กาญจนบุรีลุ้นผลตรวจโควิดวัยรุ่นเมียนมาร์ สังขละบุรีเข้มความปลอดภัยนทท.หยุดยาว
ผู้ว่าฯ กาญจน์ ยันผลตรวจไม่พบเชื้อโควิด 2 ราย รอลุ้นผลวัยรุ่นชาวเมียนมา ด้านโรงเรียนบ้านกุยแหย่ เตรียมเปิดเรียน 8 ก.ย. ขณะที่ นอภ.สังขละบุรี คุมเข้มมาตรการป้องกันการระบาด พร้อมรับนักท่องเที่ยวทะลักช่วงวันหยุดยาว
จากกรณีที่พบชาวเมียนมา จำนวน 2 คน หลบหนีเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมายผ่านมาตามช่องทางธรรมชาติ และมาพักอาศัยในพื้นที่บ้านพุล่อ หมู่ที่ 3 ตำบลลิ่นถิ่น อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ซึ่งเบื้องต้นตรวจพบมีอาการเข้าข่ายสงสัยป่วยโรคโควิด-19 และยังพบเด็กชายอายุ 1 ปี ในบ้านที่ทั้งสองคนไปพักอาศัยอยู่ด้วยก็เข้าข่ายด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังพบผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยเป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านกุยแหย่ หมู่ที่ 2 บ้านกุยแหย่ ตำบลลิ่นถิ่น อีกจำนวน 3 คน จึงทำให้ทางโรงเรียนฯ ต้องสั่งปิดเรียนเป็นเวลา 3 วัน ทันที เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ 2 ก.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์โควิดฯ กจ. โดย นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ กจ 0017.2/2563 ลงวันที่ 1 กันยายน 2563 ถึง ปลัดกระทรวงมหาดไทย ใจความว่า “ตามที่ปรากฏข่าวสารผ่านทางสื่อต่างๆ ว่าโรงเรียนบ้านกุยแหย่ ตำบลลิ่นถิ่น อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี มีการปิดโรงเรียนชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 1-3 กันยายน 2563 และทำการ Big Cleaning Day เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เนื่องจากพบชายและเด็กที่พักอาศัยอยู่ใกล้กับโรงเรียน จำนวน 3 คนมีอาการไข้สูง 39-40 องศาเซลเซียส นั้น
จากเหตุการณ์ข้างต้นได้สร้างความวิตกกังวลกับพี่น้องประชาชนผู้ที่ได้รับข้อมูลข่าวสารว่าการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีหรือไม่นั้น จังหวัดกาญจนบุรีไม่ได้นิ่งนอนใจต่อกรณีดังกล่าวและขอเรียนให้ทราบ ดังนี้
1.โรงพยาบาลทองผาภูมิได้ส่งผู้ที่มีอาการไข้ 3 ราย ประกอบด้วยชายอายุ 20 ปี จำนวน 1 ราย, ชายอายุ 17 ปี จำนวน 1 ราย และเด็กอายุ 1 ปี จำนวน 1 ราย ไปตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ขณะนี้ผลตรวจออกมาแล้ว ปรากฏว่าชายอายุ 20 ปี และเด็กอายุ 1 ปี ไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยังคงเหลือรอผลการตรวจของชายอายุ 17 ปี
2.ได้ตรวจสอบแล้วชายทั้ง 2 เป็นผู้อาศัยอยู่ตามแนวชายแดน ได้อาศัยอยู่ในเขตหมู่บ้านบ้านไร่ป้า หมู่ที่ 5 ตำบลห้วยเขย่ง อำเภอทองผาภูมิ และเขตใกล้เคียงเป็นเวลานานเกินกว่า 2 สัปดาห์แล้ว และไม่ได้เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
3.จากการประเมินเบื้องต้นของแพทย์ อาการป่วยจากไข้สูงไม่น่าจะมาจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แต่อย่างใด
4.การที่โรงเรียนบ้านกุยแหย่สั่งปิดโรงเรียนในครั้งนี้นั้น เป็นเพียงมาตรการป้องกันที่ไม่ประมาทเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่เท่านั้น
5.หากมีความคืบหน้าประการใดจังหวัดกาญจนบุรีจะรายงานให้กระทรวงมหาดไทยทราบในโอกาสแรกอีกครั้งหนึ่ง”
ถึงแม้เบื้องต้นผลตรวจผู้ป่วย 2 ราย จะเป็นลบ ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกุยแหย่ ยังคงร่วมกับ อสม. และผู้นำชุมชน ลงพื้นที่ชุมชนบ้านพุล่อ เพื่อทำการตรวจวัดไข้และสังเกตอาการทุกคนที่อยู่ในชุมชน จำนวนกว่า 70 คน โดยเฉพาะบ้านพักของผู้ป่วย และนักเรียนผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดทั้ง 3 ราย รวมทั้งเพื่อนบ้านใกล้เคียง กว่า 15 หลังคาเรือน พร้อมให้ข้อแนะนำในการกักตัวให้อยู่แต่ในบ้าน ไม่ให้ออกไปไหนโดยไม่จำเป็น เพื่อเป็นการควบคุมโรค โดยยังคงให้กักตัวจนครบ 14 วัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
ในส่วนของโรงเรียนบ้านกุยแหย่ ที่ทาง นายนิล โชคสงวนทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ได้สั่งปิดเรียนเป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 1-3 กันยายน 2563 พร้อมร่วมกัน Big Cleaning ด้วยการฉีดพ่นทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ และกำชับให้นักเรียนทุกคนสังเกตอาการตนเองและดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข โดยมีกำหนดทำการเปิดเรียนตามปกติในวันที่ 8 กันยายน ที่จะถึงนี้ พร้อมทั้งยกระดับการดูแลเรื่องสุขอนามัยของนักเรียนให้เข้มข้นขึ้น
ขณะที่สถานการณ์ด้าน อ.สังขละบุรี นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี ได้เรียกประชุม ส่วนราชการ หน่วยงานด้านความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ครูจากโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี กำนันผู้ใหญ่บ้าน กลุ่มผู้นำชุมชนในพื้นที่ เข้าร่วมหารือเกี่ยวกับมาตรการการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศเมียนมา ที่พบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายฝ่ายเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของพื้นที่ตามแนวชายแดนที่มีพื้นที่ติดกับประเทศเมียนมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี ซึ่งถือเป็นเมืองท่องเที่ยวและมีพื้นที่แนวชายแดน บริเวณบ้านพระเจดีย์สามองค์ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี ที่ติดต่อกับ เมืองพญาตองซูประเทศเมียนมา ซึ่งหลายฝ่ายมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไปเที่ยวในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันหยุดยาว 4-7 กันยายน 2563 นี้
โดย นายปกรณ์ ได้ขอความร่วมมือทุกหน่วยงาน ให้ร่วมกันปฏิบัติตามมาตรการการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น ทั้งหน่วยงานด้านความมั่นคง ที่ต้องคอยตรวจตรา ป้องกันการลักลอบเดินทางผ่านแดนเข้ามาในประเทศไทยของชาวเมียนมา ขณะที่ในส่วนของโรงเรียนต่างๆ ก็ได้ขอความร่วมมือคณะครูและบุคลากรของโรงเรียนให้ดำเนินมาตรการเฝ้าระวังตรวจวัดไข้ของนักเรียนทุกวัน โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ มีญาติและครอบครัวอยู่ในพื้นที่ฝั่งประเทศเมียนมา ก็จะให้คณะครูขอความร่วมมือนักเรียนกลุ่มดังกล่าว ให้งดการเดินทางเข้าไปเยี่ยมญาติในประเทศเมียนมา แต่หากพบว่ามีนักเรียนคนใดที่เดินทางเข้าไปในประเทศเมียนมา ก็ขอให้ดำเนินการกักตัวเฝ้าระวังเป็นระยะเวลา 14 วันตามมาตรการ
พร้อมกันนี้ นายอำเภอสังขละบุรี ได้กล่าวยืนยันให้ความมั่นใจ กับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาเที่ยวที่อำเภอสังขละบุรีในช่วงวันหยุดยาว วันที่ 4-7 กันยายน 2563 นี้ว่า อำเภอสังขละบุรียังคงถือเป็นพื้นที่ปลอดภัย จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานมีการปฏิบัติงานเฝ้าระวังกันอย่างเต็มที่ กลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมรีสอร์ท ที่พัก และร้านอาหารต่างๆ ก็ยังคงปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น จึงขอให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาเที่ยวในอำเภอสังขละบุรีช่วงวันหยุดยาวนี้มั่นใจได้ว่า จะสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัยแน่นอน ชาวอำเภอสังขละบุรียินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนและขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าพื้นที่ ให้ปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย การหมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ การเลือกซื้อสินค้าก็ขอให้นักท่องเที่ยวพิจารณาตัวสินค้าให้ถี่ถ้วนว่ามีที่มาจากแหล่งใด และหลีกเลี่ยงการเดินทางข้ามไปยังฝั่งประเทศเมียนมา เพียงเท่านี้ก็สามารถท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัยและมีความสุข
ส่วนทางด้าน โรงเรียนอุดมสิทธิศึกษา โดย นายเจริญ พรหมมา ผอ.โรงเรียนฯ ได้สั่งการให้คุณครูทุกชั้นดำเนินการตามมาตรการป้องกันการระบาดของโรคอย่างเคร่งครัด โดยให้ตรวจสอบนักเรียนทุกวันว่ามีนักเรียนที่อยู่ในประเทศเมียนมาและยังไม่ผ่านกระบวนการกักตัว 14 วัน มาโรงเรียนหรือไม่ ถ้าพบว่ามีนักเรียนกลุ่มนี้มาโรงเรียน ให้รีบแยกนักเรียนออกจากนักเรียนอื่นๆ แล้วรายงานโดยด่วน ให้กำชับนักเรียนที่อยู่ในเมียนมา แต่ผ่านกระบวนการกักตัว 14 วันแล้ว และอาศัยอยู่ในพื้นที่ของประเทศไทยมาโดยตลอด ห้ามกลับเข้าไปยังประเทศเมียนมา ถ้าพบว่านักเรียนกลุ่มดังกล่าวกลับไปบ้านในประเทศพม่า ต้องให้กักตัวอีก 14 วัน และเน้นย้ำนักเรียนทุกคนห้ามข้ามแดนไปยังประเทศพม่าทุกช่องทาง และห้ามสัมผัสบุคคลที่มาจากประเทศพม่าอย่างเด็ดขาด
สำหรับบรรยากาศที่ตลาดสังขละบุรียังคงมีประชาชนและนักท่องเที่ยวออกมาท่องเที่ยวและจับจ่ายซื้อสินค้าตามปกติ และคาดว่าในช่วงวันหยุดยาว 4 วันที่จะถึงนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวที่ อ.สังขละบุรี ไม่ต่ำกว่าวันละ 4-5 พันคน