เครดิตภาพจาก : Executium / UnsplashCardano หรือ ADA เหรียญดิจิทัลที่น่าจับตามอง สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่กำลังศึกษาตลาดคริปโทเคอร์เรนซี เป็นที่พลาดไม่ได้เลยที่จะต้องมารู้จักกับเหรียญ ADA เพราะเป็นเหรียญอันดับต้น ๆ ของตลาดมายาวนานเช่นกัน เหรียญ ADA คืออะไร ? มีดีอย่างไร? ทำไมถึงได้ชื่อว่าเป็นคู่แข่ง Ethereum ตามมาดูกันได้เลย!Cardabo คืออะไร ?Cardano เป็นเครือข่ายบล็อกเชนแบบ Open-Source สร้างขึ้นโดยนาย Charles Hoskinson ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ร่วมก่อตั้ง Ethereum โดยจุดประสงค์ในการสร้าง Cardano ขึ้นมานั้นก็เพราะเขาเชื่อว่า Blockchain นั้นสามารถพัฒนาในเรื่องของการขยายตัวของ Network ได้มากพอที่จะรองรับธุรกรรมจากทั่วโลก โดยออกแบบให้เครือข่ายมีการประมวลผลที่รวดเร็วมากขึ้น และจะเป็นประโยชน์ต่อผู้คนจำนวนมากอีกด้วย Cardano สามารถสร้าง Smart Contract ได้เช่นเดียวกับ Ethereum โดยที่มีเหรียญประจำเครือข่ายคือ “ADA” ที่ย่อมาจากชื่อของ “Ada Lovelace” นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษที่ได้รับการยกย่องเป็น “โปรแกรมเมอร์คนแรกของโลก” เพื่อแสดงถึงความเคารพ โดย ADA ได้รับการออกแบบโดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ เป็นเหรียญดิจิทัลที่ใช้ในการจ่ายค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมบนบล็อกเชนของ Cardano เช่นเดียวกับที่ ETH เป็นเหรียญที่ใช้จ่ายค่าธรรมเนียมบนบล็อกเชนของ Ethereum Cardano เป็นบล็อกเชนที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นรุ่นที่ 3เครดิตภาพ : โดยผู้เขียนCardano ถูกสร้างขึ้นเพื่อหวังให้เป็นบล็อกเชนที่สามารถแก้ปัญหาเดิมในบล็อกเชนของ Bitcoin และ Ethereum เพื่อให้ได้บล็อกเชนเวอร์ชั่นใหม่ที่ไฉไลมากยิ่งขึ้น โดยบล็อกเชนของ Cardano นั้นถูกพัฒนาขึ้นมาทั้งหมด 3 ด้านด้วยกันดังต่อไปนี้· Scalability คือเพิ่มความสามารถในการรองรับจำนวนธุรกรรมต่อวินาทีได้มากยิ่งขึ้น· Interoperability เพิ่มความสามารถในเรื่องของการแลกเปลี่ยนกับโทเค็นได้ในทุกรูปแบบ ทำให้บล็อกเชนสามารถร่วมงานกับคริปโทเคอร์เรนซีสกุลอื่น ๆ ได้มากยิ่งขึ้น· Sustainability สามารถปรับตัวตามตลาดคริปโตได้อย่างยั่งยืนโดยการพัฒนาบล็อกเชนของ Cardano นั้นมีการพัฒนาแบบ 2 เลเยอร์ด้วยกัน คือ· Settlement Layer คือ เลเยอร์ในการจัดการธุรกรรม การบันทึกธุรกรรม ซึ่งจะใช้ระบบ Proof-Of-Stake ในการยืนยันการทำธุรกรรมต่าง ๆ บนบล็อกเชน พัฒนาต่อยอดจาก Bitcoin และ Ethereum เพื่อให้ได้บล็อกเชนที่ดีมากยิ่งขึ้น · Computation Layer เป็นเลเยอร์ที่กำลังพัฒนาเพื่อสร้างสัญญา Smart Contract ให้ผู้ใช้งานสามารถกำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ ได้เองในการทำธุรกรรม Cardano Blockchain สามารถรองรับการทำธุรกรรมได้มากถึง 257 ธุรกรรม/วินาที ในขณะที่ Bitcoin Blockchain ทำได้เพียง 7 ธุรกรรม/วินาที และ Ethereum Blockchain ทำได้ 20 ธุรกรรม/วินาที เท่านั้น Cardano ใช้อัลกอริธึม Ouroboros เครดิตภาพ : Executium on Unsplashอัลกอริธึม Ouroboros เป็นโปรโตคอลที่มีการตรวจสอบและพัฒนาโดยทีมวิศวกรจาก IOHK ซึ่งพิสูจน์แล้วว่ามีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสูง และ Cardano ถือเป็นบล็อกเชนแรกที่ใช้อัลกอริธึมนี้ในการบันทึกและยืนยันการทำธุรกรรม Cardano ยังใช้ระบบการประมวลผลธุรกรรมแบบ Proof-Of-Stake (POS) เช่นเดียวกับ Ethereum ที่กำลังจะเปลี่ยนจาก Proof-Of-Work (POW) หรือการขุดเหรียญที่ใช้พลังงานสูงมากอย่าง Bitcoin หลักการทำงานของระบบ POS นั้นจะช่วยลดพลังงานลงได้อย่างมาก โดยผู้ตรวจสอบข้อมูลจะต้องวางเงินค้ำประกันเพื่อให้ตนนั้นได้รับการสุ่มเลือกเป็นผู้ตรวจสอบและบันทึกข้อมูลธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนเครือข่าย ผู้ที่วางเงินค้ำประกันสูงก็อาจมีโอกาสได้รับเลือกเป็นผู้ตรวจสอบการทำธุรกรรมสูงเช่นเดียวกันADA เป็นเหรียญที่มีจำนวนจำกัดเครดิจภาพจาก : coinmarketcap ADA นั้นถูกจำกัดจำนวนไว้ที่ 45 พันล้านเหรียญ ซึ่งปัจจุบัน (15 กรกฎาคม 2654) มีเหรียญ ADA ออกมาแล้วกว่า 32 ล้านเหรียญ โดยมีมูลค่าในตลาดอยู่ที่ 39 พันล้านดอลลาร์ ครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 3.04 % อยู่ในอันดับที่ 5 ของตลาดคริปโทเคอร์เรนซี อ้างอิงจากเว็บไซต์ Coinmarketcap.com โดยปริมาณเหรียญ ADA กว่า 16% ของเหรียญทั้งหมดถูกจัดสรรให้อยู่ที่ผู้ร่วมสร้างเหรียญ นั่นหมายความว่าอีก 84% จะถูกใช้หมุนเวียนในตลาดสำหรับนักลงทุนนั้นเองADA ถือเป็นเหรียญดิจิทัลที่ได้รับความนิยมและน่าจับตามองอยู่ไม่น้อย โดยหลักการนั้นเป็นไปเช่นเดียวกับ Ether (ETH) เนื่องจากทั้ง ADA และ ETH จะต้องใช้ในการจ่ายค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมเช่นเดียวกัน ดังนั้นทุก ๆ ธุรกรรมที่ทำบนบล็อกเชน Cardano นักลงทุนก็จำเป็นจะต้องใช้ ADA ในการจ่ายค่าธรรมเนียม ซึ่งนั่นก็ทำให้ความต้องการใช้ ADA มีอยู่ตลอด และด้วยการมีอยู่อย่างจำกัดของเหรียญจึงอาจทำให้ในอนาคตข้างหน้า ADA อาจเป็นเหรียญที่มีมูลค่าสูงมากยิ่งขึ้นก็เป็นไปได้เช่นกัน Cardano จะมาแรงแซง Ethereum ได้จริงหรือไม่ ?เครดิตภาพ : โดยผู้เขียนCardano ถูกจับตามองว่าเป็นคู่แข่งสำคัญของ Ethereum โดยมีการเปรียบเทียบว่า Cardano ก็คือ Ethereum ในฉบับที่พัฒนาแล้ว โดยระบบการทำงานบล็อกเชนของ Cardano นั้นสามารถประมวลผลและรองรับการทำธุรกรรมได้มากกว่า รวดเร็วกว่า และค่าธรรมเนียมถูกกว่า Ethereum อีกด้วยเป็นที่รู้กันดีว่า Ethereum นั้นกำลังทำโปรเจกต์ในการพัฒนาเครือข่ายให้เป็น Ethereum 2.0 ที่แก้ปัญหาเรื่องของการทำธุรกรรมที่ล่าช้าจาก Ethereum 1.0 เนื่องจากผู้ใช้งานที่มีจำนวนมหาศาล แต่โปรเจกต์นี้ก็ยังไม่เป็นที่เสร็จสมบูรณ์เนื่องจากการพัฒนาระบบเครือข่ายนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ทำให้ Ethereum 2.0 นั้นถูกคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2022 ที่จะถึงนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้สร้าง Cardano ก็มั่นใจว่าเครือข่ายบล็อกเชนของเขานั้นจะทำงานได้ดีกว่า Ethreum 2.0 ที่กำลังพัฒนาขึ้นมาอย่างแน่นอน เนื่องจากเขามองว่าเครือข่ายของ Cardano นั้นเป็นเครือข่ายที่มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับเปลี่ยนตามการเติบโตของตลาดคริปโทเคอร์เรนซีได้ดีกว่านั้นเองโดยส่วนตัวผู้เขียนเองมองว่าทั้งสองเหรียญนั้นเป็นคู่แข่งที่สูสีและกินกันไม่ลง เนื่องจาก ADA เองก็ยังมีข้อบกพร่องในเรื่องของสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ที่ยังไม่ได้พัฒนาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ Ethereum ยังคงได้เปรียบในเรื่องของสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ที่เปิดใช้งานมาก่อน และมี Decentralized Application (Dapps) กว่า 80% ที่ทำงานบนเครือขายบล็อกเชนของ Ethereum ในทางกลับกัน Cardano นั้นกำลังพัฒนาและทดสอบสัญญาอัจฉริยะอยู่ และคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงเดือนสิงหาคม 2564 ที่จะถึงนี้แม้ Ethereum จะมองดูได้เปรียบในเรื่องของ Smart Contract แต่หาก Cardano เปิดตัว Smart Contract ก็ใช้ว่าจะไม่มีทางสู้ Ethereum ได้แต่อย่างไร เพราะด้วยบล็อกเชนที่พัฒนามาให้มีความเหนือกว่าในเรื่องการรองรับจำนวนธุรกรรมและการประมวลผลที่เร็วกว่า ตรงนี้เองก็อาจทำให้ Cardano มีกระแสตอบรับที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว เนื่องจากคุณสมบัติของ Cardano นั้นถือว่าเทียบเท่าหรืออาจจะมีมากกว่า Ethereum เสียด้วยซ้ำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นความคิดในมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น ยังคงต้องรอลุ้นกันต่อไปว่าท้ายที่สุดแล้วเมื่อทั้งสองพัฒนาโปรเจกต์ของตนได้เสร็จสมบูรณ์แล้วผลตอบรับที่กลับมานั้นจะเป็นไปในทิศทางใดกันแน่เทรดเหรียญคริปโตที่คุณชื่นชอบกับ Bitkub กระดานซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำโดยคนไทย ได้รับใบอนุญาตอย่างเป็นทางการจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย https://www.bitkub.com/ *การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ควรศึกษาและทำความเข้าใจก่อนลงทุน* อ้างอิง investing , cardano.org , coinmarketcap , money.usnews เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !