— รีวิวสอบสัมภาษณ์ ep.1 — เครดิตภาพจาก : นักเขียน //ความรู้สึก// แสงแดดยามเช้าที่สอดส่องลอดผ่านหน้าต่างห้องนอนทำให้เราตื่นขึ้นมาเพื่อเลื่อนหน้าจอไอแพดเพื่อค้นหารายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบสัมภาษณ์ในรอบที่1 ของมหาลัยวิทยาลัยมหิดล เราสมัครและยื่นคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ เลื่อนไปไม่เท่าไหร่เราก็เจอชื่อของตัวเองในเอกสารประกาศนั้น เราดีใจมากกกก แต่ภายใต้ความดีใจนั้นเราก็แอบกังวลทั้งเรื่องของการสอบสัมภาษณ์และในเรื่องของแม่ แม่เราเป็นคนนึงที่ไม่อยากให้ลูกเรียนไกลบ้าน เพราะท่านเป็นห่วง เหตุผลข้อนี้ทำให้เราตัดสินใจยากมากเพราะก่อนที่เราจะเข้าสอบสัมภาษณ์ได้ เราจะต้องชำระเงินก่อนถ้าจำไม่ผิดประมาณ 200 แต่ตอนนั้นเราชำระไปก่อนเพื่อไม่ให้ตัวเราเองเสียสิทธิ์ในการสอบสัมภาษณ์ แต่สิ่งที่ยากคือการบอกแม่ พูดให้แม่เราเข้าใจในความก้าวหน้าและมั่นคงกว่าถ้าเรามีโอกาสเรียนในเมือง ถึงแม้หลายๆคนอาจจะรู้สึกว่า เรียนที่ไหนก็เหมือนกัน อันนี้เราไม่เถียงค่ะ แต่ถ้าเทียบกับความมั่นคงแล้วคุณก็ควรคิดไตร่ตรองให้ดีค่ะ สุดท้ายเราก็เลือกที่จะ....ยังไม่บอกแม่ //วันใกล้สอบสัมภาษณ์// เราได้สัมภาษณ์วันเสาร์ อย่างที่บอกไปใน ep.0 เราเป็นนักเรียนประจำดังนั้นการสอบสัมภาษณ์วันเสาร์เราจึงต้องขอความกรุณาจากทางโรงเรียนให้ช่วยเหลือในด้านอุปกรณ์ ทางโรงเรียนสนับสนุนเราอย่างเต็มที่ วันใกล้สอบสัมภาษณ์เราจึงต้องไปเตรียมความพร้อมในเรื่องของอุปกรณ์ไอที เรื่องเอกสารที่ต้องให้อาจารย์ที่สอบสัมภาษณ์ดู รวมถึงการ เตรียมพอร์ตฟอลิโอในรูปแบบไฟล์ อ๊ะ!! อีกเรื่องหนึ่งที่เราถามมาจากรุ่นพี่และทำให้เรากังวล คือการสอบสัมภาษณ์อาจจะมีการสอบสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ เราหนักใจมากเพราะกลัวจะตอบไม่ได้ กังวลจนเผลอหลับไปพร้อมกับหน้าจอที่เปิดคำถามภาษาอังกฤษทิ้งไว้... เครดิตภาพจาก : นักเขียน //วันสอบสัมภาษณ์// วันนี้เป็นวันสอบสัมภาษณ์ที่ตื่นเต้นที่สุดเลย เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะเจอกับคำถามอะไรบ้าง แถมโชคยังไม่เข้าข้าง เรายังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถึงเวลาที่ต้องกดเข้าสัมภาษณ์เพราะเราคิวที่ 2 เลย มาถึงในเรื่องของคำถามที่เด็กหญิงคนนึงกำลังนั่งมองหน้าจอด้วยสายตาที่กังวลในห้องที่กว้างใหญ่เพียงคนเดียวจะต้องตอบ คำถามแรกที่เราโดนเป็นคำถามภาษาไทยค่ะทุกคนอาจารย์ถามว่า ไม่เชิงถาม เขาบอกให้เราพรีเซ็นตัวเองให้น่าสนใจที่สุด ไอ่เราด้วยความที่เป็นคนคิดไวตอบไวเลยเผลอพูดภาษาอังกฤษออกไป 5555 แต่คำถามนี้ก็ยังไม่จบค่ะทุกคน เราโดนถามต่อว่าทำไมถึงเลือกที่จะแนะนำตัวเองแบบนั้น ตอนนั้นช็อคไปนิดนึงค่ะแต่ก็ตอบไปว่า ด้วยความที่มหาลัยเป็นมหาลัยที่เน้นทางด้านภาษาอังกฤษเลยคิดว่าภาษาอังกฤษที่การสื่อสารที่จำเป็นค่ะ เป็นไงล่ะทุกคนเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส ถ้าเล่าคำถามทั้งหมดที่เราโดนถามบทความนี้คงยาวมากๆแน่ๆ เพราะคนปกติเขาสัมภาษณ์กันแค่ 10 นาทีแต่เราสัมภาษณ์ 30 นาทีคุยไปคุยมาคุยเพลินเฉยเลยทุกคน อาจารย์น่ารักมาก เป็นกันเองสุดๆ อีกคำถามหนึ่งที่เรายังจำไม่ลืมเลย มันอาจจะเป็นคำถามเบสิกนะแต่ในความเบสิกนี่แหละที่วัดอะไรหลายๆอย่างจากเราได้เลย เขาถามเราว่าอะไรเป็นสิ่งที่ผิดหวังและเสียใจมากที่สุด อันนี้เรามาแนวดราม่าเลยเราพูดเรื่องครอบครัวค่ะทุกคนซึ่งมันเป็นผลดี กรรมการคล้อยตามเฉย555 แต่กรรมการแอบโหดนะ ชอบถามจี้จุด แบบว่าคุณคิดว่าในตอนนั้นคุณตัดสินใจดีแล้วหรือยัง (เขาใช้คำว่าคุณนะคะเป็นทางการมากๆแต่ก็แอบเป็นกันเอง) คำถามนี้เราเกือบน้ำตาไหลเพราะด้วยความที่มันมาจากเรื่องจริง และเป็นสิ่งที่เราจำไม่เคยลืม แต่ๆๆๆอย่าเพิ่งร้องไห้ไปค่ะเราคิดว่ามันเป็นการวัดการควบคุมอารมของเรา เราก็ไม่ได้ร้องไห้นะคะ เพราะเราเล่าบ่อยมากเรื่องนี้ เล่าทีไรเกือบร้องไห้ทุกรอบเลย ภาพถ่าย : นักเขียน //หลังจากนั้น// เราเปิดเข้าหน้าเว็บของคณะทุกวันเพราะเขาบอกว่าคณะจะประกาศแบบไม่เป็นทางการก่อนที่ทางมหาลัยจะประกาศ และแล้ววันที่ประกาศก็มาถึง เป็นวันที่เราเหนื่อยจากการเรียนมามากที่สุด ผลสอบประกาศออกมาตอนเวลา 5โมง ซึ่งเรากำลังหลับอยู่555 เพื่อนเราตื่นเต้นกว่าเราอีกค่ะทุกคน เขาเป็นคนมาปลุกเราถึงห้องและบอกเราว่า ติดแแล้ววววว ตอนนั้นเราหายง่วงเลยทันที ความรู้สึกคือดีใจมากกก อย่างน้อยเราก็มีที่เรียนแล้วววว แต่ที่น่าเสียดายที่เราไม่ได้กดยืนยันสิทธิ์ที่นี่ค่ะ มีเหตุผลหลายๆอย่างที่ทำให้เราต้องตัดสินใจแบบนี้.... ขอบคุณค่ะ — เจ้าง่วง —