“โดรนไร้คนขับ” เก็บข้อมูลสภาพอากาศแดนเยือกแข็ง “แอนตาร์กติกา”
ท่ามกลางสภาพอากาศอันหนาวเหน็บของแดนเยือกแข็งแห่งนี้ กำลังเป็นที่ทดสอบบินของโดรนบินบรรทุกของหนักในทวีปแอนตาร์กติกา ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการวิจัยและพัฒนาการใช้โดรนบินเพื่อช่วยทีมนักวิทยาศาสตร์ ศึกษาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และมองหาวิธีที่ดีกว่าในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับทวีปน้ำแข็ง โดยลดการพึ่งพาเจ้าหน้าที่ที่เป็นมนุษย์
สำหรับโดรนบินไร้คนขับ ที่ใช้ในการทดสอบนี้ คือ วินด์เรซเซอร์ อัลตรา ยูเอวี (Windracers ULTRA UAV) ซึ่งทำการบินเป็นระยะทางรวมแล้วกว่า 700 กิโลเมตร ตัวโดรนถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติ พร้อมขุมพลังแบบเครื่องยนต์คู่ ส่วนปีกออกแบบให้เป็นแบบ "fixed-wing" หรือที่เรียกกันว่าปีกตรึง หรือปีกแบบคงที่ เพื่อใช้สร้างแรงยก ตัวโดรนสามารถบรรทุกสัมภาระได้ถึง 100 กิโลกรัม มีพิสัยการบินที่ 1,000 กิโลเมตร ทำให้สามารถบินสำรวจระยะไกลได้
นอกจากนี้ตัวโดรนยังออกแบบให้สามารถบินต่อไปได้ แม้ว่าเครื่องยนต์ตัวใดตัวหนึ่งจะล้มเหลว อีกทั้งยังได้รับการออกแบบให้พึ่งพาการซ่อมแซมในภาคสนามโดยใช้ชิ้นส่วนให้น้อยที่สุด เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ห่างไกล และยังสามารถบินขึ้นและลงจอดได้ โดยพึ่งพาการควบคุมจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานภาคพื้นดินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ส่วนภายในของโดรน จะติดตั้งเซ็นเซอร์ และกล้องหลากหลายประเภท เพื่อช่วยการสำรวจพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงตัวโดรนยังมีการใช้เซ็นเซอร์แม่เหล็ก ช่วยให้ตัวโดรนมองผ่านน้ำแข็ง เพื่อตรวจสอบภูมิทัศน์ของทวีปที่ถูกฝังอยู่ใต้น้ำแข็งหนาถึง 4,000 เมตรได้
ดร.ทอม จอร์แดน (Dr Tom Jordan) นักธรณีฟิสิกส์อากาศจาก British Antarctic Survey หรือองค์กรสำรวจภูมิภาคแอนตาร์กติกของสหราชอาณาจักร กล่าวกับสื่อรอยเตอร์ว่า การใช้แพลตฟอร์มเก็บข้อมูลทางอากาศผ่านโดรนนี้ เป็นวิธีรวบรวมข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ เพราะครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ภาคพื้นดินอีกด้วย
สำหรับโครงการนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนำร่องที่เรียกว่า "การปกป้องสภาพแวดล้อมด้วยฝูงยานพาหนะทางอากาศไร้คนขับ" ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสาธิตวิธีการใช้เทคโนโลยีโดรนขั้นสูง เพื่อรวบรวมข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมในทวีปแอนตาร์กติกา ที่อาจช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นบนทวีปน้ำแข็งแห่งนี้ได้นั่นเอง
ข้อมูลจาก reutersconnect, bas.ac.uk