จุดเริ่มต้นของการเป็นผู้ประกอบการ เริ่มต้นจากการขาย ไม่น่าเชื่อ อาชีพนักขายที่คนอคติกลายเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ หากปิดการขายด้วยใจที่ประสงค์จะแก้ปัญหาเพื่อประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลัก เมื่อนั้นตัวนักขายจะได้ประโยชน์และเห็นช่องทางทำธุรกิจจริงๆ ไม่ใช่ปิดการขายโดยหลอกลวงลูกค้าเพื่อหวังเงิน ราวกับตีหัวลูกค้าแล้ววิ่งหนีเข้าบ้าน Blair Singer ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ ในฐานะที่ปรึกษาของ Robert T. Kiyosaki จะมาให้แนวทางการขายที่ทุกคนควรรู้ ถ้าสนใจจะขายให้เป็น นี่คือหนังสือสอนการขายที่เอื้อให้เราต่อยอดเป็นผู้ประกอบการ เรียบเรียงโดย อนุพงศ์ ธรณินทร์ ความรู้ความประทับใจที่ได้ภายในเล่มได้เรียนรู้ว่าเราไม่จำเป็นต้องหน้าตาแข็งแรง ขายแบบกัดไม่ปล่อย มันเป็นวิธีหนึ่งในพันธุ์นักขายเท่านั้น ยังมีวิธีอื่นที่เราอาจถนัดมากกว่าและใช้ความถนัดแบบสายพันธุ์นักขายแบบนั้น พูดง่ายๆเราต้องทำงานให้ตรงกับจุดแข็งของตัวเอง พิตบูล เปรียบกับนักขายที่กล้าจะตามตื๊อ ไม่กลัวความล้มเหลว ขอแค่เน้นผลลัพธ์ตรงหน้า โดยไม่แคร์ว่าลูกค้าจะรู้สึกรำคาญหรือไม่ เขาไม่กลัวอะไรเลย เวลาเจอคำปฏิเสธก็จะไม่เสียศูนย์เหมือนอย่างสายพันธุ์อื่นๆ แต่จุดอ่อนก็คือขาดความอดทนและกลยุทธ์ โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ เปรียบกับนักขายที่ชอบเอาใจลูกค้า เพื่อที่จะชนะใจลูกค้าและปิดการขายได้สำเร็จในภายหลัง การบริการสำคัญที่สุดสำหรับสายพันธุ์นี้ พูดเดิล เปรียบกับนักขายที่เน้นภาพลักษณ์ที่ตัวเองดูดี ตนจะมีเส้นสายในการติดต่ออย่างไม่น่าเชื่อ โยจะรู้ว่าใครเป็นใครบ้าง ถือว่ามีความสามารถด้านการตลาดและการสื่อสารชั้นยอดจนนำไปสู่รายได้มหาศาล ชิวาวา เปรียบกับนักขายที่มีความรู้ในสินค้าที่จะขายในทุกแง่มุม ช่วยลูกค้าโน้มน้าวลูกค้าให้เชื่อถือในตัวสินค้าได้ ถือเป็นคนสำคัญในทีมที่ช่วยปิดการขายง่ายขึ้น บาสเซ็ตต์ฮาวนด์ เปรียบกับนักขายที่มั่นคงในอารมณ์ ทำตัวคงที่ สม่ำเสมอ ไม่เคยหงุดหงิดหรือเครียดมากเกินไป มีความสามารถสร้างสายสัมพันธ์ที่แข็งแรง มั่นคงในระยะยาว เหมือนกับความจงรักภักดีเลยก็ได้ พูดง่ายๆคือเป็นคนที่เชื่อถือได้ ได้เรียนรู้ว่านักขายที่ได้ต้องมีทักษะหลายสายพันธุ์รวมอยู่ในคนเดียวกัน แล้วดึงทักษะนั้นมาใช้ในยามจำเป็น โดยเน้นจุดแข็งที่ถนัดของตัวเองเป็นตัวนำ ได้เรียนรู้ว่าคนอื่นเป็นนักขายที่ประสบความสำเร็จ แสดงว่าเราคงต้องเป็นคนแบบนั้นให้ได้แบบเขา ? มันก็คงไม่ดีนักที่เราพยายามจะกลายเป็นคนอื่น เพราะมันจบลงที่ความอึดอัดใจ การดิ้นรน ไม่มีความสุข โดยมองข้ามความถนัดของตัวเองไป แต่การอิงความแข็งแกร่งให้เหมือนคนอื่นยังเป็นผลดีอยู่นะ ได้เรียนรู้ว่าพันธุ์นักขายควรจะมีช่วงเวลาที่ได้รับคำชมและถูกทำโทษ เพื่อให้พวกเขาได้เติบโตด้วยความประพฤติที่ดี นักขายก็หวังที่จะได้รับชื่อเสียงและคำชมในระยะสั้นๆอยู่ลึกๆในใจ แต่ถ้าโดนดุตลอดเวลาก็ทำให้นักขายไปไม่เป็นเหมือนกัน การละเลยนักขายก็ทำให้เขาไม่มีระเบียบและขี้เกียจ ฉะนั้น ต้องระวังความสุดโต่งตรงนี้ด้วย ได้เรียนรู้ว่าการมีความรับผิดชอบ ไม่ได้หมายความว่า เรื่องร้ายๆทุกเรื่องที่เกิดขึ้นกับเรานั้น มีตัวเราเป็นต้นเหตุ เราเรียนรู้ความผิดพลาดของตัวเองได้ แต่เราไม่ยอมให้ความผิดพลาดมาทำลายสุขภาพจิตที่ดีของเรา ได้เรียนรู้ว่าเพื่อที่จะมีความสุข เข้มแข็ง มั่นใจมากกว่านี้ เราจะต้องสร้างความรู้สึกที่ดีด้วยการนึกถึงความสุขในอดีตของตัวเองจากประสบการณ์ที่ผ่านมา เพื่อให้สิ่งนั้นเคลื่อนพลังงานรอบตัวเรา อย่าถามว่ามันได้ผลได้อย่างไร แค่ทำมันเถอะ ขอแค่อารมณ์ความรู้สึกเปลี่ยน ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปด้วย ได้เรียนรู้ว่าพันธุ์นักขายที่จะเป็นนักล่ามือหนึ่งได้ ต้องฝึกฝนทักษะ 5 ข้อ1.เชี่ยวชาญในการอ้างอิง2.การนำเสนอที่มีพลัง3.ค้นหาความต้องการที่จะช่วยเหลือผู้อื่น4.จัดการ เลือกใช้ ระหว่างทำการตลาดของตัวเอง กับการขายตามสูตรสำเร็จ5.การจัดการกับข้อโต้แย้งและคำปฏิเสธ ได้เรียนรู้ว่าหากแรงกดดันไม่ได้ปลดปล่อยอย่างถูกต้อง นักขายจะกลายเป็นพวกหวาดระแวง เช่น ระแวงบริษัทคอยแต่จะเอาเปรียบตน แล้วทำให้ฉุนเฉียวหยาบคายกับเพื่อนร่วมงานและลูกค้า แล้วลงเอยด้วยความหดหู่ ขาดความคิดสร้างสรรค์ ได้เรียนรู้ว่าเบื้องหลังการรับมือกับข้อโต้แย้งและปฏิเสธของนักขายคือ เขาเคยชินกับมัน วิธีที่จะหยุดความกลัวการปฏิเสธคือต้องได้รับการปฏิเสธอีกหลายครั้งจนมันไม่มีผลกับเราอีกต่อไป ได้เรียนรู้ว่านักขายส่วนใหญ่จะพยายามเปลี่ยนข้อโต้แย้งไปเรื่อยๆ เพื่อให้ลูกค้าเห็นด้วยในทันที วิธีหลอกล่อแบบนี้รังแต่จะทำให้ลูกค้าที่มีความคิดเป็นของตัวเองโกรธ นักขายอย่างเราควรถามลูกค้าว่าทำไมถึงมีปัญหาหรือข้อสงสัยแบบนั้นโดยแสดงความสนใจอย่างแท้จริง พยายามเข้าใจลูกค้าด้วย เพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าเราสนใจข้อกังวลของเขาจริงๆ การขายนั้นเป็นการผูกมิตรและสร้างสายสัมพันธ์ ไม่ใช่การเอาชนะหรือต่อสู้ ทั้งหมดนี้ก็คือหลักการขายตามสไตล์ของที่ปรึกษาพ่อรวย Blair Singer ซึ่งเชื่อว่าเราทุกคนเป็นนักขายกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะทำงานในวงการไหน อย่างครีเอเตอร์ก็กำลังขายความรู้ การรีวิวหนังสือที่ตนเองสนใจ พร้อมรับรายได้จากการโฆษณาข้างบทความ นี่ก็เป็นการขายอย่างหนึ่ง คุณผู้อ่านก็อาจจะกำลังขายด้วยการสัมภาษณ์งาน นี่ก็เป็นตัวอย่างการขายตัวเองอย่างหนึ่งเช่นกัน เราทุกคนขายอะไรบางอย่างอยู่แล้วเสมอ เราแค่ต้องขายเป็น แล้วชีวิตจะง่ายขึ้น เครดิตภาพภาพปก โดย onlyyouqj จาก freepik.comภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียนภาพที่ 3 โดย tirachardz จาก freepik.comภาพที่ 4 โดย felicities จาก freepik.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิวหนังสือ สร้างทีมให้ชนะ (Team Code of Honor)รีวิวหนังสือ เขียนแผนธุรกิจให้รวย (Writing Winning Business Plans)รีวิวหนังสือ พ่อรวยสอนลูกรีวิวหนังสือ พ่อรวยสอนลูก ปลุกอัจฉริยภาพทางการเงิน (Rich dad Increase your financial IQ)รีวิวหนังสือ โรงเรียนสอนธุรกิจ สำหรับคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่น (The Business School for people who like helping people) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !