นายกฯ สั่ง ความมั่นคง เร่งสนับสนุนตรวจเชิงรุกและจัดตั้ง CI เพิ่ม ดูแลผู้ป่วยรอบค่าย 3,000 ราย

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม ประชุมติดตามการสนับสนุนรัฐบาลแก้ปัญหาวิกฤตโควิด 19 ร่วมกับ กอ.รมน. นขต.กห. เหล่าทัพ และ ตร. ผ่านระบบ VTC ณ ศาลาว่าการกลาโหม
โดยภาพรวมฝ่ายความมั่นคง ทหารตำรวจ ยังคงตรวจพบและจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองตามชายแดนและพื้นที่ชั้นในได้ต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ 1-19 สิงหาคม จับกุมได้ 2,949 คน สำหรับการควบคุมโรค เจ้าหน้าที่ยังคงร่วมกันตั้งจุดตรวจและด่านตรวจบริเวณรอยต่อจังหวัดสีแดงเข้ม และจัดชุดเคลื่อนที่เร็วตรวจในพื้นที่ แจ้งเตือนและบังคับใช้กฎหมาย เพื่อลดการเคลื่อนย้ายคนและจำกัดกิจกรรมเสี่ยงตามเคหสถานที่เป็นปัญหา โดยยังพบการรวมกลุ่ม ขาดความรับผิดชอบต่อสังคมและผิดกฎหมายต่อเนื่อง ได้แก่ การดื่มสุรา มั่วสุมเสพยา เล่นการพนัน และการออกนอกเคหสถานในเวลาที่กำหนดต่อเนื่อง อันเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่ยากต่อการควบคุมโรคเป็นส่วนรวม
ขณะเดียวกัน กองทัพได้จัดกำลังเข้าไปเสริมร่วมกับ กทม.ในชุดตรวจเชิงรุก ( CCRT ) 260 ชุดและจัดตั้ง CI ในเขตต่างๆ เพื่อเร่งค้นหาคัดกรองในชุมชนและแยกผู้ป่วยออกมารักษาในระบบ พร้อมทั้งจัดตั้ง CI ในหน่วยทหาร จำนวน 39 แห่งทั่วประเทศและอยู่ระหว่างขยายเพิ่ม สามารถรองรับการช่วยเหลือผู้ป่วยเขียวกว่า 2,900 ราย ซึ่งทยอยเปิดดูแลประชาชนแล้วตั้งแต่ กลาง สิงหาคมที่ผ่านมา สำหรับการสนับสนุนช่วยเหลือขนย้ายผู้ป่วย ทหารตำรวจ ได้จัดยานพาหนะช่วยรับผู้ป่วยตามบ้านออกมารักษาแล้วกว่า 20,669 ราย และสนับสนุนการขนย้ายผู้ป่วยกลับรักษาในภูมิลำเนาแล้วรวม 854 ราย
ทั้งนี้ พล.อ.ชัยชาญ ได้กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้กำชับขอให้กำลังทหารตำรวจเข้าไปเสริมในพื้นที่สีแดงเข้ม โดยประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและทำงานร่วมกับภาคเอกชน เพื่อช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดในทุกมิติ โดยย้ำว่าเราจำเป็นต้องผนึกกำลังช่วยเหลือดูแลและร่วมเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อต่อสู้ผ่านภาวะวิกฤตของชาติไปด้วยกัน
พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฝากแสดงความขอบคุณ และเป็นกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจทุกคน ในการทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งอดทน ทั้งบุคลากรแพทย์ และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าในพื้นที่เสี่ยง ที่บังคับใช้กฎหมายและการทำความเข้าใจกับประชาชนที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียของบุคลากรทางการแพทย์ของ ทอ.ที่ผ่านมา โดยขอให้กำลังพลทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความไม่ประมาทและให้ความสำคัญดูแลครอบครัวตนเองมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ได้ย้ำให้ผู้บังคับหน่วยทุกระดับให้การช่วยเหลือดูแลครอบครัวกำลังพลและผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ด่านหน้า ให้ได้รับการช่วยเหลือทันเวลาและมีความปลอดภัยกันทุกคนเช่นกัน