การมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงนั้นถือว่าเป็นโชคดีอย่างมาก แต่ด้วยธรรมดาของร่างกายมนุษย์ก็ย่อมมีเจ็บป่วยเป็นเรื่องธรรมดา ยิ่งในยุสมัยนี้ที่เต็มไปด้วยโรคต่าง ๆ มากมายยากที่จะป้องกันได้ การออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อยู่เสมอก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้ร่างกายแข็งแรงมีภูมิต้านทานต่อโรค แต่ด้วยวิถีชีวิตที่เร่งรีบในแต่ละวัน ทำให้เราไม่ค่อยมีเวลาได้ดูแลสุขภาพกันเท่าไรนัก ทำให้หลีกเลี่ยงการเจ็บป่วยได้ยาก พืชสมุนไพรนั้นก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เป็นได้ทั้งยารักษา และอาหารเสริมที่ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรคได้เป็นอย่างดี แต่ในปัจจุบันนั้นเรามีความรู้เกี่ยวกับพืชสมุนไพรน้อยมาก คนทั่วไปรู้จักพืชสมุนไพรเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น ทำให้เราไม่ทราบว่ารอบตัวเรามีพืชชนิดไหนบ้าง ที่เราสามารถนำมาใช้ประโยชน์เป็นยาสมุนไพร ผู้เขียนจึงมีความตั้งใจเป็นอย่างยิ่งในการนำข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับพืชสมุนไพรแต่ละชนิดมาเผยแพร่ ให้พืชสมุนไพรเหล่านี้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งในบทความนี้ผู้เขียนได้นำข้อมูลของพืชสมุนไพรหนึ่งชนิด ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก มาบอกเล่าถึงสรรพคุณที่น่าสนใจ สมุนไพรชนิดนี้มีชื่อว่า “ขานาง”ที่มีสรรพคุณในกันรักษาอาการเจ็บป่วยเบื้องต้นได้เป็นอย่างดีภาพถ่ายโดยผู้เขียนลักษณะของขานาง เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางชนิดผัดใบ มีลำต้นกลมตรง ผิวเปลือกบางเรียบสีเทา มีกิ่งเล็ก ๆ แตกออกสสับกันขึ้นไปจนถึงยอดลำต้น ใบ มีใบใหญ่เป็นรูปรีปลายใบมนมีเว้าเล็กน้อย โคนไปเรียวมน ขอบใบทั้งสองข้างเรียบโค้งขนานกัด ผิวใบด้านเป็นคลื่น ดอกเป็นช่อคล้ายก้านธูปแหลมย้อยห้อยลง มีขนาดเล็กสีเหลือง มักจะออกที่ส่วนของปลายยอดภาพถ่ายโดยผู้เขียนสรรพคุณของ “ขานาง” แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้อัมพฤกษ์ แก้กษัยเส้น แก้เส้นเอ็นและข้ออักเสบ แก้ปวดเมื่อยตามรางกาย บำรุงปอด บำรุงตับเมื่อสมัยที่ผู้เขียนเป็นเด็ก มักเห็นต้น “ขานาง” ขึ้นอยู่ตามชายคลอง และตามป่าบนเขา ปู่ของผู้เขียนเป็นผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับพืชสมุนไพรเป็นอย่างดี และได้เล่าให้ผู้เขียนทราบว่ารากและเนื้อไม้ของ “ขานาง” สามารถนำมาใช้ต้มเป็นยาสมุนไพรได้ โดยสามารถใช้ทั้งแบบสดและแบบแห้ง แต่ปกติแล้วมักจะนำรากและเนื้อมามาสับตากแห้งไว้ เพราะหากถึงเวลาที่จำเป็นต้องใช้ ก็จะสามารถนำมาใช้ได้ทันที ครั้งหนึ่งมีเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ระยะแรก ปู่จึงได้นำรากและเนื้อไม้ของ “ขานาง” ที่ตากแห้งไว้มาต้มให้ผู้ป่วยดื่ม โดยให้ดื่มเป็นประจำทุกวันเช้าและเย็นครั้งและแก้ว เมื่อดื่มติดต่อกันไปได้หนึ่งเดือนผู้ป่วยก็มีอาการดีขึ้น และหายเป็นปกติ ปู่ได้บอกอีกว่า น้ำสมุนไพรของ “ขานาง” นั้นยังช่วยแก้อาการปวดเมื่อยตามตัวได้เป็นอย่างดีที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงสรรพคุณบางส่วนที่ผู้เขียนเคยมีประสบการณ์มาเท่านั้น ซึ่งนอกจากนี้ “ขานาง” ยังสามารถนำไปเข้าเครื่องยาผสมกับสมุนไพรชนิดอื่น เพื่อประกอบเป็นยารักษาโรคได้อีกหลายอาการ ซึ่งผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะทำให้ทุกท่านรู้จักพืชสมุนไพรมากขึ้น และช่วยกันอนุรักษ์ให้คงอยู่สืบต่อไปภาพถ่ายโดยผู้เขียน