รีเซต

สถ.แจงปมเงินเบี้ยชราไม่พอ ชี้ คนแก่เพิ่มขึ้น-คนตายน้อย ย้ำถังไม่แตก

สถ.แจงปมเงินเบี้ยชราไม่พอ ชี้ คนแก่เพิ่มขึ้น-คนตายน้อย ย้ำถังไม่แตก
ข่าวสด
11 กันยายน 2563 ( 12:48 )
126
สถ.แจงปมเงินเบี้ยชราไม่พอ ชี้ คนแก่เพิ่มขึ้น-คนตายน้อย ย้ำถังไม่แตก

 

สถ. แจงแล้ว ปม เงินเบี้ยชรา เหตุคนแก่เพิ่มขึ้น-คนเสียชีวิตช้าลง เงินเบี้ยชราเลยไม่พอ ย้ำถังไม่แตก พร้อมโอนไม่เกิน 22 ก.ย.นี้ พร้อมจ่าย 16-17 ล้านคน

นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) เปิดเผยว่า การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และคนพิการ ในเดือน ก.ย. สิ้นปีงบประมาณ 2563 ซึ่งมีปัญหาเกิดขึ้นจ่ายไม่ได้ทันกำหนดวันที่ 10 ของทุกเดือนที่ผ่าน เพราะมีตัวเลขที่ได้รับเบี้ยยังชีพเพิ่มขึ้นคนสูงอายุเพิ่มมากขึ้น คนเสียชีวิตช้าลง ทำให้เงินที่สำนักงบประมาณจัดสรรไว้ให้ตอนต้นปีงบประมาณไม่เพียงพอ

 

นายประยูร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม อุปสรรคดังกล่าวไม่เป็นปัญหา สถ. สามารถมีงบประมาณที่จะนำมาจ่ายเบี้ยยังชีพได้ ซึ่งกำลังเร่งดำเนินการอยู่ แต่ไม่ต้องห่วง เรื่องเบี้ยผู้สูงอายุ และคนพิการ เดือน ก.ย. ที่ได้ล่าช้า ตอนนี้ สถ. ประสานกับกรมบัญชีกลางใกล้ชิด ภายในไม่เกินวันที่ 22 ก.ย.นี้ เงินจะถึงมือได้แน่นอน ทั้งนี้ ยืนยันว่า สถ. มีเงินพร้อมที่จะจ่ายเบี้ยชีพผู้สูงอายุทั้งหมดแล้ว 16-17 ล้านคน ซึ่งต้องใช้เวลาดำเนินการ สถ. สามารถบริหารเงินได้ โดยอยู่

 

"ผมยืนยันไม่มีถังแตกแน่นอน ยืนยันกับพ่อแม่พี่น้องได้เลย ลูกหลานบอกคุณพ่อคุณแม่คุณลุงคุณป้าคุณตาคุณยายได้เลย ว่ารัฐมีเงินจ่ายเบี้ยยังชีพแน่" นายประยูร กล่าว

 

นายประยูร กล่าวว่า สำหรับ เดือน ก.ย.นี้ ต้องใช้เงินจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 4,800 ล้านบาท เบี้ยยังชีพคนพิการอีก 1,400 ล้านบาท รวมแล้วประมาณ 5,200 ล้านบาท ซึ่งเงินไม่ได้ขาดมีครบ ไม่ต้องขอทางสำนักงบเพิ่มเติม เป็นเงินของ สถ.เอง ที่จัดสรรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ใช้ในเรื่องต่าง ๆ บางส่วนมีมากใช้ไม่หมด ก็จะปรับมาใช้จ่ายเบี้ยผู้สูงอายุกับคนพิการมาอุดช่องว่างตรงนี้ได้

 

ซึ่งการดำเนินการโยกงบประมาณไม่ต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ สถ. สามารถทำความตกลงกับสำนักงบประมาณได้เลย โดยสำนักงานประมาณก็จะปรับการใช้เงินที่โยกมาให้เข้ากับภารกิจใหม่คือการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและคนพิการ ซึ่งอาจจะเวลาดำเนินการ

 

สำหรับการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพปัจจุบัน 80 เปอร์เซ็นต์ กรมบัญชีกลางจ่ายตรงเข้าบัญชีผู้มีสิทธิและไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มได้เลย ที่เหลืออีก 20 เปอร์เซ็นต์ ผู้สูงอายุต้องการรับเป็นเงินจาก องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)

_______________________________________________

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง