บ้าน'พล.อ.อ.'ใจดี ยอมให้ทุบรั้วบ้าน ขยายถนนหักศอก หลังรถชนกันบ่อย

“บิ๊กแจ๊ส” เจรจานายพลทุบกำแพงบ้านขยายช่องทางลดอุบัติเหตุ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 กรกฎาคม 2563 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ว่าที่ผู้สมัคร นายก อบจ.ปทุมธานี ได้นำทีมคนรักปทุมพร้อมเครื่องจักรทุบกำแพงบ้านของ พลอากาศเอกสักก์สกล แสงสุกรัตน์วดี อดีตผู้บังคับกองพันทหารอากาศโยธิน1 รักษาพระองค์ ซอยบ้านกลาง2/5 เลขที่ 149/4 หมู่บ้านเพอร์เฟคพาร์ครังสิต ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี หลังจากที่ได้เจรจาเพื่อขยายช่องจราจรเลี้ยวหักศอก 90 องศาเพื่อให้ประชาชนได้ใช้สัญจรไปมาได้สะดวกยิ่งขึ้น เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมักจะเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งเพราะเป็นมุมแคบ

โดยบ้านของพลอากาศเอกสักก์สกล แสงสุกรัตน์วดี เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นบนพื้นที่ 60 ตารางวา ท่านได้เสียสละทรัพย์สินซึ่งพื้นที่ประมาณ 3.25 ตารางวา เพื่อขยายช่องจราจรมุมเลี้ยวหักศอก 90 องศา บริเวณหลังบ้าน โดยการทุบกำแพงเปิดทางเป็นความยาวด้านละ 5 เมตร รวมความยาวของกำแพงที่ต้องทุบยาว 10 เมตร เพื่อให้รถยนต์ผ่านใช้เส้นทางได้สะดวกยิ่งขึ้นถือว่าท่านเป็นบุคคลที่มีน้ำใจงดงามที่ประเสริฐยอมเสียสละทรัพย์สินให้เป็นส่ารณประโยชน์

ด้าน พลอากาศเอกสักก์สกล แสงสุกรัตน์วดี เจ้าของบ้านกล่าวว่า ได้อาศัยอยู่ที่บ้านแห่งนี้มาตั้งแต่ พ.ศ.2558 เป็นต้นมา สภาพนอกรั้วหลังบ้านผม เป็นถนนสาธารณะ ที่เชื่อมระหว่างซอยบ้านกลาง 1/4 จากถนนรังสิต-ปทุมธานี ไปออกซอยบ้านกลาง 2/5 ถนนติวานนท์ ที่ผ่านมามีประชาชนใช้เส้นทางผ่านไปมาโดยตลอด แต่ไม่ได้รับความสะดวกสบายเท่าที่ควร เนื่องจากสภาพมุมหลังบ้านเป็นทางเลี้ยวหักศอก 90 องศา ต่อมา พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ซึ่งเป็นเพื่อนกันได้เล็งเห็นและมีความปรารถนาดีห่วงใยประชาชนที่ใช้เส้นทาง อยากให้มีการจราจรที่ดีขึ้น รถยนต์สามารถเลี้ยงสวนทางกันได้ เพื่อความปลอดภัย จึงได้มาขอให้ผมเสียสละที่ดินหลังบ้าน โดยการทุบรั้วพร้อมกับปรับผิวถนนเปิดผิวทางจราจรใหม่เพื่อทำให้ผู้ใช้เส้นทางได้รับความสะดวกสบายขึ้น หลังจากนี้จะได้มอบเป็นทางสาธารณะประโยชน์ต่อไป

ส่วน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง กล่าวว่า เนื่องจากเส้นทางนี้เป็นทางลัด โดยมุมบริเวณทางเลี้ยวหักศอกแห่งนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพราะว่าเป็นทางแคบ รถยนต์เลี้ยวผ่านลำบาก ผู้ที่ใช้เส้นทางประจำจะทราบดี เคยใช้เส้นทางมาจึงสังเกตเห็นและได้ทราบว่า พลอากาศเอกสักก์สกล แสงสุกรัตน์วดี เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้และเป็นเพื่อนกัน จึงได้มาพูดคุยเจรจากับเขาและเขาก็บริจาคด้วยความเต็มใจ ซึ่งทุกวันนี้สังคมบ้านเรามีแต่คนยากได้จะหาบุคคลที่มีจิตใจที่เป็นสาธารณโยชน์จริงแล้วมีน้อยมากก็ขอขอบคุณเพื่อนที่มีจิตใจที่ประเสริฐ จะเกิดประโยชน์กับประชาชนมากในเรืองความปลอดภัยและสดวกสบาย