2 บ.จีนประเดิมเอ็มโอยู รถอีวี "มอเตอร์โชว์" ขาย 2พันคัน
2 บ.จีนประเดิมเอ็มโอยู รถอีวี “มอเตอร์โชว์” ขาย 2พันคัน 8-9 ค่ายรถญี่ปุ่น-ยุโรปพาเหรดลงทุน-จ่อเซ็นสัญญา
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยเมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า กรมสรรพสามิตได้จัดพิธีลงนามข้อตกลงตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าดังกล่าว ระหว่างกรมสรรพสามิตกับผู้ประกอบอุตสาหกรรมที่พร้อมเข้าร่วมมาตรการ 2 ราย ได้แก่ 1. บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด 2. บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัทเอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
ทั้งนี้ เมื่อได้ลงนามในข้อตกลงแล้ว ผู้ประกอบอุตสาหกรรมทั้ง 2 ราย จะได้รับสิทธิในการรับเงินอุดหนุนจากการจำหน่าย รถยนต์ไฟฟ้า (บีอีวี) โดยในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ได้นำรถยนต์บีอีวี มาจำหน่าย จำนวน 3 รุ่น ได้แก่ ORA GOOD CAT 500 ultra , ORA GOOD CAT 400 Tech และ ORA GOOD CAT 400 Pro และบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัทเอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้นำรถยนต์ BEV มาจำหน่าย จำนวน 3 รุ่น ได้แก่ MG ZS EV, MG EP และ MG EP PLUS ราคาที่แสดงในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้จะเป็นราคาขายปลีกแนะนำที่ได้รับเงินอุดหนุนตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าแล้ว
นายลวรณ กล่าวว่าล่าสุด ทางค่าย เนต้า จากประเทศจีน ได้ยื่นขอเข้าร่วมมาตรการมาแล้ว คาดว่าจะลงนามข้อตกลงในเร็วๆนี้ เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีค่ายรถ ทั้งจากจีน ญี่ปุ่นและยุโรป เข้าร่วมมาตรการอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้กรมพร้อมแล้ว ดังนั้นค่ายรถยนต์สามารถเข้ามาลงนามความตกลงได้เลย จะใช้เวลา 1-2 วัน พิจารณาโครงสร้างราคา หลังจากนั้นสามารถจำหน่ายรถยนต์ในราคาได้รับส่วนลด เริ่มต้นตั้งแต่ 1.5 – 2 แสนบาทต่อคัน จากราคาขายรถยนต์ที่ได้รับการอนุมัติจากกรม
“สำหรับงานมอเตอร์โชว์ 2022 นี้จะมีสองค่ายรถยนต์ ได้แก่ เอ็มจี และเกรท วอล มอเตอร์ เข้าร่วมมาตรการส่งเสริงการใช้ยานยตร์ไฟฟ้าของรัฐบาลแล้ว และหากค่ายไหนพร้อมก็มาเซ็นสัญญากับกรมได้เลย เพราะถ้าผู้ประกอบการเข้าร่วมมาตรการเร็วเท่าไหร่ ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ” นายลวรณ กล่าว
นายลวรณ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามปีแรกของมาตรการส่งเสริมอีวี รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณไว้ที่ 3,000 ล้านบาท แต่หากเม็ดเงินไม่เพียงพอ เชื่อว่ารัฐบาลพร้อมเพิ่มวงเงินให้ แต่คาดว่าปีนี้ก็ใช้อยู่ในกรอบ 3,000 ล้านบาท ขณะที่งบสนับสนุนในปีถัดไป รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังและ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ พิจารณาแล้ว ส่วนเงื่อนไขกำหนดผู้ประกอบการเข้าร่วมมาตรการ ต้องผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ในปีที่ 3 คืนในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 `หรือเท่ากับจำนวนนำเข้ามาขายในช่วง 2 ปีแรก ส่วนปีที่ 4 จะต้องผลิตคืนในอัตราส่วน 1 ต่อ 1.5 หากไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขได้ จะมีบทลงโทษ ตามที่ได้เซ็นสัญญาไว้ เช่น เบี้ยปรับเงินเพิ่มจากภาษีอากรนำเข้า และภาษีสรรพสามิต เป็นต้น
นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษากรมสรรพสามิต กล่าวว่า ส่วนลดประชาชนจะได้รับส่วนลดถึง 3 ต่อ ต่อแรกคือส่วนลดจากอากรขาเข้าจะมีส่วนลดสูงสุดถึง 40% แล้วแต่กรณี อาทิ รถจากค่ายญี่ปุ่นได้รับส่วนอากรขาเข้า 20% ค่ายรถเกาหลี และยุโรป 40% ส่วนค่ายจีนจะไม่ได้เลย ส่วนที่สองคือส่วนลดจากภาษีสรรพสามิตจะเหลือ 2% จาก 6% ส่วนที่สามคือเงินอุดหนุนจากภาครัฐ ตั้งแต่ 7 หมื่นบาท ถึง 1.5 แสนบาท ขึ้นอยู่กับกำลังวัตต์ ถ้าต่ำกว่า 30 กิโลวัตต์ ส่วนลดจะอยู่ที่ 7 หมื่นบาท ถ้ากำลังวัตต์มากกว่า 50 ส่วนลดจะอยู่ที่ 1.5 แสนบาท
“เบ็ดเสร็จถ้าเป็นรถยุโรปราคามากกว่า 2 ล้านบาท หรือประมาณ 2.2 ล้านบาท จะได้รับส่วนลดถึง 4 แสนบาท ถ้าเป็นค่ายรถญี่ปุ่นราคาส่วนลดอาจได้ไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาท ถ้าราคารถอยู่ที่ 1 ล้านบาท ราคาที่ลดแล้วอาจจะอยู่ที่ 7 แสนบาท เป็นต้น”นายณัฐกร กล่าว
นายณัฐกร กล่าวอีกว่า ในงานมอเตอร์โชว์ 2022 นี้ ค่ายเกรท วอล มอเตอร์ มีรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมจำหน่าย 1,500 คัน ส่วนเอ็มจี อีก 500 คัน รวมเป็น 2,000 คัน นอกจากนี้ ยังมีค่ายรถอื่นๆที่แสดงความสนใจเข้าร่วมมาตรการอีก 8-9 ค่าย เช่น ค่ายจากยุโรป เบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู และค่ายจากญี่ปุ่น โตโยต้า ฮอนด้า มิซูบิชิ นิสสัน รวมถึงจากจีน ฟ็อกซ์คอนน์ เนต้า เป็นต้น