รอด COVID-19 มีงาน 4.7 แสนตำแหน่งรออยู่ในอีอีซี

โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ได้กำหนดแผนการส่งเสริมการลงทุน และการวางโครงสร้างพื้นฐานของโครงการเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก
แม้ว่าก่อนหน้านี้อีอีซีจะไม่มีรื่องโรคระบาดอยู่ในแผนก็ตาม แต่โครงสร้างโดยรวมของอีอีซี สามารถนำมาปรับใช้สำหรับโลกยุคหลังโควิดได้ โดยเฉพาะการพัฒนาคนให้มีองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามความต้องการของอุตสาหกรรมใหม่ ทั้ง เอสเคิร์ฟ และนิวเอสเคิร์ฟ ก็ตาม
ดังนั้น แผนการจ้างงานในอนาคต จึงคาดว่าจะเป็นไปตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.) ประเมินไว้คือ 4.7 แสนตำแหน่งแต่พบว่าจำนวนนักเรียนในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นระดับประถมศึกษา ขณะนที่ปริญญาตรีและสูงกว่า มีจำนวนน้อยมาก
นายสุรัช พัฒนวงศ์ยืนยง ประธาน ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) เปิดเผย ว่า ในช่วงที่มีการแพร่ระบาด ของโรคโควิด-19 ทำให้นักลงทุนโดยเฉพาะจากจีนไม่สามารถเดินทางมาเจรจาซื้อขายที่ดิน ในนิคมอุตสาหกรรมได้ ทำให้ต้องเลื่อน การลงนามสัญญาไปในช่วงเดือน พ.ค.นี้หมด หรือจนกว่ารัฐบาลไทยจะยกเลิกมาตรการห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศ แต่ในระหว่างนี้ ก็ได้มีการประสานงานกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด โดยตลอด
ทั้งนี้ การลงทุนจากจีน และญี่ปุ่นจะไม่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 จะกลับมาในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า เพราะโรงงานเหล่านี้ต้องการเข้ามาขยายตลาด ในภูมิภาคอาเซียน จึงต้องเร่งเข้ามาตั้งฐานการผลิตในภูมิภาคนี้ ซึ่งศักยภาพ การดึงดูดการลงทุนของประเทศไทย ก็เป็นอันดับต้นๆ ของอาเซียนที่แข่งขัน กับระหว่างไทยกับเวียดนาม ซึ่งโดยรวมแล้วไทยยังมีความได้เปรียบในหลายด้าน เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน มาตรการ ส่งเสริมการลงทุน อุตสาหกรรมสนับสนุน เป็นต้น
ในขณะที่ประเทศเวียดนามมีข้อได้เปรียบ ที่สำคัญในเรื่องของต้นทุนค่าแรงงาน และสิทธิประโยชน์จากข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ประเทศเวียดนามได้ลงนามไปหลายประเทศมากกว่าประเทศไทย
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand