ไฮ้ ! สวัสดีจ้าทุกคน วันนี้เจ้าคลื่นน้อยจะพาทุกคนมารู้จักกับ Present Simple tense และ Past Simple tense ในภาษาญี่ปุ่นกัน เพราะการบอกเล่าเรื่องราวสำหรับปัจจุบันและอดีตก็มีการใช้ไวยกรณ์ที่แตกต่างกัน รวมทั้งรูปบอกเล่าและปฏิเสธก็ไม่เหมือนกันอีกด้วย ในรอบนี้เจ้าคลื่นน้อยขอเสนอคำศัพท์ที่เป็นกริยา (Verb) เพื่อใช้สำหรับการเรียนในบทนี้ด้วยนะจ๊ะคำศัพท์おります (โอะริมัส) ตื่นนอนねます (เนะมัส) นอนはたらきます ( ฮะตาระคิมัส) ทำงานやすいます (ยะซุยมัส) พักべんきょうします (เบงเคียวชิมัส) เรียนおわります (โอะวะริมัส) เลิก (เรียน,งาน) ぎんこう (กิงโค) ธนาคารゆうびんきょく (ยูบิงเคียวคุ) ที่ทำการไปรษณีย์としょかん (โตะโชะคัง) ห้องสมุดびじゅつかん (บิจูสิคัง) หอศิลป์เครดิตรูปภาพ : https://www.pexels.com/th-th/photo/2031687/คำกริยารูป ます (มัส)คำกริยารูป ます จะทำหน้าที่เป็นภาคแสดง และ ます ถือว่าเป็นภาษาที่สุภาพที่ผู้พูด พูดกับผู้ฟังตัวอย่างประโยคわたし は まいにちべんぎょうします (วาตาชิ วะ มัยนิจิ เบงเคียวชิมัส) ฉันเรียนหนังสือทุกวันคำกริยารูป ます , คำกริยารูป ません , คำกริยารูป ました , คำกริยารูป ませんでしたคำกริยารูป ます เป็นคำที่มักใช้กับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำหรือจะเกิดขึ้นในอนาคต อาจจะเป็นข้อเท็จจริงก็ได้เช่นกัน ซึ่งในกรณีที่จะทำเป็นรูปปฏิเสธหรือรูปอดีตหางคำจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปคำกริยารูป ます บอกเล่าในอนาคต , ปัจจุบันคำกริยารูป ません ปฏิเสธรูปอนาคต , ปัจจุบันคำกริยารูป ました บอกเล่าในอดีตคำกริยารูป ませんでした ปฏิเสธในอดีตตัวอย่างประโยคまいあさ6じにおきます (มัย อะสะ คุจิ นิ โอคิมัส) ทุกเช้าตื่นนอนหกโมงあした6じにおきます (อะชิตะ คุจิ นิ โอะคิมัส) พรุ่งนี้จะตื่นนอนหกโมงけさ6じにおきます (เคะสะ คุจิ นิ โอะคิมัส) เมื่อเช้าตื่นนอนหกโมงเครดิตรูปภาพ : https://www.pexels.com/th-th/photo/1441653/การทำให้เป็นประโยคคำถามก็ง่าย ๆ เพียงแค่เติม か ลงไปท้ายประโยค แต่การตอบคำถามที่มีกริยาแบบนี้จะไม่สามารถตอบด้วยประโยค そうです และ そうじゃありません ได้นะจ๊ะ (ซึ่งสามารถดูย้อนหลังในบทก่อนหน้าได้ที่ https://cities.trueid.net/article/e-zy-to-speak-japanese-a-)ตัวอย่างประโยคきのうべんきょうしましたか (คิโน เบงเคียวชิมาชิตะก๊ะ) เมื่อวานไปเรียนหนังสือหรือเปล่าはい, べんきょうしました (ไฮ้ เบงเคียวชิมาชิตะ) เรียนค่ะ/ครับいいえ、べんきょうしませんでした (อิเยะ เบงเคียวชิมาเซ็นเดชิตะ) เปล่า ไม่ได้เรียนครับ/คะ まいあさなんじにおきますか。(มัยอะซะ นันจิ นิ โอะคิมัสก๊ะ) ทุกเช้าตื่นนอนกี่โมง6じにおきます。(คุจิ นิ โอะคิมัส) ตื่นนอน 6 โมงเครดิตรูปภาพ : https://www.pexels.com/th-th/photo/69457/นาม (เวลา) に คำกริยาการแสดงจุดของเวลาจะใช้คำช่วย に ไว้หลังคำนามเพื่อแสดงเวลา รวมถึงประโยคที่มีการกระทำเกิดขึ้นและสิ้นสุดลงในช่วงนั้น ๆ ด้วย7がつ 2つか に にほんへきました (นะนะก๊ะสิ นิสิคะ นิ นิโฮง เอะ คิมาชิตะ) มาญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 2 เดือนกรกฎาคมคำนาม 1 から คำนาม 2 までから (คะระ) : ถึง จะใช้บอกจุดเริ่มต้นของเวลาและสถานที่ ส่วน まで (มะเดะ) : จาก ใช้บอกจุดจบของเวลาและสถานที่ ตัวอย่างประโยค9じから5じまではたらきます (คุจิคะระ โกะจิมะเดะ ฮะตะระคิมัส) ทำงานตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็นおおさかからとうきょうまで3じかんかかります。(โอซากา คะระ โตเกียวมะเดะคะคะระริมัส) จากโอซาก้าถึงโตเกียวใช้เวลา 3 ชั่วโมง2. ไม่จำเป็นต้องใช้ คำนาม 1 から คำนาม 2 まで ด้วยกันเสมอไปตัวอย่างประโยค9じからはたらきます (คุจิคะระ ฮะตะระคิมัส) ทำงานตั้งแต่ 9 โมงเช้า3. เลือกใช้ です (เดส) หลัง から , まで แบบใดก็ได้เพื่อจบประโยคตัวอย่างประโยคぎんこう は1 0じから 3じまでです. (กิงโค วะ จูจิคะระ ซานจิมะเดะเดส) ธนาคารเปิดตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 3 โมงเย็นเครดิตรูปภาพ : https://www.pexels.com/th-th/photo/koinobori-skytree-2187430/หลักการเปลี่ยนประโยคให้เป็นรูปปฏิเสธหรืออดีตเนี่ยไม่ยากเลยใช่ไหมหละคะ เราไปพักหายใจหายคอกันก่อนดีกว่า ไว้เจอกันบทต่อ ๆ ไป สำหรับบทนี้ต้องขอลาไปออก ซาโยนาระ ^^เครดิตรูปภาพหน้าปก : https://www.pexels.com/th-th/photo/2187606/