การจัดการมรดกเป็นกระบวนการแบ่งทรัพย์สินของผู้ตายให้กับผู้มีสิทธิรับมรดก ได้แก่ ทายาท ซึ่งตามขั้นตอนในการโอนทรัพย์สินต่างๆ เช่น ที่ดิน บ้าน รถ หรือการถอนเงินจากธนาคาร ซึ่งเป็นทรัพย์สินของผู้ตายนั้น จะต้องมีคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดกของศาลนำไปแสดงเป็นหลักฐานให้กับหน่วยงานต่างๆ ถึงจะดำเนินการได้ ซึ่งการยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก ทายาทจะต้องมอบให้ทนายความไปดำเนินการยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกที่ศาล ซึ่งในปัจจุบัน สำนักงานศาลยุติธรรมได้เปิดระบบให้ประชาชนสามารถยื่นคำร้องได้ด้วยตนเองผ่านระบบ E-Filing ซึ่งเป็นระบบออนไลน์ ในบทความนี้ผู้เขียนจึงได้สรุปขั้นตอนการดำเนินการมาเผยแพร่ให้กับผู้อ่าน ได้รับทราบครับ "เพราะถึงแม้เราจะไม่อยากยุ่งกับเรื่องกฎหมาย แต่ไม่นานกฎหมายก็จะเข้ามายุ่งกับเราแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องมรดก"กฎหมายมรดกวางหลักเกณฑ์เบื้องต้นไว้ ดังนี้1. เมื่อบุคคลใดตาย มรดกของบุคคลนั้นตกทอดแก่ทายาท (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1599 )2. กองมรดกของผู้ตายได้แก่ทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตาย ตลอดทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่าง ๆ (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1600)3. กองมรดกย่อมตกทอดแก่ทายาทโดยสิทธิตามกฎหมายซึ่งเรียกว่า “ทายาทโดยธรรม” หรือโดยพินัยกรรม ซึ่งเรียกว่า “ผู้รับพินัยกรรม” (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1603)เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว การดำเนินการหลังจากมีผู้เสียชีวิต ก็ตกเป็นหน้าที่ของทายาทที่ต้องดำเนินการจัดการทรัพย์มรดก นั้นก็คือทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ตาย นั่นเอง ทั้งนี้ การดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้ตายนั้น เวลาที่ทายาทไปติดต่อยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่วนมากแล้วหน่วยงานดังกล่าวจะยังไม่ดำเนินการโอนทรัพย์สินใดๆ ให้กับทายาท จนกว่าจะมีคำสั่งศาลตั้งผู้จัดการมรดกมายื่นเป็นหลักฐาน ปัจจุบัน สำนักงานศาลยุติธรรม ได้จัดให้มีระบบยื่นจัดการมรดกออนไลน์ โดยประชาชนสามารถยื่นได้ด้วยตนเอง ผ่านระบบ e-Filing โดยสามารถดำเนินการได้ 2 กรณี คือ 1.กรณีทายาททุกคนยินยอมให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดก 2.กรณีมีข้อกำหนดในพินัยกรรมให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดก โดยมีขั้นตอนเบื้องต้น ดังนี้1. เข้าไปที่ ระบบ e-Filing ของศาลยุติธรรม https://efiling3.coj.go.th/eFiling/# เลือกที่หัวข้อ "ประชาชน"2. ขั้นตอนต่อไป ให้ลงทะเบียนให้เรียบร้อย และต้องโหลดแอปพลิเคชัน COJ Connect ของระบบศาลในโทรศัพท์มือถือ เพื่อลงทะเบียนใช้งานระบบด้วย โดยจะมีคู่มือการเข้าใช้งานโดยละเอียดให้โหลดเก็บไว้ด้วยครับ ซึ่งในขั้นตอนนี้จะต้องมีการยืนยันตัวตนและรอการตอบกลับจากระบบ โดยจะทราบผลผ่านทางข้อความในมือถือและอีเมลที่ลงทะเบียนไว้ ทั้งนี้ ตอนลงทะเบียนให้จดชื่อการเข้าใช้และรหัสผ่านที่เราตั้งไว้ด้วยนะครับ3. เมื่อลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อย ประชาชนก็สามารถเข้าใช้งานระบบ e-Filing ได้ด้วยตนเองครับ โดยจะมีรหัส OTP ส่งเข้าไปที่โทรศัพท์มือถือทุกครั้งที่มีการเข้าระบบมาลองดูตัวอย่างคร่าวๆ ของการยื่นจัดการมรดกกันนะครับ เบื้องต้นมีเอกสารที่ต้องเตรียม ดังนี้สำเนาบัตรประชาชนผู้ร้อง ใบมรณบัตรของผู้ตายหนังสือยินยอมจากทายาทอื่นๆทะเบียนบ้านผู้ร้องและผู้ตายหนังสือสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อตัว-สกุลของผู้ตาย (ถ้ามี)พินัยกรรม(ถ้ามี)ใบสำคัญการสมรสของผู้ตาย(ถ้ามี)ใบมรณบัตรของบิดามารดาของผู้ตาย(ถ้ามี)หนังสือสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อตัว-สกุลของผู้ร้อง(ถ้ามี)บัญชีเครือญาติของผู้ตายเอกสารเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้ตายขั้นตอนที่ 1 เมื่อเข้าระบบแล้วเลือกที่หัวข้อ ยื่นคำร้องขอคดีจัดการมรดกขั้นตอนที่ 2 ใส่ข้อมูลในระบบตามขั้นตอนให้ครบทั้งหมด 8 ขั้นตอนกรณีที่อยู่ของผู้ตายก็ให้เลือกภูมิลำเนาของผู้ตายในขณะถึงแก่ความตาย ซึ่งระบบจะขึ้นชื่อศาลที่มีเขตอำนาจโดยอัตโนมัติในส่วนข้อมูลอื่นๆ ก็ให้ผู้ยื่นคำร้องกรอกไปตามข้อเท็จจริง โดยผู้เขียนจะเน้นขั้นตอนที่ 5 และขั้นตอนที่ 6 คือการสแกนเอกสารเข้าระบบนั้น ต้องเป็นไฟล์ PDF ขนาดไม่เกิน 1 MB โดยรับรองสำเนาถูกต้องด้วยก่อนสแกนนะครับขั้นตอนสุดท้าย เมื่อมาถึงขั้นตอนที่ 8 หากบันทึกข้อมูลในระบบและสแกนเอกสารหลักฐานต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ระบบก็จะมีการสรุปรายการเอกสารให้ทราบ จากนั้นก็คลิกส่งคำร้องให้เจ้าหน้าที่ เป็นอันเสร็จขั้นตอนการบันทึกข้อมูลเพื่อยื่นคำร้องครับ โดยผู้ยื่นคำร้องจะต้องเสียค่าธรรมเนียม จำนวน 200 บาท ทั้งนี้อาจมีค่านำส่งหมายที่ตั้งภูมิลำเนาของเจ้ามรดกด้วยแล้วแต่กรณี ซึ่งอาจโทรศัพท์ไปสอบถามทางศาลนั้นๆ อีกครั้งครับหลังจากนั้นจะมีการลงกำหนดวันนัดไต่สวนคำร้องผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งระบบอาจมีให้เลือกวันที่ผู้ร้องสะดวกหรืออาจจะต้องโทรศัพท์ไปที่ศาลขอเปิดวันนัดอีกครั้ง ทั้งนี้ ในวันไต่สวนคำร้อง ผู้ยื่นคำร้องต้องเลือกใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสม เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และมีสถานที่ปิดไม่มีการรบกวนจากภายนอกอย่างไรก็ตาม เนื่องจากร้องศาลตั้งผู้จัดการมรดกด้วยตนเองเป็นการดำเนินการโดยประชาชน ไม่ใช่การดำเนินการโดยทนายความที่มีความรู้ทางกฎหมายโดยเฉพาะ ผู้เขียนขอให้ผู้ใช้งานระบบทุกท่านโปรดศึกษาคู่มือให้ละเอียดอีกครั้ง เพื่อป้องกันความผิดพลาดนะครับ ภาพประกอบบทความบันทึกภาพโดยผู้เขียน จากระบบ E-FILING สำนักงานศาลยุติธรรมภาพหน้าปก : baseimage อัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !