รีเซต

“คัลแมกี” ถล่มฟิลิปปินส์หนัก ยอดผู้เสียชีวิตพุ่ง 40 กว่าราย

“คัลแมกี” ถล่มฟิลิปปินส์หนัก ยอดผู้เสียชีวิตพุ่ง 40 กว่าราย
TNN ช่อง16
5 พฤศจิกายน 2568 ( 10:00 )
15

หลังจากพายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” พัดถล่มฟิลิปปินส์ มีรายงานจากรัฐบาลฟิลิปปินส์ล่าสุด ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 46 ราย ส่วนใหญ่ในจังหวัดเซบู ซึ่งได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยมีผู้เสียชีวิตในจังหวัดนี้กว่า 21 ราย ขณะเดียวกันมีประชาชนเกือบ 400,000 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย เนื่องจากน้ำท่วมสูงและกระแสลมแรง


ก่อนพายุขึ้นฝั่ง พื้นที่รอบเมือง “เซบู ซิตี” เมืองเอกของจังหวัด มีปริมาณน้ำฝนสะสมมากถึง 183 มิลลิเมตร ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั้งเดือนปกติที่ 131 มิลลิเมตร ส่งผลให้ระบบระบายน้ำล้นทะลักและเกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายเขต

“พาเมลา บาริกัวโทร” ผู้ว่าการจังหวัดเซบู เปิดเผยว่า “สถานการณ์ที่เราเห็นในครั้งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เราเคยคิดว่ากระแสลมคืออันตรายที่สุดจากพายุ แต่สิ่งที่ทำให้ประชาชนตกอยู่ในความเสี่ยงจริง ๆ คือ ‘น้ำ’ น้ำท่วมครั้งนี้สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงทั้งต่อบ้านเรือนและโครงสร้างพื้นฐาน”


ด้าน เจ้าหน้าที่กองทัพฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพอากาศซึ่งมีลูกเรือ 5 นาย ประสบอุบัติเหตุตกบนเกาะมินดาเนา ขณะปฏิบัติภารกิจลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปยังพื้นที่ชายฝั่งเมืองบูตูอัน เพื่อสนับสนุนภารกิจค้นหาและกู้ภัยในพื้นที่ประสบภัยพายุ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานยืนยันผู้รอดชีวิตหรือรายละเอียดเพิ่มเติม


และหลังจาก พายุไต้ฝุ่นคัลแมกีเคลื่อนออกจากฟิลิปปินส์ ก็คาดว่าจะเคลื่อนผ่านตอนเหนือของเกาะ ปาลาวัน ก่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ในวันที่ 5 พฤศจิกายน และอาจทวีกำลังขึ้นอีกระยะหนึ่งก่อนขึ้นฝั่งทางตอนใต้ของ เวียดนาม ในคืนวันที่ 6 พ.ย.


มีการคาดการณ์ว่าพายุจะทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายประเทศทั้งเวียดนาม, ลาวตอนใต้, กัมพูชา, และ ไทย ระหว่างวันที่ 6–8 พฤศจิกายน โดยบางพื้นที่อาจมีฝนสะสมสูงสุดถึง 300–600 มิลลิเมตร เสี่ยงน้ำท่วม ดินถล่ม และความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนลมกระโชกแรงสูงสุดอาจแตะถึง 225–240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในบางจุดของเวียดนาม

ในขณะที่ฟิลิปปินส์กำลังรับมือกับพายุคัลแมกี อีกหนึ่งพายุลูกใหม่ก็กำลังก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก ทางตอนใต้ของเกาะกวม โดยถูกจัดเป็น “พายุดีเปรสชัน 32W” ซึ่งคาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็น “พายุโซนร้อนฟงวอง” ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า


ชื่อ “ฟงวอง” มีความหมายว่า “ฟีนิกซ์” (ยอดเขา) ตั้งชื่อโดยเขตบริหารพิเศษฮ่องกง พยากรณ์จากหลายสำนัก รวมถึงแบบจำลองของ Google DeepMind, GFS, และ ECMWF คาดว่าพายุจะเคลื่อนตัวไปทาง ตะวันตกเฉียงเหนือ และอาจพัฒนาเป็น ซูเปอร์ไต้ฝุ่นระดับ 5 ภายในวันที่ 8–9 พฤศจิกายนนี้ ก่อนเคลื่อนเข้าใกล้ ฟิลิปปินส์ตอนเหนือหรือไต้หวัน ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า หากพายุฟงวองทวีกำลังตามคาด พื้นที่ตอนเหนือของฟิลิปปินส์อาจได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก ลมแรง และน้ำท่วมฉับพลันอีกระลอก


นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากกิจกรรมของมนุษย์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พายุไต้ฝุ่นทวีกำลังแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว มหาสมุทรที่อุ่นขึ้นช่วยเพิ่มพลังงานให้กับพายุ และบรรยากาศที่ร้อนชื้นสามารถกักเก็บไอน้ำได้มากกว่าเดิม ส่งผลให้ฝนตกหนักและเกิดภัยพิบัติถี่ขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง