รีเซต

วงจรปิดจับภาพชัด! คนร้ายวางระเบิดปั๊มน้ำมัน แอบซุกใต้ท้องรถก่อนบึ้มสนั่น

วงจรปิดจับภาพชัด! คนร้ายวางระเบิดปั๊มน้ำมัน แอบซุกใต้ท้องรถก่อนบึ้มสนั่น
มติชน
18 สิงหาคม 2565 ( 12:54 )
45

ข่าววันนี้ ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ตรงจุดการลอบวางระเบิดปั๊มน้ำมันบางจาก ในพื้นที่ ม.8 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ตั้งอยู่ริมถนนสายปัตตานี-หาดใหญ่ นั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ภายในปั๊มดังกล่าว ปรากฎว่า พบพฤติกรรมของคนร้ายอย่างชัดเจน โดยขณะเกิดเหตุ ปั๊มยังคงเปิดให้บริการตามปกติ มีพนักงาน จำนวน 2 คนให้บริการ โดยที่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายรุนแรงขึ้น กระทั่งคนร้าย 4 คนใช้รถ จยย.จำนวน 2 คันเป็นพาหนะได้นำระเบิดแสวงเครื่องแอบเข้ามา ภายในปั๊มจอดหน้าร้านค้าประมาณ 4 นาที เชื่อว่าน่าจะมีการวางแผนหาจุดก่อเหตุ จนกระทั่งคนร้ายขับรถออกมา แยกกันเป็น 2 ชุด ชุดแรกขับออกไปดูลาดราวข้างนอกและภายในปั๊ม

 

ส่วนชุดที่สอง คนร้ายขับรถไปจอดด้านข้างรถบรรทุกน้ำมันที่จอดใกล้กับหัวจ่ายน้ำมัน ก่อนที่คนร้ายทั้งสองคนนำระเบิดแสวงเครื่องมาซุกไว้ในช่องเก็บของใต้ถังน้ำมันของรถบรรทุก และเป็นช่วงที่คนร้ายอีกสองคนที่ดูต้นทางขับรถเข้ามาไล่ประชาชนและพนักงานในปั้มให้รีบออกไป และบอกว่ามีระเบิด ทำให้พนักงานและประชาชนต่างขับรถหนีและวิ่งออกมาทันที ส่วนคนร้ายหลังจากทากรซุกระเบิดเสร็จแล้วก็ได้ขับรถออกมา ก่อนจะวกกลับมาอีกครั้ง คาดว่าน่าจะเข้ามาตรวจสอบความเรียบและทำการตั้งเวลาระเบิดแล้วเร่งเครื่องหนีออกมาจากปั๊มทันที การปฏิบัติการณ์ของคนร้ายครั้งนี้เพียง 12 นาทีก็เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น เพลิงได้ลุกไหม้อย่างรุนแรงเกิดความเสียหายอย่างหนัก

 

ในส่วนของการสืบสวนติดตามคนร้าย หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานสามารถเก็บวัตถุพยานที่เชื่อว่าเป็นชิ้นส่วนระเบิดที่คนร้ายนำมาก่อเหตุ โดยระเบิดที่คนร้ายใช้นั้นเป็นระเบิดแสวงเครื่อง บรรรจุในถังแก๊สปิกนิกจุดชนวนด้วยการตั้งเวลา ซึ่งวัตถุพยานดังกล่าวถือเป็นชิ้นส่วนสำคัญที่จะเชื่อมโยงว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด โดยเฉพาะสามารถพุ่งเป้าไปถึงตัวบุคคลที่ประกอบระเบิดลูกนี้ นอกจากนี้ยังมีหลักฐานสำคัญคือ ภาพวงจรปิดที่เห็นพฤติกรรมคนร้ายและการก่อเหตุ ซึ่งจะได้นำไปขยายในทางเทคนิคและนำไปให้ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้รวมไปถึงสายข่าวดูว่ารูปพรรณสันฐานของคนร้ายทั้ง 4 คนนั้นตรงกับใคร นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุและเส้นทางต่าง ๆ ซึ่งคดีมีความคืบหน้าพอสมควร

 

ขณะที่บรรยากาศปั๊มน้ำมัน หลังเกิดเหตุได้มีการกั้นด้วยแสลนสีเขียวทำการขึงปิดด้านหน้าทั้งทางเข้าและออกเพื่อไม่ให้บุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามา โดยภายในปั้มมีเพียงแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดบริเวณร้านค้าและห้องน้ำ

 

ขณะที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาตรวจสอบประเมินความเสียหายเพื่อเตรียมที่จะเร่งซ่อมแซม ในส่วนความเสียหายนั้นถือว่าหนัก เนื่องจากแรงระเบิดทำให้โครงสร้างหลังคาปั้มทั้งหมดพังลงมา หัวจ่ายน้ำมันเสียหายทั้งหมด รวมไปถึงร้านค้าโดยรอบได้รับความเสียหายทั้งหมด ขณะที่รถบรรทุกน้ำมันที่คนร้ายนำระเบิดมาซุกไว้นั้น พบว่า บริเวณถังน้ำมันมีร่องรอยแตกเป็นรูกว้างสาเหตุมาจากความรุนแรงของระเบิดที่คนร้ายนำมาซุกไว้ และทำให้น้ำมันที่อยู่ในถัง จำนวน 2 พันลิตรพุ่งกระจายกลายเป็นเปลวไฟลุกไหม้ตามที่เห็นภาพจากกล้องวงจรปิด

 

ด้านเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคง เปิดเผยว่า จากพฤติกรรมการก่อเหตุของคนร้ายเชื่อว่าเป็นกลุ่มเดียวกันที่เคยก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่และเชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีการวางแผนมาก่อนล่วงหน้า โดยเลือกที่จะก่อเหตุที่ปั้มบางจากเพราะ บริเวณดังกล่าวมีปั๊มอีก 4 แห่งใกล้กันแต่ได้ปิดให้บริการ


ซึ่งจากรายงานของหน่วยความมั่นคง การก่อเหตุครั้งนี้ กลุ่มคนร้ายในพื้นที่ จ.ปัตตานี ได้มีการแบ่งเป็น 3 โซนในการก่อเหตุ ซึ่งคืนเกิดเหตุนั้นพื้นที่ จ.ปัตตานี มีการก่อเหตุ 3 จุด แต่เกิดเหตุเพียง 2 จุด คือ 1.ปั๊มน้ำมันบางจาก อ.หนองจิก 2.มินิบิ๊กซีถูกคนร้ายวางเพลิง และ 3.ลอบวางระเบิดปั๊มน้ำมัน ปตท.แต่ไม่ระเบิด จนท.เก็บกู้ไว้ได้

 

คนร้ายที่ก่อเหตุมีทั้งชุดเก่า และชุดใหม่ที่เป็นแนวร่วมในพื้นที่ ทั้งนี้เพื่อหวังแสดงศักยภาพให้แกนนำระดับสูงของกลุ่ม BRN เห็นผลงานในการก่อเหตุและจะมีการแต่งตั้งแกนนำระดับสูงรับผิดชอบ ซึ่งแผนการของ BRN ครั้งนี้ มีของพยายามที่จะแสดงศักยภาพในเพิ่มขึ้นและมีความเชื่อถือของกลุ่มต่าง ๆ ที่เป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐ จึงได้ก่อเหตุทำลายฐานเศรษฐกิจเพื่อลดความน่าเชื่อถือของนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ จึงได้ระดมกลุ่มก่อความไม่สงบทั้งชุดเก่าชุดใหม่เข้าทำลายทรัพย์สินที่เป็นเชิงสัญลักษณ์ด้านธุรกิจในพื้นที่ โดยใช้วิธีการเดิมที่เคยก่อเหตุ คือ ลอบวางระเบิด ลอบวางเพลิงร้านสะดวกซื้อ และปั๊มน้ำมันในพื้นที่ ตั้งเวลาปฏิบัติการแบบไล่เลี่ยกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง