รีเซต

โรบินสันครูโซอิตาลียอมคืนเกาะหลังอุทยานไล่ อยู่โยงเฝ้าคนเดียวมา32ปี

โรบินสันครูโซอิตาลียอมคืนเกาะหลังอุทยานไล่ อยู่โยงเฝ้าคนเดียวมา32ปี
ข่าวสด
26 เมษายน 2564 ( 23:50 )
89
โรบินสันครูโซอิตาลียอมคืนเกาะหลังอุทยานไล่ อยู่โยงเฝ้าคนเดียวมา32ปี

โรบินสันครูโซอิตาลียอมคืนเกาะหลังอุทยานไล่ - วันที่ 26 เม.ย. เดอะ การ์เดียนรายงานว่า นายมาอูโร โมรานดี อายุ 81 ปี ชาวอิตาลี ฉายาโรบินสัน ครูโซ แห่งอิตาลี ซึ่งอาศัยอยู่เพียงลำพังบนเกาะในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมานานกว่า 30 ปี ยอมเดินทางออกจากเกาะดังกล่าวแล้วหลังถูกทางการอิตาลีกดดันอย่างหนัก

 

 

นายโมรานดี ได้รับฉายาโรบินสัน ครูโซ แห่งอิตาลี ตามชื่อนวนิยาย โรบินสัน ครูโซ ประพันธ์โดยนายเดเนียล เดโฟ นักเขียนชาวอังกฤษ ได้รับยกย่องเป็นนวนิยายเรื่องแรกของอังกฤษ ตีพิมพ์ครั้งแรกในปีพ.ศ. 2262 มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับหนุ่มนักผจญภัยที่ล่องเรือไปประสบเหตุอับปางลงและลอยไปติดเกาะร้างทำให้การผจญภัยเริ่มขึ้น

 

 

 

เช่นเดียวกันกับ นายโมรานดี ที่ไปพบเกาะบูเดลลีโดยบังเอิญที่นอกเมืองซาร์ดิเนีย หลังเรือใบคาตามันรานเกิดเสียกลางทะเลระหว่างล่องเรือไปมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ โดยนายโมรานดีได้กับกับชายผู้เฝ้าเกาะร้างแห่งนี้ที่กำลังจะเกษียณจากหน้าที่ จึงได้รับช่วงต่อหน้าที่ดังกล่าว และนายโมรานดีล้มเลิกการเดินเรือ และขายเรือทิ้งอีกด้วย

 

นายโมรานดีอาศัยอยู่ในกระท่อมหลบภัยที่สร้างไว้ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สองเพียงลำพัง จนมีความชำนาญพื้นที่ทุกหัวระแหงของเกาะเล็กๆ แห่งนี้ รวมถึงรู้จักสัตว์ทุกชนิดที่อาศัยอยู่บนเกาะด้วย

 

 

อย่างไรก็ดี นายโมรานดี ระบุว่า จะย้ายออกจากเกาะบูเดลลีภายในสิ้นเดือนเม.ย.นี้ ภายหลังทางการอุทยานแห่งชาติ ลา มาดดาลีนา ของอิตาลี จะเข้ามาไล่ที่ หลังเกาะดังกล่าวถูกบรรจุไว้ในการดูแลของทางอุทยานดังกล่าวเมื่อปี 2559 โดยทางอุทยานต้องการให้เกาะแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสิ่งแวดล้อม

 

นายโมรานดี ระบุว่า ตนล้มเลิกที่จะต่อสู้กับทางการอิตาลีแล้ว และว่ารู้สึกเศร้าเสียใจที่ต้องจากเกาะแห่งนี้ไปหลังตนอาศัยมานานถึง 32 ปี โดยทางอุทยานระบุว่าต้องการปรับปรุงกระท่อมที่ตนอาศัยอยู่บนเกาะ พร้อมกล่าวหาว่าตนต่อเติมโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

รายงานระบุว่า นายโมรานดี มีภูมิลำเนาอยู่ที่เมืองโมดีนา ในภาคกลางของอิตาลี แต่จะย้ายไปอยู่ที่คอนโดบนเกาะลา มาดดาลีนา ซึ่งอยู่ใกล้ๆ แทน

 

"ผมเลือกอยู่แถวชานเมืองของเกาะครับ จะเข้าเมืองก็ต่อเมื่อต้องหาข้าวของใช้ต่างๆ แล้วก็จะอยู่อย่างสันโดษไม่สุงสิงกับใคร ชีวิตผมก็จะไม่เปลี่ยนไปมากนักครับ ยังได้เห็นทะเลอยู่" และว่า "ผมหวังว่าจะมีคนที่ปกป้องเกาะนั้นได้ดีเท่าผมนะ" นายโมรานดี ระบุ

ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมา นายโมรานดีทำหน้าที่เป็นทั้งผู้เฝ้าเกาะและไกด์นำเที่ยว คอยรักษาสภาพแวดล้อมให้สะอาด และแนะนำบรรดานักท่องเที่ยวที่มายังเกาะ

 

 

แต่ชะตาชีวิตของนายโมรานดีต้องพลิกผันอีกครั้ง หลังบริษัทเอกชนซึ่งเป็นเจ้าของเกาะดังกล่าวล้มละลายและต้องการขายเกาะแห่งนี้ให้กับนักธุรกิจชาวนิวซีแลนด์ โดยนักธุรกิจผู้นี้สัญญาว่าจะให้นายโมรานดีทำหน้าที่ต่อไป แต่ชาวอิตาลีไม่พอใจเพราะมองว่าเป็นสมบัติของชาติ

 

การประท้วงของชาวอิตาลีส่งผลให้ทางการอิตาลีเข้าแทรกแซง และศาลอิตาลีตัดสินให้เกาะบูเดลลีตกเป็นสมบัติสาธารณะของชาติในปี 2559 นักท่องเที่ยวถูกห้ามไม่ให้เดินทางไปเที่ยวตามอำเภอใจ แต่อนุญาตให้ไปชมทิวทัศน์เฉพาะในพื้นที่ที่รัฐกำหนดไว้ได้

 

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีชาวอิตาลีร่วมลงชื่อในจดหมายถึงรัฐบาลอิตาลีหลายพันคน ร้องขอให้นายโมรานดีได้ทำหน้าที่ผู้ดูแลเกาะบูเดลลีต่อไป

ความคืบหน้าล่าสุดส่งผลให้บรรดาผู้สนับสนุนโรบินสัน ครูโซ แห่งอิตาลี แสดงความเดือดดาลต่อทางการอิตาลีบนเฟซบุ๊กของนายโมรานดี

 

อาทิเช่น "หมดคำพูดเลยว่ะ... การทำลายเกาะสวรรค์แห่งนี้เริ่มแล้ว" และ "นึกภาพเกาะบูเดลลีที่ไม่มีคุณโมรานดีไม่ออกจริงๆ คุณอย่าไปยอมมัน" รวมถึง "จงลุกฮือขึ้นต่อต้านความอยุติธรรมนี้"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง