7 วิธีเลือกซื้อมือถือ ต้องดูอะไรบ้าง (ฉบับประสบการณ์ตรง) ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามือถือได้กลายเป็นปัจจัยที่ 5 โดยสมบูรณ์แล้ว แต่ด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ฟังก์ชันในมือถือเครื่องปัจจุบันของเราอาจจะไม่ตอบโจทย์กับการใช้งาน ถึงเวลาที่หลาย ๆ คนจะต้องเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือกันใหม่อีกแล้ว สำหรับใครที่กำลังมองหามือถือเครื่องใหม่ วันนี้เด็กหญิงพิมมี่จะมารีวิว 7 วิธีเลือกซื้อมือถือจากประสบการณ์ตรงเลยค่ะ มาดูกันค่ะว่าต้องดูอะไรบ้าง1. ราคาและงบประมาณตอนที่ตัดสินใจจะซื้อมือถือเครื่องใหม่ สิ่งแรกเลยที่เด็กหญิงพิมมี่ทำก็คือ กำหนดราคาของมือถือที่ต้องการไว้เลยว่า ไม่ควรเกินเท่าไร โดยอ้างอิงจากงบประมาณที่เรามีค่ะ แบบเด็กหญิงพิมมี่จะจัดสรรงบสำหรับการซื้อมือถือไว้อยู่ที่ 10,000 บาท และกำหนดราคาของมือถือไว้เลยว่า จะอยู่ที่ 8,000-10,000 บาทค่ะ โดยการค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตแบบกว้าง ๆ เช่น ถ้าราคาสูงกว่างบก็คือตัดออกจากตัวเลือกเลย ถ้าอยู่ในช่วงที่ต้องการ ก็จะพิจารณาตามข้อถัด ๆ ไปค่ะอ่านบทความเพิ่มเติมhttps://intrend.trueid.net/post/297723https://intrend.trueid.net/post/3003052. วัตถุประสงค์การใช้งานหลังจากที่ดูราคาและงบประมาณของตัวเองแล้ว ต่อมาที่เด็กหญิงพิมมี่ดูเลยก็คือวัตถุประสงค์การใช้งานค่ะ ว่าเราจะใช้งานมือถือของเราทำอะไรเป็นหลัก หรือใช้งานในระดับไหน แบบของเด็กหญิงพิมมี่จะใช้งานแอปโซเชียลมีเดีย และแอปอำนวยความสะดวกในการทำงานและชีวิตประจำวัน ถ่ายรูปเยอะพอสมควรทั้งรูปตัวเองและรูปอื่น ๆ ชอบเล่นเกมพอสมควร แต่ไม่ค่อยดูหนังฟังเพลง ไม่ได้ใช้งานมือถือตลอดทั้งวัน ถ้าเรารู้วัตถุประสงค์การใช้งานของตัวเองและสามารถบอกได้ละเอียดมากเท่าไร จะทำให้เราเลือกมือถือที่มีดีไซน์และฟีเจอร์เหมาะกับเราค่ะ3. รูปลักษณ์ภายนอกเมื่อเรารู้งบประมาณและวัตถุประสงค์การใช้งานแล้ว จะเข้าสู่การเลือกมือถือโดยดูองค์ประกอบแล้วค่ะ ตรงนี้เราจะดูจากอะไรก่อนก็ได้ แต่สำหรับเด็กหญิงพิมมี่ขอดูจากรูปลักษณ์ภายนอกก่อน เช่น ขนาดจอและน้ำหนัก หากใช้ในการดูหนัง เล่นเกม ขนาดจอก็ควรเป็นแบบไร้ขอบ เพื่อให้แสดงผลได้แบบเต็มจอ ซึ่งปัจจุบันมือถือส่วนมากเป็นจอไร้ขอบกันเกือบหมดแล้ว มือถือจอใหญ่บางรุ่นก็มาพร้อมกับน้ำหนักที่มากเช่นกัน เพราะอาจจะใช้วัสดุที่มีน้ำหนัก ในเรื่องของสี บางรุ่นอาจจะไม่มีสีที่เราชอบเลย แบบเด็กหญิงพิมมี่ชอบสีโรสโกลด์ แต่หาได้ยากมาก ก็อาจจะต้องมีสีอื่นที่ชอบรองลงมาไว้เผื่อเลือกค่ะ ส่วนดีไซน์นั้น บางรุ่นอาจจะมีกล้องเยอะ ทำให้การจัดวางองค์ประกอบอาจไม่ถูกใจเราเท่าที่ควร เป็นต้น4. ฟีเจอร์/สเปคที่เหมาะสมกับการใช้งานองค์ประกอบที่มาคู่กันเลยก็คือฟีเจอร์/สเปคของเครื่องค่ะ แน่นอนว่าต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์การใช้งานของเราอยู่แล้ว ว่าสำหรับข้อนี้อาจจะทำให้หลาย ๆ คนตัดสินใจได้ยากเลยทีเดียว เราอาจจะอยากได้มือถือแบบฟังก์ชันครบถ้วน เด่นทุกเรื่องในเครื่องเดียว แต่มือถือแต่ละรุ่นจะมีทั้งจุดเด่นและด้อยอยู่ในเครื่องเดียวกัน อันนี้แนะนำว่าเราอาจจะต้องดูความต้องการหลักจริง ๆ ว่าใช้ทำอะไรมากที่สุด และดูฟีเจอร์เด่นที่รองรับกับความต้องการหลักก่อนค่ะแบบเด็กหญิงพิมมี่จะใช้งานขั้นพื้นฐาน เน้นไปที่การใช้งานแอปอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ถ่ายรูปเยอะพอสมควร แต่ไม่ใช่รูปตัวเองเป็นหลัก ฟีเจอร์/สเปคที่เด็กหญิงพิมมี่จะให้ความสำคัญเลยก็คือ RAM และ Storage ที่มีขนาดใหญ่มากเพียงพอสำหรับจัดเก็บแอปและสื่อพวกนี้ค่ะ ส่วนความละเอียดกล้องก็จะเน้นไปที่กล้องหลังมากกว่ากล้องหน้า คือ มีลูกเล่นที่กล้องหลังมากกว่า 1 ตัว เพื่อให้ได้ภาพที่มีคุณภาพสูงค่ะอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมากเลยก็คือ ระบบปฏิบัติการล่าสุดที่รองรับกับความต้องการขั้นต่ำของแอปมือถือ เพราะเด็กหญิงพิมมี่เคยเจอปัญหากับมือถือเครื่องเก่าคือ แอปธนาคารไม่รองรับบนระบบปฏิบัติการปัจจุบัน และไม่สามารถอัปเดตระบบในมือถือเครื่องนั้นได้แล้ว ทางเดียวคือต้องซื้อมือถือใหม่ค่ะ เพราะเลิกใช้แอปธนาคารไม่ได้ และในปัจจุบัน แอปต่าง ๆ ก็ได้รับการพัฒนาให้รองรับกับระบบปฏิบัติการใหม่ ๆ มากกว่าอยู่แล้ว เรื่องนี้เลยสำคัญมาก ๆ ที่ต้องดูก่อนซื้อมือถือค่ะ แบบนี้เป็นต้น5. แบรนด์ / ยี่ห้อเราต้องมาดูกันแล้วค่ะว่า จะมีมือถือแบรนด์ใด ยี่ห้อใด มีคุณสมบัติตรงตามที่กล่าวมาในข้อต้น ๆ บ้าง ซึ่งการเลือกแบรนด์/ยี่ห้อมือถือก็มีความสำคัญอยู่ไม่น้อยเลย เพราะแต่ละยี่ห้อมีคุณภาพ/จุดเด่นต่างกัน ในส่วนนี้จะไม่ลงลึกรายละเอียดของแต่ละยี่ห้อนะคะ เพื่อไม่ให้เป็นการพาดพิงค่ะ แต่แนะนำว่า ให้ลองศึกษารายละเอียดมือถือของแต่ละยี่ห้อให้ดี ๆ ว่ามาจากประเทศใด ได้รับความนิยมมากน้อยเพียงใด ยังมีแนวโน้มที่จะผลิต/เลิกผลิตหรือเปล่า เด่นในเรื่องผลิตภัณฑ์มือถือหรือเปล่า ระบบปฏิบัติการแบบใด อินเตอร์เฟซใช้งานง่ายหรือเปล่า รองรับการโหลดแอปหรือไม่ และอื่น ๆ จากประสบการณ์ตรงที่เคยคิดจะซื้อ Huawei เพราะเด่นเรื่องกล้องสวย แต่เจอปัญหาเรื่องการโหลดแอปที่ยุ่งยากเพราะไม่มี PlayStore ก็เลยล้มเลิกความคิดที่จะซื้อค่ะ 6. สถานที่ซื้อ/โปรโมชั่น/บริการหลังการขายต่อจากข้อก่อนหน้านี้นะคะ นอกจากเลือกแบรนด์ที่มีชื่อเสียงแล้ว ยังต้องเลือกแบรนด์ที่สามารถหาซื้อได้ง่าย มีให้เลือกไม่ว่าจะซื้อจากร้านจำหน่ายของแบรนด์นั้นโดยตรง หรือร้านปลีกที่รวมหลายแบรนด์ไว้ด้วยกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเรามีแบรนด์ที่ตั้งไว้ในใจหรือยังค่ะ ถ้ายัง สามารถไปที่ร้านปลีกก่อนก็ได้ เพื่อเปรียบเทียบรูปลักษณ์และฟีเจอร์ของมือถือหลาย ๆ แบรนด์ แต่ถ้ามีแล้ว แนะนำว่าไปที่แบรนด์นั้นโดยตรงเลยค่ะ เพื่อเจาะจงซื้อรุ่นนั้นได้เลย นอกจากนี้ สิ่งที่ดูก็คือ โปรโมชั่นค่ะ เราสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อเครื่องเปล่า หรือซื้อพร้อมโปรจากค่ายมือถือเลย อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนเลย แบบเด็กหญิงพิมมี่เลือกซื้อเครื่องเปล่า เพราะมีเบอร์ที่ใช้อยู่แล้ว ไม่ต้องการย้ายค่าย หรือสมัครโปรใหม่แต่อย่างใดค่ะ ต้องการแค่เครื่องใหม่เท่านั้น 7. รีวิวจากผู้ใช้งานจริงและสุดท้ายเลยค่ะ ก่อนจะตัดสินใจซื้อจริง ๆ เด็กหญิงพิมมี่จะดูรีวิวจากผู้ใช้งานจริงค่ะ เพราะการอ่านเนื้อหาจากเว็บไซต์แบรนด์มือถือต่าง ๆ จะได้เพียงแค่ข้อมูลกลาง ๆ แต่เราอาจจะไม่ทราบว่า สรุปแล้วมือถือแต่ละรุ่นถ้าเอามาใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร และแน่นอนว่าคนที่มารีวิว มีทั้งรีวิวจุดเด่นและด้อยที่เค้าพบเจอหลังซื้อใช้งานแล้วจริง ๆ ทำให้เราได้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจที่ดีกว่าค่ะhttps://www.youtube.com/watch?v=0M0RLQl2gNEทั้งหมดนี้ก็เป็น 7 วิธีที่เด็กหญิงพิมมี่ใช้ในการเลือกซื้อมือถือเครื่องใหม่ค่ะ อยากให้ทุกคนลองเอาไปปรับใช้กันดูนะคะ อาจจะไม่ต้องเรียงลำดับตามขั้นตอนแบบที่กล่าวมาก็ได้ค่ะ สำหรับใครที่ลองเช็กลิสต์ตัวเองแล้วคล้าย ๆ กับที่เด็กหญิงพิมมี่เล่ามา ขอแนะนำเป็น Vivo Y76 5G เลยค่ะ จุดเด่นของรุ่นนี้เลยคือ เคสเป็นสีพาสเทลไล่เฉดสีสวยมาก รองรับ 5G และมีโหมด Ultra Game เอาใจสายเกมโดยเฉพาะค่ะ มาดูสเปคเครื่องแบบคร่าว ๆ กันเลย- ตัวเคสใช้เทคนิคเคลือบสี AG ป้องกันรอยนิ้วมือ มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำและสีฟ้า/ส้ม (แบบไล่เฉดสี)- จอแสดงผล IPS LCD ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด 2408 x 1080 พิกเซล FHD+- กล้องหลัง 3 ตัว คือ กล้องหลัก 50MP รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 กล้อง Macro 2MP (ถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษ) กล้อง Depth 2MP (ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ) มี AI Camera พร้อมด้วยระบบโฟกัสภาพ (PDAF) ขนาดภาพสูงสุด 4080 x 3060 พิกเซล- กล้องหน้า 16MP (HDR) รูรับแสงขนาด ƒ/2.0 บันทึกวิดีโอได้- แบตเตอรี่ 4,100 mAh รองรับการชาร์จไวถึง 44W- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 12 ภายใต้ Android 11- CPU เป็น Mediatek Dimensity 700 5G Octa Core ความเร็ว 2.2 GHz / GPU : Mali-G57 MC2- RAM ขนาด 8 GB และ Storage 128 GB- ใส่ Micro SD ได้สูงสุด 256GB พิเศษสุด ๆ ถ้าซื้อผ่าน True Store มีโปรโมชั่นให้เลือกเลยค่ะ ราคาเริ่มต้นเพียง 2,499 บาทเท่านั้น สำหรับลูกค้าใหม่หรือลูกค้าทรูมูฟเอชปัจจุบัน หรือจะซื้อเครื่องเปล่าในราคา 9,999 บาทก็ได้ เท่านี้ยังไม่พอค่ะ ซื้อวันนี้รับฟรี !! That's Y Premium Gift Set มูลค่า 899 บาท (ของแถมมีจำนวนจำกัด เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด) ดูรายละเอียดพร้อมซื้อได้เลยที่ Vivo ใน True Store ค่ะสุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนได้มือถือที่ชอบในราคาที่ใช่นะคะ พบกันใหม่โอกาสหน้าค่ะ สวัสดีค่ะ ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 จากบทความใน TrueID โดยผู้เขียนภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 (ภาพปก) ถ่ายภาพและบันทึกหน้าจอโดยผู้เขียนภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 จากเว็บไซต์ Vivoภาพที่ 8 / ภาพที่ 9 จากเว็บไซต์ True Storeคลิปจาก YouTube ช่อง StepGeekTV Online 7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์