ศาลฟัน อดีตนายก ทต.ขนอม คุก 10 ปี คืนเงิน 5 แสน เบียดบังเงินสนับสนุนจัดงานสงกรานต์ปี'57
ศาลอาญาภาค 8 พิพากษาลงโทษจำคุก 2 กระทง 10 ปี คืนเงิน 5 แสน อดีตนายกเทศมนตรีตำบลขนอม นครศรีธรรมราช เบียดบังเงินสนับสนุนโครงการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ของดีเมืองขนอม ปี 2557
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายประสิทธิ์ เพชราภรณ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลขนอม จ.นครศรีธรรมราช เบียดบังเงินสนับสนุนโครงการจัดงานเทศกาลสงกรานต์และของดีเมืองขนอม ประจำปี 2557 ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 157 ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2561
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 มีคำพิพากษาว่า นายประสิทธิ์ เพชราภรณ์ จำเลย มีความผิดตามมาตรา 147 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามมาตรา 91 ฐานเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ลงโทษจำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 2 กระทง
รวมจำคุก 10 ปี และให้จำเลยคืน หรือใช้เงิน 500,000 บาท แก่สำนักงานเทศบาลตำบลขนอม ทั้งนี้ คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลยมีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565 เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) ที่จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท