คอลัมน์ไฮไลต์โลก: ผู้บริโภคยูโรโซนจับเงินสดลดลง
พฤติกรรมผู้บริโภคในเขตยูโรโซนมีการปรับเปลี่ยนไปมากขึ้น โดยผู้คนจับเงินสดกันน้อยลงและหันมาใช้บัตรเครดิตในการจับจ่ายซื้อของมากขึ้นแทนนับตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปีนี้
เป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ธนาคารกลางสหภาพยุโรป(อีซีบี) สำรวจพบในระหว่างการทำสำรวจกลุ่มตัวอย่างชาวยุโรปในเขตยูโรโซน จำนวน 17,779 คน ในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ที่กลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามบอกอีกว่าพวกเขาจะยังคงใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตต่อไปแม้สถานการณ์ของโรคระบาดจะสิ้นสุดลงแล้ว เพราะร้านค้าต่างๆ มีช่องทางให้บริการที่ง่ายขึ้นด้วยการชำระเงินผ่านระบบอิเลคทรอนิก
ผลสำรวจของอีซีบีชี้ว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้ผู้คนจับเงินสดในการใช้จ่ายน้อยลง ในขณะที่มีช่องทางเลือกอื่นที่สะดวกรวดเร็วมากขึ้นในการจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการ ไม่ว่าะเป็นการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต ผ่านแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ หรือแม้กระทั่งสมาร์ทวอทช์
ราว 40 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่า พวกเขาใช้จ่ายด้วยเงินสดลดลงนับจากเริ่มเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และ 87 เปอร์เซ็นต์ มีแนวโน้มจะใช้จ่ายด้วยเงินสดน้อยลงต่อไปแม้ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะยุติลงแล้ว
เหตุผลทั่วไปของคนส่วนใหญ่ที่หันมาใช้ช่องทางชำระเงินผ่านระบบอิเลคทรอนิกแทนเงินสดกันมากขึ้น เป็นเพราะห้างร้านค้าปลีกต่างๆ ได้อำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าด้วยช่องทางเลือกดังกล่าวนี้กันมากขึ้น หลังจากผู้คนเกิดความหวั่นเกรงกันว่าอาจจะติดเชื้อโรคได้จากการจับธนบัตร
ผู้ตอบแบบสอบถามในสเปนและโปรตุเกสเป็นกลุ่มที่มีความวิตกกังวลกับการติดเชื้อโรคที่มาจากเงินสดมากที่สุด เมื่อเทียบกับผู้ตอบแบบสอบถามในเอสโตเนีย ออสเตรีย และ สโลวีเนีย ที่มีความกังวลเรื่องนี้น้อยที่สุด
อีซีบียังเผยแพร่ผลสำรวจที่จัดทำในปีค.ศ.2019 ในประเด็นนี้พบว่า 49 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่าพวกเขามักใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตหรือวิธีการชำระเงินอื่นๆ ที่ไม่ต้องใช้เงิดสดอยู่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 43 เปอร์เซ็นต์จากกการสำรวจในปี 2016
นอกจากนี้ผลสำรวจของอีซีบียังพบอีกว่าเงินสดไม่ได้เป็นที่ยอมรับในการชำระเงินอย่างแพร่หลายในยูโรโซนอีกต่อไป โดยการยอมรับการชำระเงินด้วยเงินสดน้อยที่สุดคือในประเทศลัตเวีย เอสโตเนีย เบลเยียม ฟินแลนด์ และ ฝรั่งเศส
ดูจากผลสำรวจนี้ของอีซีบีแล้ว ก็ถือเป็นแนวโน้มของคนในยุคดิจิทัล รวมถึงคนไทยเราที่ก็ดูจะจับเงินสดกันลดลง จะหาซื้ออะไรก็รูดบัตรหรือจ่ายผ่านแอพพ์กันมากขึ้นแทน