อิสราเอลจ่อเอาผิด 'คนป่วยโควิด-19' ละเมิดการกักตัว

เยรูซาเล็ม, 19 ก.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันอาทิตย์ (18 ก.ค.) นาฟตาลี เบนเน็ตต์ นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เปิดเผยระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่เจตนาละเมิดการกักกันตัวจะถูกดำเนินคดีอาญาตามขอบเขตสูงสุดของกฎหมาย
สำนักงานอัยการสูงสุดและกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของอิสราเอลกำลังพิจารณาใช้แอปพลิเคชันติดตามผู้กักกันตัว โดยรัฐบาลมีเป้าหมายบังคับใช้มาตรการเชิงรุกและมีประสิทธิภาพต่อผู้ฝ่าฝืน เนื่องจากใครก็ตามที่ละเมิดคำสั่งดังกล่าวจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของตนเองและพลเมืองอิสราเอลคนอื่นๆ
เบนเน็ตต์เผยว่าเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา กำลังระบาดอย่างรวดเร็วทั่วโลก การดำเนินการตามข้อจำกัดใหม่จึงเป็นองค์ประกอบสำคัญในการจัดการกับการระบาดใหญ่เพื่อเอาชนะเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์นี้
เมื่อสัปดาห์ก่อนเบนเน็ตต์กล่าวว่าอิสราเอลสามารถเอาชนะโรคระบาดผ่านการดำเนินมาตรการหลากหลาย โดยไม่จำเป็นต้องกลับมาล็อกดาวน์ อาทิ เพิ่มจำนวนผู้ฉีดวัคซีนป้องกันโรค-19 สวมหน้ากากอนามัยบริเวณพื้นที่ในร่ม และรักษาระยะห่างทางสังคม
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอลรายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มสูงต่อเนื่องจากการระบาดของสายพันธุ์เดลตา โดยเมื่อวันอาทิตย์ (18 ก.ค) มีผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวสะสม 6,622 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยอาการรุนแรง 63 ราย
ปัจจุบันประชาชนในอิสราเอลฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างน้อยหนึ่งโดสราวร้อยละ 61 จากประชากรทั้งหมด 9.3 ล้านคน และมีผู้ฉีดครบโดสราวร้อยละ 56 โดยส่วนมากฉีดวัคซีนของไฟเซอร์