การเริ่มต้นทำสิ่งใหม่มักเป็นการกระทำที่ท้าทายอยู่เสมอ ทุกตัวเลือกที่ตัดสินใจ ทุกก้าวที่เดินไปข้างหน้าต่างก็มีผลต่ออนาคตของสิ่งที่กระทำอยู่ทั้งสิ้น จะว่าความสำเร็จเป็นเรื่องของสิ่งที่เราทำก็ได้ หรือจะว่าโชคก็เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนั้นก็ได้ ไม่ว่าอย่างไรมันก็มีหลายปัจจัยเกินกว่าจะควบคุม สิ่งที่ทำอยู่จะรอดและดำเนินต่อไป หรือมันจะล้มเหลวไม่เหลือซากก็ต้องค่อยดู เป็นเวลากว่าสองปีมาแล้วนับจากวันที่เกมแนว Sandbox อย่างเกมมายคราฟได้เปิดตัวให้แฟนเกมรู้จัก ในที่สุดเมื่อปีค.ศ. 2011 เกมมายคราฟก็ได้ปล่อยเวอร์ชัน 1.0 ให้ผู้เล่นได้เข้ามายลโฉมเกมกันแบบเต็มตัว ถึงแม้ว่าเกมนี่พึ่งเปิดตัวเวอร์ชันแรกไป แต่ยอดผู้เล่นสะสมของเกมนับตั้งแต่วันแรกก็ทะลุมาเกินหนึ่งล้านคนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ในปีเดียวกันเกมมายคราฟก็ได้รับรางวัลสุดยอดเกมแห่งปีจาก Time Magazine อีกต่างหากนี่ขนาดพึ่งเปิดตัวเวอร์ชันแรกไปหมาด ๆ นะครับเนี่ย เกมมายคราฟยังได้รับผลตอบรับและรางวัลมาขนาดนี้ ในบทความนี้พวกเรามาดูกันดีกว่าว่าในปี 2011 มีการอัปเดตเพิ่มฟีเจอร์ไหนเข้าไปในเกมบ้าง พูดคุยกันเรื่องอีเวนต์ใหญ่อันแรกของคอมมูนิตี้มายคราฟอย่างงาน Minecon 2011 รวมถึงการเล่าเรื่องเกี่ยวกับมายคราฟเวอร์ชันเก่าในความทรงจำของผม และคอยดูกันว่าความทรงจำเกี่ยวกับมายคราฟในวันวานของผมกับผู้อ่านจะเหมือนหรือแตกต่างกันแค่ไหนเปิดประเดิมด้วยการอัปเดตครั้งใหญ่ที่เพิ่มมิติอันที่สามเข้ามาในเกม มิตินี้เป็นมิติแห่งความมืดมิด รอบข้างเต็มไปด้วยความว่างเปล่า ว่างเสียยิ่งกว่าดินแดนแห้งแล้งในมิติ Nether เพราะนอกจากพื้นดินลอยได้สีเหลือง สิ่งมีชีวิตไม่กี่ชนิดกับสิ่งก่อสร้างเพียงหยิบมือแล้ว มิตินี้ก็ไม่มีอะไรเลย"The End" คือชื่อของมิติผมกล่าวมา แรงบันดาลใจในการสร้างมิตินี้ไม่ได้ห่างไปจากตัวเกมนัก เพราะต้นแบบของมันก็คือโลก "Sky Dimension" ที่เคยอยู่ในเกมมายคราฟเวอร์ชันก่อนนี่เอง โลกใบนี้มีหน้าตาเหมือน Overworld ทุกประการ เว้นแต่ว่าพื้นดินจะแยกออกจากกันและส่วนที่แยกถูกแทนที่ด้วยความว่างเปล่า หากผู้เล่นตกลงไปก็จะต้องอยู่ในห้วงความเคว้งคว้างตลอดกาล เหมือนกับมิติ The End เลยใช่ไหมล่ะครับ แถมพื้นดินจากมิติ The End ยังเป็นการนำเอาบล็อกหิน Cobblestone มาเปลี่ยนสีใหม่จากสีเทาเป็นสีเหลืองก็เท่านั้นเองหากมาเพียงแค่พื้นที่โล่งแบบนั้นก็คงไม่เป็นที่สนใจของผู้เล่นที่รอคอยการเปิดตัวของเกมมานานอย่างแน่นอน ฉะนั้นทีมพัฒนาเกมจึงนำ Hostile Mob ที่นับได้ว่าเป็นบอสตัวแรกของเกมเข้ามาอย่าง Ender Dragon ตามมาด้วยสิ่งมีชีวิตที่ชื่อขึ้นต้นด้วย "Ender" ทั้งหลาย เช่น Enderman แล้วก็ Endermite ในอนาคตพวกเขาก็ยังมีแผนในการเติมสิ่งมีชีวิตกับสิ่งก่อสร้างเพื่อเป็นรางวัลให้ผู้เล่นที่เอาชนะมังกรประจำมิตินี้ได้อีกด้วยเมื่อพูดถึงบอสตัวแรก แน่นอนว่าช่วงนั้น ไม่มีผู้เล่นหน้าไหนเคยกำจัดมันมาก่อน การจะเข้าไปมิตินั้นก็แสนจะยากเย็น ผมก็เป็นหนึ่งในคนที่กว่าจะเข้าไปกำจัดมังกรได้ก็ใช้เวลานานมากเหมือนกัน แต่นั่นแหละครับคือเสน่ห์ของการเล่นเกมนี้ ถึงจะยากเย็นแค่ไหน เมื่อทำอะไรสำเร็จแล้ว มันก็มีรางวัลที่คุ้มค่าเหนื่อยให้ผู้เล่นแน่นอน หนึ่งในนั้นคือบล็อกที่อยู่ตามสิ่งก่อสร้างประจำมิตินี้ End City ที่ผมไม่ลืมเยี่ยมเยือนหลังจากกำจัดเจ้ามังกรตัวร้ายเสร็จอยู่แล้วFun Facts (เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย) : รู้หรือไม่ ? Ender Dragon เป็นตัวเมียนะ เพราะว่าทีมงานใช้สรรพนามเรียกมังกรตัวนี้ว่า She นั่นเอง ด้วยเหตุนี้หลังจากกำจัดมังกรไปพวกเราจึงได้ไข่มังกรเป็นของรางวัลด้วยไงครับด้วยความที่การจะเข้าไปในมิตินี้เป็นการเดินทางที่ยากลำบาก เกมมายคราฟก็ไม่ลืมที่จะใส่ตัวช่วยเข้ามาให้ผู้เล่นด้วย จึงได้ถือกำเนิดมาเป็น Enchanting Table ที่ผู้เล่นรู้จักกันมาถึงทุกวันนี้ ตอนสร้างไอเทมนี้มาเป็นครั้งแรก ผมนี่ก็งงเป็นไก่ตาแตกเลยว่าตกลงมันใช้ยังไงกันแน่ ถึงแม้จะดูคนอื่นสอนก็แล้ว ลองผิดลองถูกเองก็แล้ว ผมในตอนนั้นยังใช้เจ้าอุปกรณ์นี้ไม่ค่อยเป็นเลยครับ จะต้องใส่ไอเทมเข้าไปในช่องไหน ต้องใช้ค่าประสบการณ์มากเท่าไหร่ถึงจะเปิดใช้ตัวเลือกสองกับสามได้ ทำไมตอนใช้เสร็จค่าประสบการณ์ของเราหายไปกันนะ คำถามเหล่านี้ผุดขึ้นมาตลอดที่ผมใช้ Enchanting Table อยู่เลย แล้วตอนนี้น่ะหรือ ใช้จนคล่องแล้วครับ ใช้คล่องกว่าระบบ Redstone เสียอีกอย่างน้อยตอนนั้นผมที่เจอกับปัญหาการใช้งาน Enchanting Table อยู่ก็จะได้ไม่งงกับระบบการแลกเปลี่ยนสิ่งของกับชาวบ้านในเกมด้วยแร่มรกตแล้ว เพราะเมื่อเอาทั้งสองระบบมาเทียบกัน การแลกของมันง่ายกว่าหลายเท่า มีใครติดปัญหาในช่วงแรกของการเล่นเกมเหมือนผมไหมครับ เผื่อว่าผมจะไม่ใช่คนเดียวที่เคยเป็นแบบนั้นเอาล่ะ ในเมื่อกล่าวถึงมิติมาครบสามมิติจากหลายบทความที่ผ่านมาแล้ว นี่ก็คงจะเป็นฤกษ์ของการพูดถึงอีเวนต์ Minecon 2011 กันแล้วสินะครับ จริง ๆ แล้วปีที่ผ่านมาเคยมีการจัดอีเวนต์เกี่ยวกับเกมมายคราฟแล้ว ทว่าเหตุผลที่หลายคนพูดถึงงานนี้เป็นงานแรกก็เพราะมันคืองานที่มีผู้คนเข้าร่วมมากถึงห้าพันคนทั่วโลก (ตัวเลขห้าพันคนในตอนนี้อาจจะดูน้อย แต่เมื่อเทียบกับงานก่อนที่มีเพียงห้าสิบคนแล้ว ถือว่าเป็นการเติบโตที่ก้าวกระโดดมาก)ด้วยความที่มีฐานแฟนคลับเติบโตแบบก้าวกระโดดเช่นนี้ อีเวนต์ Minecon 2011 จึงต้องไปจัดในเมืองลาสเวกัส และนั่นทำให้เหล่าแฟน ๆ คาดหวังกับงานเป็นอย่างมาก เมื่อมาถึงตัวงาน Minecon เองไม่ค่อยมีผลตอบรับที่เกินความคาดหมายสำหรับแฟนเกมในตอนนั้นเท่าไหร่ ผมก็ไม่สามารถออกความคิดเห็นในส่วนตรงนี้ได้เพราะไม่เคยได้ไปงานจริง ๆ ซักที จึงได้แค่บอกความเห็นของผู้เข้าร่วมงานคนอื่นเท่านั้นนะครับ บางคนก็บอกว่าเขาตื่นเต้นกับงานมากแต่ก็ต้องผิดหวังกับการจัดงานที่ไม่ค่อยเป็นระเบียบ บางคนก็ว่ามันออกจะน่าเบื่อเสียด้วยซ้ำ ถึงจะมีผลตอบรับที่ไม่ดีแต่ในส่วนของเกมมายคราฟแบบ Pocket Edition ที่มีการเปิดตัวไปเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อนงาน Minecon จะเริ่มนั้น ทำให้มีแฟนของเกมนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นมากทีเดียว ผมว่าอย่างน้อยในตอนนั้นทีมพัฒนาเกมก็กระตือรือร้นเข้าหากลุ่มลูกค้าดีนะครับ ถือเป็นจุดเด่นจุดหนึ่งของพวกเขาเลย เพราะผมเชื่อว่ามีแฟนเกมมายคราฟจำนวนไม่น้อยที่ยังเล่นแบบ Pocket Edition อยู่จริงไหมล่ะครับเครดิตภาพและข้อมูลภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่นเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !