รีเซต

สระแก้วจับชาวกัมพูชา 52 ราย ลักลอบข้ามแดนตั้งเต็นท์พักอาศัยในป่าสงวนฯ

สระแก้วจับชาวกัมพูชา 52 ราย ลักลอบข้ามแดนตั้งเต็นท์พักอาศัยในป่าสงวนฯ
มติชน
23 ธันวาคม 2563 ( 17:11 )
40

ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังนายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์ ช่วงเย็นวานนี้ ฉก.ตาพระยา สระแก้ว ร่วมบูรณาการ หลายหน่วยงาน ออกกวาดล้างชาวกัมพูชา หลบหนีเข้าเมือง ตั้งแคมป์ ในป่าสงวน ริมชายแดน ได้รวม 52 คน

 

หลังจากที่ท่านนายกฯ ประยุทธ จันทร์โอชา ได้ออกแถลงการสถานการณ์ในช่วงเย็นวานนี้ที่ผ่านมา พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผบ.กองกำลังบูรพา สระแก้ว ได้สั่งการให้ พ.อ.เฉลิมชัย ศิริสมบูรณ์ รอง ผบ.ฉก.ตาพระยา ร่วมบูรณาการ ออกดำเนินการตรวจสอบแนวชายแดนให้เข้มข้นยิ่งขึ้น

 

ต่อมาช่วงเช้ามืดวันนี้ 23 ธ.ค.63 กกล.บูรพา ( ฉก.ตาพระยา) กอ.รมน.จว.ส.ก,ชุดชรต.121,กอ.รมน. ลงพื้นที่ อ.โคกสูง เข้าตรวจสอบแรงงานต่างด้าว ร่วมกับนาย ประพิศ ญาณปัญญา นายอำเภอโคกสูง,ฝ่ายปกครองอำเภอโคกสูง,เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกสูง,เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร้อย ฉก.ตชด 4,ชปข.124, หลังจากได้รับแจ้งจาก ผญบ. ม.14 ต.หนองม่วง อ.โคกสูง ว่า มีแรงงานต่างด้าว ชาวกัมพูชา โควิดสระแก้ว พักอาศัย อยู่ในเขตป่าสงวนริมชายแดน จึงได้เข้าตรวจสอบแรงงานชาวกัมพูชาที่ลักลอบเข้ามาช่องทางธรรมชาติ เพื่อเข้ามาทำงานในพื้นที่ อ.โคกสูง จากการลงพื้นที่ตรวจสอบตรวจพบแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ที่เข้ามาทำงานและพักอาศัยในป่าสงวนแห่งชาติ ท้าย หมู่ บ้านหนองหว้า หมู่14 ต.หนองม่วง อ.โคกสูง จากการตรวจค้น พบแรงงานทั้งชาย หญิง เด็ก จำนวน 52 คน (ช.21 ญ 24 เด็ก 7 คน ) ทั้งหมด สัญชาติกัมพูชา พร้อมได้จดรายชื่อ และผลวัดอุณหภูมิ โดยเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขอำเภอโคกสูง ทำการตรวจคัดกรองนั้น ไม่พบแรงงานชาวกัมพูชา อุณภูมิสูงเกินเกณฑ์ปกติ จากการสอบถาม แรงงานทั้งหมด อยู่หมู่บ้านเสียมเรียบ ยอยรับว่าได้เดินทางเข้ามาทางธรรมชาติ และ เข้ามาพักอาศัยที่ ป่าสงวนแห่งชาติท้ายหมู่บ้าน และได้ติดต่อ ชาวกัมพูชาที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันให้เข้ามาพักและทำงานในพื้นที่ดังกล่าว โดยมีหัวหน้ากลุ่มคนงานชาวกัมพูชา (แต่งตั้งขึ้น) มาเพื่อจัดแบ่งให้ออกทำงาน ให้กับคนไทยโดยมีค่าแรงต่อวัน วันละ 200-300 ต่อคน (เป็นแรงงานไม่เข้ากรุง) ไปทำงานเกษตรกรรมในพื้นที่อ.โคกสูงและ อ.ใกล้เคียง ซึ่งทางอำเภอและ ฉก.ตาพระยาจะได้ขยายผลหาคนไทยที่เกี่ยวข้องในการนำแรงงานไปทำงานต่อไป ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการตรวจสอบและจับกุม ชาวกัมพูชา ดังกล่าว โดยได้ทำการบันทึกประวัติบุคคลและควบคุมตัวผู้ต้องหานำตัวไปส่งให้ ตม.จ.สระแก้ว เพื่อผลักดันออกนอกประเทศ ในช่องทางโอบัยเจือน (จต.38)ต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง