ภาพหน้าปกโดย ผู้เขียน หลาย ๆ คนที่เพิ่งเริ่มหัดเลี้ยงกระบองเพชรก็อาจจะประสบปัญหาที่ว่า อยู่ดี ๆ กระบองเพชรต้นน้อยของเราก็มีลักษณะที่อ่อนยวบลงไป ลำต้นไม่ตั้งตรงเหมือนเมื่อก่อน และเมื่อลองจับดูก็จะพบว่าลำต้นมีความนิ่มมากผิดปกติ แถมสีผิวก็ไม่เป็นสีเขียวสดใสหรือเขียวเข้มเหมือนเดิม ออกไปทางสีน้ำตาล ๆ หน่อย ๆ อาการเหล่านี้นี่แหละค่ะ เป็นสัญญาณของปัญหา “ต้นเน่า” อาการต้นเน่าในกระบองเพชรนั้นเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุค่ะ และในบทความนี้เราก็จะมาเล่าถึงที่มาที่ไปของภาวะต้นเน่าพร้อมวิธีป้องกันและการแก้ไขในเบื้องต้นให้ได้ฟังกันนะคะภาพประกอบถ่ายโดย ผู้เขียน ความชื้นที่มากเกินการที่กระบองเพชรได้รับความชื้นมากเกินไปเป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุดของการอาการเน่าตามมาได้ ซึ่งกระบองเพชรบางต้นที่มีความทนทานสูงเขาก็จะเปลี่ยนเนื้อไม้ตรงที่สัมผัสความชื้นมาก ๆ จากเนื้อสีเขียวกลายเป็นเนื้อสีน้ำตาลที่มีความแข็งมากขึ้นและจะมีความทนต่อความชื้นสูงขึ้น ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องดีที่เขาไม่ตาย แต่ก็ทำให้สีสันของไม้เสียหายไปขณะที่กระบองเพชรอีกหลายสายพันธุ์เมื่อได้รับความชื้นสะสมมาก ๆ เช่นดินปลูกกระบองเพชรอัดแน่นมากเกินไป ระบายน้ำได้ไม่ดี ทำให้ดินแห้งช้า ความชื้นก็จะเริ่มทำให้รากเน่าและลุกลามกลายเป็นต้นเน่าตามมาได้ สุดท้ายต้นกระบองเพชรของเราก็จะเน่าถึงแกนกลางด้านในและตายไปในที่สุดวิธีแก้ไขปัญหาความชื้นสะสมนี้ ต้องเริ่มมาจากการเลือกใช้ดินหรือวัสดุปลุกที่ดี มีส่วนผสมของหินที่มีรูพรุนอย่างหินภูเขาไฟเพื่อช่วยในการระบายน้ำและลดความชื้นสะสม และควรให้กระบองเพชรได้สัมผัสกับแดดอย่างเพียงพอซึ่งแดดก็จะช่วยให้ความชื้นในดินระเหยไปได้ค่ะภาพประกอบถ่ายโดย ผู้เขียน แสงแดดที่ร้อนจัดหลายคนอาจจะเข้าใจว่ากระบองเพชรเป็นพืชทะเลทราย เป็นพืชทนร้อน จำเป็นต้องเลี้ยงกลางแดดจัด ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นกระบองเพชรเขาเป็นพืชทนแล้งเฉย ๆ ค่ะ คือทนต่อการขาดน้ำเป็นเวลานานได้โดยไม่ตาย ไม่ได้หมายความว่ากระบองเพชรทุกสายพันธุ์จะทนแดดจัดได้เสมอไป การนำต้นกระบองเพชรไปตั้งไว้กลางแดดจ้าโดยเฉพาะกระบองเพชรที่มีผิวอ่อน ก็อาจทำให้เกิดความร้อนสูงสะสมที่เนื้อในของลำต้น ทำให้เกิดลำต้นสุกนิ่ม และกลายเป็นต้นเน่าตามมาได้วิธีป้องกันลำต้นสุกและเน่าคือให้เราวางกระบองเพชรไว้ในจุดที่ได้รับแสงแดดเพียงพออย่างน้อยแดดช่วงครึ่งวันเช้า และไม่โดดแดดจัดแรง ๆ ในช่วงบ่าย เพราะหากตากแดดทิ้งไว้ตลอดวันถึงแม้ว่าต้นจะไม่สุกจนเน่าตาย แต่ผิวกระบองเพชรก็อาจได้รับความเสียหายจากการถูกแดดเผาจนทำให้สีเปลี่ยนเป็นรอยด่างขาวหรือกลายเป็นสีน้ำตาลได้ค่ะภาพประกอบถ่ายโดย ผู้เขียน โดนแมลงหรือศัตรูพืชกัดกินถึงแม้จะปลูกในดินโปร่งที่ระบายน้ำดี และได้รับแสงแดดในระดับที่เหมาะสมแล้ว กระบองเพชรของเราก็อาจมีโอกาสเน่าได้หากโดนหนอน แมลง หรือหอยทากเข้ามากัดกินเจาะทำลาย ก็อาจเกิดเป็นรอยแผลซึ่งปกติหากเป็นแผลสะอาดที่ไม่มีเชื้อโรคและหากรอยเจาะกัดนั้นอยู่แค่ที่ผิวนอกได้ลึกมาก สุดท้ายแผลนั้นก็จะสามารถหายได้เอง แต่หากเป็นรอยเจาะทำลายลึกถึงเนื้อด้านใน หรือหากเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียเข้าไปก็จะทำให้เกิดรอยเน่าลุกลามได้ ดังนั้นเราต้องคอยหมั่นสังเกตอยู่เสมอว่ากระบองเพชรของเรามีแมลงหรือสัตว์มารบกวนหรือไม่ค่ะ หากมีต้องรีบกำจัดก่อนที่จะมันจะมากัดกินต้นกระบองเพชรของเรานะคะภาพประกอบถ่ายโดย ผู้เขียน หากต้นเน่าไปแล้ว จะสามารถช่วยชีวิตเขาอย่างไรได้บ้างกรณีที่เนื้อในต้นกระบองเพชรเน่าจนลุกลามเละเป็นวุ้นไปทั้งหัว เราคงต้องตัดใจไม่สามารถไปช่วยเหลืออะไรได้อีกค่ะ แต่หากเราสังเกตได้ทันก่อนว่าเขาเพิ่งเริ่มเน่าในระยะแรก ก็ให้รีบถอดรากเขาออกมาจากกระถาง แล้วใช้มีดสะอาดตัดส่วนที่เน่าออกจนหมดให้เหลือเฉพาะเนื้อขาว ๆ มายาช่วยเร่งราก จากนั้นผึ่งไว้ให้แห้งสนิทหรือรอจนกว่าจะมีตุ่มรากงอกออกมาจึงค่อยนำลงปลูกค่ะ หรืออีกกรณีหนึ่งก็คือตัดส่วนที่เน่าออกแล้วนำไปกราฟต์ (grafting) ซึ่งเราจะพูดถึงการกราฟต์กันอีกทีในบทความหน้านะคะภาพประกอบถ่ายโดย ผู้เขียน และสาเหตุที่ทำให้กระบองเพชรเน่าก็จะเป็นดัง 3 ข้อหลัก ๆ ที่กล่าวไป ซึ่งจะเห็นได้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ป้องกันได้ ดังนั้นเราจึงควรเข้าใจและรู้วิธีการเลี้ยงกระบองเพชรอย่างเหมาะสม ปัญหาต้นเน่าก็จะไม่มากวนใจให้เราปวดหัวค่ะ แล้วพบกันได้ใหม่ในบทความหน้านะคะ ภาพประกอบถ่ายโดย ผู้เขียน