Waymo เร่งขยายบริการ "รถยนต์ไร้คนขับ" เพิ่มอีก 3 เมืองในสหรัฐฯ ตั้งเป้าทะลุ 1 ล้านเที่ยวต่อสัปดาห์

บริษัท เวย์โม (Waymo) ในเครือของ อัลฟาเบต (Alphabet) เดินหน้าขยายบริการ โรโบแท็กซี่ (Robotaxi) หรือรถยนต์ไร้คนขับ เพิ่มอีก 3 เมืองในสหรัฐอเมริกา ได้แก่ ซานดิเอโก, ดีทรอยต์, และ ลาสเวกัส 

ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญในแผนการใหญ่ของบริษัทที่ตั้งเป้าให้สามารถให้บริการได้ 1 ล้านเที่ยวต่อสัปดาห์ภายในสิ้นปี 2026 จากปัจจุบันที่ทำได้แล้วกว่า 250,000 เที่ยวต่อสัปดาห์ และเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

3 เมืองใหม่ จุดทดสอบเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติ

• ซานดิเอโก จะใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติในลักษณะคล้ายกับที่ใช้ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เน้นด้านความสะดวกและปลอดภัยของผู้โดยสาร

• ดีทรอยต์ เมืองที่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐฯ จะเป็นพื้นที่ทดสอบระบบขับเคลื่อนใน สภาพอากาศหนาวเย็นและท้าทาย

• ลาสเวกัส จะเน้นด้าน ความปลอดภัย เป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีความคึกคักและสภาพการจราจรซับซ้อน

รถรุ่นใหม่ Jaguar I-Pace และ Zeekr RT

สำหรับรถยนต์ที่ใช้ในโครงการ Waymo จะนำรุ่น จากัวร์ ไอ-เพซ (Jaguar I-Pace) และ ซีคร์ อาร์ที (Zeekr RT) เข้ามาให้บริการในทั้งสามเมือง โดยเริ่มดำเนินการภายในสัปดาห์นี้ แต่ยังไม่เปิดให้ประชาชนทั่วไปใช้งานทันที โดยจะเริ่มจากการ ทำแผนที่ถนน, ทดสอบระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ, และเปิดให้เฉพาะพนักงานและสื่อมวลชนทดลองใช้ก่อน

เป้าหมายระยะยาวและการแข่งขันในตลาด

ก่อนหน้านี้ Waymo ได้เปิดให้บริการโรโบแท็กซี่ใน ฟีนิกซ์, ซานฟรานซิสโก และลอสแอนเจลิส แล้ว โดยมีแผนขยายเพิ่มเติมในปี 2026 ไปยัง เดนเวอร์, ไมอามี, แนชวิลล์, ลอนดอน, ซีแอตเทิล และ วอชิงตัน ดี.ซี.

แม้ Waymo จะเป็นผู้นำตลาดในปัจจุบัน แต่การแข่งขันในอุตสาหกรรมรถยนต์ไร้คนขับยังคงเข้มข้น คู่แข่งอย่าง ซูคส์ (Zoox) ก็ได้เปิดให้บริการโรโบแท็กซี่ฟรีในลาสเวกัส ส่วน เทสลา (Tesla) ก็เริ่มทดสอบระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติในเมืองออสติน แม้ยังมีคนขับนั่งกำกับอยู่ก็ตาม