สวัสดีนักอ่านทุกท่าน กลับมาอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปนาน ช่วงหยุดยาวนี้ทำให้ผมได้นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา ได้คิดทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ผมเรียนหมอมาทั้ง 6 ปี ใช่แล้วครับ ผมพึ่งจบหมอมาสด ๆ ร้อน ๆ ช่วงที่ผมเรียนหมอนอกจากจะโดนถามเรื่องเทคนิคการเรียนแล้ว คำถามหนึ่งที่มีคนถามบ่อยมากก็คือ เรียนหมอยังมีเวลามาทำกิจกรรมอีกหรอ? มันแปลกหรอครับที่คนเราจะหาอะไรอย่างอื่นทำบ้าง นอกจากจะตั้งหน้าตั้งตาเรียนอย่างเดียว วันนี้ผมจะมาขอเล่ามุมมองหนึ่งของอดีตนักเรียนแพทย์ ที่ถือว่าเป็นนักกิจกรรมตัวยงของคณะเลยก็ว่าได้ เพื่อเปิดมุมมองให้นักเรียนแพทย์และคนภายนอกได้เห็นอีกแง่มุมหนึ่งของการเรียนแพทย์ และเป็นแนวทางให้นักเรียนแพทย์ทุกคนได้ผ่อนคลายจากการเรียนอย่างหนักผ่านการทำกิจกรรมนี่แหละครับคนเราเวลาเบื่อกับการทำอะไรเดิม ๆ มันก็ต้องแก้ด้วยการหาอะไรใหม่ ๆ มาทำใช่ไหมครับ การเรียนแพทย์ก็เช่นเดียวกัน ถ้าคุณมัวแต่เรียนโดยที่ไม่หาอะไรอย่างอื่นทำเลยก็คงน่าเบื่อไม่ใช่น้อย ดังนั้น ผมเลยลองหาสิ่งที่จะมาแก้เบื่อ ซึ่งมีอยู่มากในทุกคณะ นั่นก็คือการทำกิจกรรม ตั้งแต่ผมอยู่ชั้นปีที่ 1 จนถึงปี 6 ผมทำกิจกรรมมาร่วมร้อยได้ บางกิจกรรมอาจมีบทบาทเล็ก ๆ น้อย ๆ บางกิจกรรมก็เป็นตัวหลัก หรือบางกิจกรรมก็เป็นถึงประธานโครงการเลยก็มี งั้นวันนี้ผมจะขอเล่า 3 กิจกรรม ที่ผมอาจมีส่วนร่วมน้อยมากแตกต่างกันไป เพื่อให้เห็นว่าแค่คุณทำกิจกรรม มันก็ได้อะไรเยอะแล้วหล่ะครับกิจกรรมแรก คือ "พิธีกรงานละครเวทีของคณะ" งานนี้ผมมีบทบาทไม่มากแค่พิธีกรดำเนินเรื่อง การเตรียมตัวไม่ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ แต่ไม่ใช่ว่าไม่ใส่ใจเนื้องานนะครับ คุณรู้ไหมว่าผมได้อะไรจากการทำกิจกรรมนี้ อย่างแรกเลย มันทำให้ผมกล้าแสดงออก กล้าพูดต่อหน้าคนหมู่มาก ได้ฝึกทักษะการสื่อสารให้น่าสนใจและชวนคล้อยตาม ได้สร้างความมั่นใจให้กับตัวเองว่าเราก็ทำอะไรทำนองนี้ได้ และทำให้ผมภูมิใจในตัวเองเพราะนี่เป็นการทำพิธีกรครั้งแรกของผม ไม่ต้องแปลกใจ เพราะอย่างที่บอกผมชอบลองทำอะไรใหม่ ๆ แล้วหลังจากนั้นก็ได้ทำอีกหลายงานเลยแหละครับ 555กิจกรรมที่สอง “ฝ่ายประสานงานด้านการลงทะเบียนและการผลิต โครงการแรกพบ สพท.” เป็นโครงการรับน้องอย่างหนึ่งของนักเรียนแพทย์ที่จัดร่วมกันทั่วประเทศ กิจกรรมนี่ผมเริ่มมีบทบาทสำคัญมากขึ้น เพราะเป็นตัวหลักตัวหนึ่งเลยที่จะช่วยให้กิจกรรมนี้ผ่านไปได้ด้วยดี แล้วผมทำอะไรบ้าง? ก็ตามชื่อเลย คอยประสานงานกับฝ่ายลงทะเบียน ว่าน้อง ๆ จากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ มาถึงหรือยัง จะมากี่โมง รวมถึงการแจกของก่อนเข้างานต่าง ๆ ในส่วนของฝ่ายผลิต ผมก็ทำหน้าที่รวบรวมยอดว่าแต่ละมหาวิทยาลัยจะสั่งเสื้อโครงการกี่ตัว ไซส์อะไรบ้าง ต้องคอยตอบคำถามจากทุกที่ แล้วเอาไปประสานกับทีมผลิตอีกที บอกเลยว่าการทำกิจกรรมนี้ให้อะไรกับผมหลายอ่างมาก อย่างแรกทำให้ผมทำงานเป็นระบบ เพราะถ้าทำมั่ว ๆ ชุ่ย ๆ งานพังแน่ ก็นี่มันงาน Scale ใหญ่ขนาดนี้อ่ะ อย่างที่สอง มันทำให้ผมรู้จักการประสานงานที่ดี ทำยังไงถึงได้งานโดยที่เราไม่ได้เร่งคนอื่นมากเกินไปและงานที่เราคาดหวังว่าต้องเสร็จ มันก็เสร็จตามเวลากำหนด และที่สำคัญ งานนี้ทำให้ผมได้เพื่อนใหม่ ๆ จากต่างมหาวิทยาลัย ซึ่งทุกวันนี้ยังติดต่อและคอยช่วยเหลือกันอยู่ตลอดกิจกรรมสุดท้าย “รองประธานสโมสรนิสิตคณะแพทยศาสตร์” งานนี้ผมมีบทบาทสำคัญมาก ต้องคอยช่วยและดูแลการทำงานของสโมสรนิสิตเกือบทั้งหมด หน้าที่หลัก ๆ ของผมคือการดูแลการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของคณะโดยเฉพาะพวกกิจกรรมชุมนุมต่าง ๆ ซึ่งงานนี้ผมต้องทำนานถึง 1 ปี ก็คือทำมาเรื่อย ๆ แบบว่างจากการเรียนก็แวะมาทำกิจกรรมบ้าง งานนี้ให้อะไรผมเยอะมาก อย่างแรก คือสร้างความเป็นผู้นำ รู้จักกล้าคิดกล้าตัดสินใจ อันไหนดีก็ว่าดี อันไหนไม่เข้าท่าก็ต้องพูดคุยเจรจากันอย่างเหมาะสม สอนให้ผมรู้จักการวางตัว เพราะต้องทำงานกับคนหลากหลายกลุ่มทั้งอาจารย์ พี่เจ้าหน้าที่และนักเรียนแพทย์ด้วยกันเอง นอกจากนี้ ยังทำให้ผมแบ่งเวลาเป็นเพราะการที่จะทำหน้าที่นี้ได้มันต้องทำตลอดเวลา แต่เราก็ต้องเรียนหมอด้วยนะ ดังนั้นการบริหารจัดการเวลาให้เป็น ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ได้มาเพราะงานนี้แหละครับ เห็นไหมครับว่าชีวิตการเรียนแพทย์มีอะไรให้ทำอีกมากมาย กิจกรรมเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เราเสียเวลาเปล่าเลย แถมมันยังให้ประโยชน์ที่มีค่าเป็นอย่างมากอีกด้วย ทำกิจกรรมเยอะแล้วการเรียนจะแย่ไหม? ขอตอบเลยครับว่า การเรียนผมก็ไม่ได้ขี้เหร่เลยนะ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะผมเอาสิ่งที่ได้จากการทำกิจกรรมมาใช้กับทุกเรื่องในชีวิต การเรียนก็เช่นกัน เห็นแบบนี้ ทำกิจกรรมเป็นร้อย แต่คะแนนก็ระดับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเลยนะครับ ถ้าอยากรู้ว่าเรียนหมอยังไงให้ได้เกียรตินิยมก็ไปลองอ่านบทความนี้กันต่อได้เลยครับ >> https://cities.trueid.net/article/เรียนยังไง-ให้ได้เกียรตินิยม-ฉบับนิสิตแพทย์-trueidintrend_111853 ภาพปกและภาพประกอบโดยนักเขียน