เบื่อกันไหม กับการที่เราอัดเทปสัมภาษณ์ เทปการประชุมต่าง ๆ เอาไว้ แล้วเราต้องมานั่งถอดเทปเอง ทั้งน่าเบื่อ และเสียเวลานานหลายชั่วโมง หรือจะจ้างถอดเทปแต่ละครั้งแต่ละที ค่าใช้จ่ายนี้ก็แสนจะแพงเหลือเกิน แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะทาง Microsoft ได้สร้างฟีเจอร์ใหม่ตัวนี้ขึ้นมาให้ทุกท่านแล้ว (ขอบคุณรูปภาพจาก : Free-Photos) เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2019 ที่ผ่านมา บริษัทไมโครซอฟท์ ( Microsoft ) ผู้ผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์รายใหญ่ของโลก ได้ทำการประกาศอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ของโปรแกรม ไมโครซอฟท์เวิร์ด ( Microsoft Word ) โดยที่ฟีเจอร์นี้สามารถแปลงไฟล์เสียงให้เป็นข้อความได้ โดยทางไมโครซอฟท์ ได้ทราบถึงปัญหาในหลายสาขาวิชาชีพ อย่างเช่น นักวิจัย นักข่าว ทนายความ และครู ที่ต้องเสียเวลาไปกับการถอดเทปกับไฟล์เสียงที่ได้อัดมาให้กลายเป็นข้อความ ไมโครซอฟท์จึงอยากพัฒนาฟีเจอร์ใหม่นี้ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถอัพโหลดไฟล์เสียง เพื่อแปลงเป็นข้อความได้โดยอัตโนมัติ สามารถแยกเสียงผู้พูดของแต่ละคน และยังสามารถถอดเทปแยกข้อความออกมาเป็นผู้พูดคนที่ 1 และผู้พูดคนที่ 2 ได้อีกด้วย อีกทั้งยังสามารถอัดไฟล์เสียงสดๆ ในไมโครซอฟท์เวิร์ดได้ด้วยเช่นกัน (ขอบคุณรูปภาพจาก : Microsoft) ส่วนขั้นตอนการใช้งานของฟีเจอร์นี้ก็แสนจะง่ายดาย เพียงแค่เราอัปโหลดไฟล์เสียงที่เราต้องการ ลงไปในบัญชีของ OneDrive ของเราเอง ไฟล์ดังกล่าวจะถูกแปลงด้วยระบบ Azure Speech Services และจะแสดงผลออกมาเป็นข้อความในโปรแกรมเวิร์ด เพื่อให้สามารถนำข้อความเหล่านี้ไปใช้งานได้อย่างง่ายดายโดยที่เราไม่ต้องมานั่งพิมพ์ให้เสียเวลา เรียกได้ว่าฟีเจอร์ของ Microsoft Word นี้ จะสามารถช่วยอำนวยความสะดวก และลดเวลาในการทำงานในส่วนนี้ไปเยอะเลยทีเดียว ทั้งได้งานที่เร็วยิ่งขึ้น แถมมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย ใครที่อยู่ในสายงานนี้เรียกได้ว่าคุณไม่ควรพลาดในการนำฟีเจอร์นี้มาใช้งานอย่างแน่นอน (ขอบคุณรูปภาพจาก : pixelcreatures) โดยทางไมโครซอฟท์ระบุว่า ฟีเจอร์ดังกล่าวนี้จะสามารถเริ่มใช้งานได้ในช่วงต้นปี 2020 เป็นต้นไป โดยฟีเจอร์นี้จะเริ่มใช้ได้จากในโปรแกรมเวิร์ดฟอร์เว็บ (Word for web) หรือเวิร์ดเวอร์ชั่นออนไลน์ที่ใช้งานผ่านทางเว็บนั่นเอง และในส่วนของโปรแกรมเวิร์ดในเวอร์ชันเดสก์ท็อป แอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือและแท็บเลตนั้น จะเปิดให้ใช้งานได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรือในเดือน มีนาคม-มิถุนายน ต่อไป และในส่วนของภาษาที่ฟีเจอร์นี้จะสามารถรองรับได้ยังไม่มีการประกาศออกมา และค่าใช้จ่ายสำหรับบริการนี้ทางไมโครซอฟท์จะประกาศให้ทราบอีกครั้งในภายหลัง แล้วพบกันได้ใหม่กับ “IT Up“ อัปเดตข่าวสารไอที ที่แฟนไอทีไม่ควรพลาด (ขอบคุณข้อมูลจาก : Microsoft) (ขอบคุณรูปภาพหน้าปกจาก : StockSnap)