รีเซต

นายกฯ สั่ง ความมั่นคง เร่งสนับสนุนตรวจเชิงรุกและจัดตั้ง CI เพิ่ม ดูแลผู้ป่วยรอบค่าย 3,000 ราย

นายกฯ สั่ง ความมั่นคง เร่งสนับสนุนตรวจเชิงรุกและจัดตั้ง CI เพิ่ม ดูแลผู้ป่วยรอบค่าย 3,000 ราย
มติชน
21 สิงหาคม 2564 ( 11:37 )
39

 

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม ประชุมติดตามการสนับสนุนรัฐบาลแก้ปัญหาวิกฤตโควิด 19 ร่วมกับ กอ.รมน. นขต.กห. เหล่าทัพ และ ตร. ผ่านระบบ VTC ณ ศาลาว่าการกลาโหม

 

 

โดยภาพรวมฝ่ายความมั่นคง ทหารตำรวจ ยังคงตรวจพบและจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองตามชายแดนและพื้นที่ชั้นในได้ต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ 1-19 สิงหาคม จับกุมได้ 2,949 คน สำหรับการควบคุมโรค เจ้าหน้าที่ยังคงร่วมกันตั้งจุดตรวจและด่านตรวจบริเวณรอยต่อจังหวัดสีแดงเข้ม และจัดชุดเคลื่อนที่เร็วตรวจในพื้นที่ แจ้งเตือนและบังคับใช้กฎหมาย เพื่อลดการเคลื่อนย้ายคนและจำกัดกิจกรรมเสี่ยงตามเคหสถานที่เป็นปัญหา โดยยังพบการรวมกลุ่ม ขาดความรับผิดชอบต่อสังคมและผิดกฎหมายต่อเนื่อง ได้แก่ การดื่มสุรา มั่วสุมเสพยา เล่นการพนัน และการออกนอกเคหสถานในเวลาที่กำหนดต่อเนื่อง อันเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่ยากต่อการควบคุมโรคเป็นส่วนรวม

 

 

 

 

 

ขณะเดียวกัน กองทัพได้จัดกำลังเข้าไปเสริมร่วมกับ กทม.ในชุดตรวจเชิงรุก ( CCRT ) 260 ชุดและจัดตั้ง CI ในเขตต่างๆ เพื่อเร่งค้นหาคัดกรองในชุมชนและแยกผู้ป่วยออกมารักษาในระบบ พร้อมทั้งจัดตั้ง CI ในหน่วยทหาร จำนวน 39 แห่งทั่วประเทศและอยู่ระหว่างขยายเพิ่ม สามารถรองรับการช่วยเหลือผู้ป่วยเขียวกว่า 2,900 ราย ซึ่งทยอยเปิดดูแลประชาชนแล้วตั้งแต่ กลาง สิงหาคมที่ผ่านมา สำหรับการสนับสนุนช่วยเหลือขนย้ายผู้ป่วย ทหารตำรวจ ได้จัดยานพาหนะช่วยรับผู้ป่วยตามบ้านออกมารักษาแล้วกว่า 20,669 ราย และสนับสนุนการขนย้ายผู้ป่วยกลับรักษาในภูมิลำเนาแล้วรวม 854 ราย

 

 

ทั้งนี้ พล.อ.ชัยชาญ ได้กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้กำชับขอให้กำลังทหารตำรวจเข้าไปเสริมในพื้นที่สีแดงเข้ม โดยประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและทำงานร่วมกับภาคเอกชน เพื่อช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดในทุกมิติ โดยย้ำว่าเราจำเป็นต้องผนึกกำลังช่วยเหลือดูแลและร่วมเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อต่อสู้ผ่านภาวะวิกฤตของชาติไปด้วยกัน

 

 

พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฝากแสดงความขอบคุณ และเป็นกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจทุกคน ในการทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งอดทน ทั้งบุคลากรแพทย์ และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าในพื้นที่เสี่ยง ที่บังคับใช้กฎหมายและการทำความเข้าใจกับประชาชนที่ผ่านมา

 

 

ขณะเดียวกันขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียของบุคลากรทางการแพทย์ของ ทอ.ที่ผ่านมา โดยขอให้กำลังพลทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความไม่ประมาทและให้ความสำคัญดูแลครอบครัวตนเองมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ได้ย้ำให้ผู้บังคับหน่วยทุกระดับให้การช่วยเหลือดูแลครอบครัวกำลังพลและผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ด่านหน้า ให้ได้รับการช่วยเหลือทันเวลาและมีความปลอดภัยกันทุกคนเช่นกัน

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง