เปิดตำราคชลักษณ์ “ช้างสำคัญ”ช้าง เป็นสัตว์เก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของชาวไทยมาช้านาน เพราะมีลักษณะโดดเด่นเป็นสง่ามากกว่าสัตว์ชนิดอื่น อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างช้างกับคนไทยแต่ละยุคสมัยก็มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันมาอย่างยาวนาน ทั้งการใช้ช้างศึกในการต่อสู้ปกป้องอธิปไตย การใช้ช้างเพื่อชักลากสิ่งของแทนแรงงานมนุษย์ รวมไปถึงเป็นพาหนะที่ใช้ในการเดินทางนอกจากนี้ ช้างยังเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจและบารมีของพระมหากษัตริย์ กล่าวคือ หากมีช้างสำคัญกำเนิดในสมัยของพระมหากษัตริย์องค์ใดมากเพียงใด ก็แสดงให้เห็นว่า พระมหากษัตริย์พระองค์นั้น มีพระบารมีกว้างใหญ่แผ่ไพศาลไปทั่วสารทิศ และเป็นที่ยำเกรงต่ออริราชศัตรู รวมไปถึงมิตรประเทศรูปภาพจาก : pixabayช้างสำคัญหรือช้างมงคล จะต้องมีลักษณะครบถ้วนถูกต้องตามตำราคชลักษณ์ที่สืบสานกันมายาวนาน ซึ่งถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อให้คุณต่อบ้านเมืองนั้น ๆ โดยเฉพาะ “ช้างเผือกหรือช้างที่มีลักษณะพิเศษเป็นมงคล” ที่หากใครได้เป็นเจ้าของก็จะส่งผลให้ผู้เป็นเจ้าของพบแต่ความเจริญรุ่งเรืองไปด้วยอย่างไรก็ดี ช้างเผือก ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีผิวกายเป็นสีขาวหรือเกิดจากพ่อแม่ที่เป็นช้างเผือกเท่านั้น เพราะตามคัมภีร์พระคชศาสตร์หรือตำราคชลักษณ์ เชื่อว่า ช้างเผือก เป็นช้างที่เทพชั้นสูงหรือมหาเทพประทานมาให้พระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นผู้ทรงทศพิธราชธรรม โดยช้างสำคัญนั้นจะมีด้วยกัน 4 ตระกูล คือรูปภาพจาก : freepikพรหมพงศ์ หมายถึง ช้างเผือกตระกูลที่พระพรหมเนรมิต หรือช้างชาติพรหม จะมีเนื้อหนังอ่อนนุ่ม หน้าใหญ่ ท้ายต่ำ ขนอ่อนละเอียด เส้นเรียบ ขึ้นขุมละ 2 เส้น สีขาว โขมดสูง คิ้วสูง น้ำเต้าแฝด มีกระเต็มตัว ขนที่หลังหู ปาก และขอบตาจะมีสีขาว อกใหญ่ งาสีเหลือง เรียวรัดงดงาม เป็นช้างแห่งอายุยืนยง และสูงส่งด้วยวิทยาการอิศวรพงศ์ หมายถึง ช้างเผือกตระกูลที่พระอิศวรเนรมิต หรือช้างชาติกษัตริย์ จะมีผิวกายดำสนิท งาอวบ งอนเสมอกันทั้งสองข้างอ้อมโอบงวง เท้าใหญ่ น้ำเต้ากลม คอย่น อกใหญ่ หน้าเชิด ถือเป็นช้างแห่งความสุข เจริญด้วยทรัพย์สินและอำนาจวิษณุพงศ์ หมายถึง ช้างเผือกตระกูลที่พระวิษณุเนรมิต หรือช้างชาติแพศย์ จะมีผิวหนา ขนหนา เกรียน สีทองแดง อก คอ คางใหญ่ หางยาว งวงยาว หน้าใหญ่ นัยน์ตาขุ่น หลังราบ เป็นช้างแห่งชัยชนะ พลาหาร ธัญญาหาร และน้ำฝนจะอุดมสมบูรณ์อัคนีพงศ์ หมายถึง ช้างเผือกตระกูลที่พระอัคนีเนรมิต หรือช้างชาติศูทร จะมีท่วงทีงดงาม เดินเชิดงวง อกใหญ่ งาทั้งสองโค้งพอจรดกัน มีสีเหลืองจนสีขาวปนแดง ผิวกายคล้ายสีใบตองตากแห้งช้างเผือกมีความสำคัญต่อองค์พระมหากษัตริย์เป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น หากพระมหากษัตริย์พระองค์ใดทรงได้ไว้ก็จะหวงแหน และประกอบราชพิธีขึ้นระวางสมโภชเป็นพระยาช้างต้นให้มีบรรดาศักดิ์เป็นพระยาช้างเผือกประจำองค์ของพระมหากษัตริย์หรือประจำรัชกาล และพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์จะมีพระยาช้างเผือกประจำพระองค์ทั้งสิ้น โดยในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีช้างเผือกประจำรัชกาลมากที่สุดคือ 10 เชือก ส่วนช้างเผือกคู่พระบารมีของในหลวงรัชกาลที่ 10 นั้น คือ “พลายเอกชัย” ซึ่งอยู่ในตระกูลพรหมพงศ์ ปัจจุบันมีอายุ 35 ปี และอยู่ในความดูแลของศูนย์อนุรักษ์ช้างของ บริษัท ช้างทองคำ (ประเทศไทย) จ.มหาสารคามบทความโดย : punpun_storyขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ : ภาพหน้าปก โดย energepic.com / ภาพประกอบที่ 1 โดย Josch13 / ภาพประกอบที่ 2 โดย zaniastudio / ภาพประกอบที่ 3 โดย ผู้เขียนบทความเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !