขาเพื่อซื้อวัคซีน เขาก็บอกว่าจะมาขึ้นทะเบียนก็ต่อเมื่อรัฐบาลสัญญาณว่าจะซื้อเขากี่ล้านโดส แต่พอเราไม่ซื้อไปซื้อที่อื่นเขาก็มาขึ้นทะเบียน ก็ถือว่าเป็นกลไกตลาด

 

นานอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่ทำวันนี้ เราไม่ได้ปิดกั้นอะไรเลย ตรงกันข้ามเราถือว่าโรงพยาบาลเอกชน หรือภาคเอกชนไหนที่นำวัคซีนเข้ามา และฉีดในคนที่อยู่ในความรับผิดชอบของตัวเองหรือฉีดด้วยงบประมาณของตัวเอง ถือว่าเป็นผู้ที่มีบุญคุณกับบ้านเมืองด้วยซ้ำที่ทำให้ภาระกระทรวงสาธารณสุขคลี่คลายลงไป เราจะได้ไปใช้เวลากับผู้ที่ต้องการวัคซีนกับประชาชนทั่วไปที่เข้าถึงยากได้อย่างเต็มที่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง