‘พิพัฒน์’ เล็งถกเป็นการภายใน 23 เม.ย.นี้ เน้นติดตามสถานการณ์ท่องเที่ยว-เปิดประเทศรับต่างชาติ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า หลังจากเทศกาลสงกรานต์ผ่านไปแล้ว กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะต้องประเมินสถานการณ์ในภาคการท่องเที่ยว เพื่อวางแผนการดำเนินงานต่อไป โดยในวันที่ 23 เมษายนนี้ ได้กำหนดการประชุมร่วมกับผู้บริหารของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จำนวน 8 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ เพื่อประเมินสถานการณ์รายงานการท่องเที่ยวของประเทศไทยในปัจจุบัน โดยเฉพาะผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทยอย่างไรบ้าง เพื่อกำหนดทิศทางการทำงานหลังจากนี้ รวมถึงการขอรับทราบรายงานการดำเนินโครงการ และมาตรการทางด้านการท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาล ว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ภายในการประชุมครั้งนี้ จะระดมแนวคิดเพื่อหารือถึงการดำเนินมาตรการทางด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ หลังจากทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ยืนยันว่า พร้อมผลักดันการดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 ซึ่งครั้งนี้ได้กำหนดเปิดให้ผู้ที่สนใจมาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ จำนวน 2 ล้านสิทธิ โดยจะขยายเวลาการใช้โครงการออกไปถึงวันที่ 31 สิงหาคมนี้ รวมถึงโครงการทัวร์เที่ยวไทย ที่รัฐจะสนับสนุนค่าแพคเกจท่องเที่ยวจำนวนไม่เกิน 5,000 บาท ผ่านการเดินทางกับบริษัททัวร์นำเที่ยว จำนวน 1 ล้านสิทธิ เพื่อกระตุ้นการเดินทางในวันธรรมดามากขึ้น โดยยังคงเป้าหมายการเปิดให้ประชาชนเริ่มจองสิทธิในโครงการ ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้แน่นอน แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดระลอก 3 นี้อย่างใกล้ชิดด้วยว่า จะสามารถออกเดินทางได้แบบปลอดภัยช่วงใด เพื่อให้การเดินทางเกิดขึ้นควบคู่ไปกับความปลอดภัยด้วย
“ประเด็นหลักๆ ในการหารือครั้งนี้ คือ จะมีการมอบหมายให้ทุกหน่วยงานพิจารณาแนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ หรือมีการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าเอาไว้ โดยเฉพาะเรื่องการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แบบไม่กักตัว ซึ่งจะนำร่องที่จังหวัดภูเก็ต ผ่านโมเดลแซนด์บ๊อกซ์ ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2664 เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ อยู่ระหว่างการหาทางผลักดันให้เกิดขึ้นตามเป้าหมาย ซึ่งคาดว่าการหารือครั้งนี้น่าจะมีความชัดเจนถึงแผนการดำเนินงานมากขึ้น” นายพิพัฒน์ กล่าว