วุ่นทั้งโรงเรียน! สั่งกักตัวนักเรียนร.ร.อนุบาลดังแปดริ้ว หลังครูชั้นป.4 ติดโควิด
วุ่นทั้งโรงเรียน! สั่งกักตัวนักเรียนร.ร.อนุบาลดังแปดริ้ว หลังครูชั้นป.4 ติดเชื้อ และบุคลากรที่สัมผัสใกล้ชิดให้เฝ้าระวัง ปิดห้องเรียนเพื่อทำความสะอาดอาคาร
เมื่อวันที่ 4 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การระบาดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา มีผู้ติดเชื้อรายวันกว่า 500-600 ราย ล่าสุดโรงเรียนอนุบาลขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ภายในเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งมีนักเรียนระดับชั้นอนุบาล 1-3 และ ป.1-ป.6 หลายพันคน มีหนังสือส่งถึงผู้ปกครองนักเรียนในระดับชั้น ป.4 เพื่อรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในโรงเรียนว่า เมื่อวันที่ 3 มี.ค. มีข้าราชการครูระดับชั้น ป.4 ตรวจยืนยันผลว่าเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 ราย และเข้ารับการรักษาตามระบบแล้ว
เหตุการณ์ดังกล่าวทางโรงเรียนจึงขอความร่วมมือนักเรียนและบุคลากรที่สัมผัสใกล้ชิดให้เฝ้าระวัง กักตัว และปฏิบัติตามมาตรการเผชิญเหตุของทางโรงเรียน โดยให้ครูระดับชั้น ป.4 รวมถึงนักศึกษาฝึกประสบการณ์ (ครูฝึกสอน) และนักเรียนชั้น ป.4 ทุกคนที่มาเรียนออนไซต์เกือบ 10 ห้องเรียน เข้ารับการตรวจคัดกรอง ATK เพื่อประเมินความเสี่ยง ตรวจหาเชื้อ และหยุดกักตัวเพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 7 วัน พร้อมตรวจ ATK ในทุกๆ 72 ชม.
หากผลการตรวจเป็นบวก หรือมีอาการผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์ พร้อมประเมินไทยเซฟไทย (TST) ในทุกวัน ขณะที่ทางโรงเรียนจะทำการปิดห้องเรียนเพื่อทำความสะอาดอาคารเรียน ในพื้นที่อาคาร 8 ซึ่งเป็นอาคารระดับสายชั้น ป.4 ระหว่างวันที่ 3-5 มี.ค.65
ส่วนการเรียนการสอนระหว่างวันที่ 4-10 มี.ค.65 จะจัดในรูปแบบออนไลน์ทั้งหมด และในวันที่ 11 มี.ค.65 ให้ข้าราชการครู บุคลากร นักศึกษาฝึกประสบการณ์ และนักเรียนชั้น ป.4 ที่เลือกเรียนในรูปแบบ ออนไซต์ทุกคนตรวจ ATK และแจ้งผลให้ทางโรงเรียนทราบ
ส่วนการตรวจพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ในช่วง 3 วันล่าสุดนั้น ยังมีสถิติของการตรวจพบผู้ติดเชื้อสูงมากเกินกว่า 400 รายต่อวัน โดยเมื่อวันที่ 2 มี.ค.65 ตรวจพบผู้ติดเชื้อ จำนวน 456 ราย ขณะที่เมื่อวานนี้ (3 มี.ค.) ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในการตรวจพบผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ นับตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปี 2565 ที่ผ่านมา จำนวน 484 ราย
และในวันนี้ (4 มี.ค.) ยังมียอดจำนวนผู้ติดเชื้อมากถึง 410 ราย ทำให้ขณะนี้ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา มีผู้ติดเชื้อระลอกใหม่สะสม 11,336 ราย เสียชีวิต 14 ราย โดยยังอยู่ระหว่างการรักษาจำนวน 3,886 ราย รักษาหายแล้ว จำนวน 7,436 ราย
ที่มา มติชนออนไลน์