Canva ได้เข้าซื้อ Affinity ตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ. 2024 (ประมาณ 1 ปีก่อน) ทำให้เกิดความกังวลจากผู้ใช้งานโปรแกรม Affinity โดยมีความกังวลว่า Canva จะเข้ามาทำลายจุดขายของ Affinity คือ “โมเดลซื้อขาด” (Perpetual License) และความสามารถระดับมืออาชีพของโปรแกรมจะถูกลดทอนลงหรือไม่ นี่ยังคงเป็นคำถามและความกังวลของผู้ใช้งาน แต่ในตอนนั้น ทั้ง Canva และ CEO ของ Affinity ได้ออกมาให้คำมั่นสัญญากับผู้ใช้ว่า “จะยังคงเก็บโมเดลซื้อขาดไว้” Canva ทุ่มตลาด ทำให้ Affinity “ฟรีถาวร” จากสถานการณ์ล่าสุด เดือน พฤศจิกายน 2025 ที่ผ่านมานี้ ไม่มีใครคาดคิด แทนที่ Canva จะรักษาสัญญาที่จะยังคงเก็บโมเดลซื้อขาดไว้ แต่พวกเขากลับทำในสิ่งที่เหนือกว่านั้น คือการยกเลิกการขาย แล้วแจกฟรีไปเลย โมเดลธุรกิจใหม่ (Freemium Model) ฟรี (แกนหลักของโปรแกรม): ฟังก์ชันหลักทั้งหมดของชุดโปรแกรม Affinity (Designer, Photo, Publisher) ใช้งานได้ฟรีตลอดไป พรีเมียม (ต้องจ่ายเงิน): หากต้องการใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูง โดยเฉพาะเครื่องมือ “Generative AI” (หรือ Magic Studio ของ Canva) จะต้องสมัครสมาชิกแบบเสียเงินของ Canva (เช่น Canva Pro) Affinity คืออะไร ( ก่อน Canva เข้าซื้อ ) Affinity เป็นชุดซอฟต์แวร์จากบริษัท Serif ประกอบไปด้วย Affinity Designer, Affinity Photo, Affinity Publisher จุดเด่นสำคัญของซอฟต์แวร์เหล่านี้คือการ จ่ายเงินซื้อครั้งเดียวจบ (Perpetual License) โดยไม่มีระบบสมาชิกแบบรายเดือน โปรแกรมมีประสิทธิภาพสูง ทำงานได้รวดเร็ว และลื่นไหล ความสามารถของชุดซอฟต์แวร์มีดังนี้: Affinity Designer (Vector + Raster) Affinity Designer คือโปรแกรมที่รวมเอาการทำงานของกราฟิกแบบเวกเตอร์ (Vector) และแบบพิกเซล (Raster) เข้าไว้ด้วยกัน โหมดการทำงานที่ยืดหยุ่น: สามารถสลับโหมดทำงานระหว่าง Vector (Designer Persona), Pixel (Pixel Persona) และการส่งออก (Export Persona) ได้ภายในโปรแกรมเดียว โดยไม่ต้องสลับไปมาระหว่างแอปพลิเคชัน ประสิทธิภาพสูง: มีการจัดการเส้น Vector ที่แม่นยำ และการซูม (Zoom) ที่ลื่นไหล รองรับงานออกแบบขนาดใหญ่ การทำงานแบบ Non-Destructive: การแก้ไขทุกอย่างจะไม่ทำลายไฟล์ต้นฉบับ (Non-Destructive Editing) Affinity Photo (Raster Editing) Affinity Photo คือโปรแกรมสำหรับแก้ไขและตกแต่งภาพแบบแรสเตอร์ (Raster) ที่มีเครื่องมือครบครันสำหรับการถ่ายภาพ สามารถเปิดไฟล์ Raw จากกล้องได้โดยตรง พร้อมเครื่องมือปรับแต่งภาพที่ครบถ้วน สามารถรวมภาพเพื่อสร้าง HDR (High Dynamic Range) หรือ Panorama ได้ในตัว โดยไม่ต้องใช้โปรแกรมเสริม เครื่องมือเฉพาะทาง: มี Liquify Persona ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับการจัดการและปรับรูปร่างของภาพได้อย่างละเอียด ใช้ Adjustment Layers และ Live Filter ที่แก้ไขได้ตอลดเวลาโดยไม่ทำลายต้นฉบับ Affinity Publisher (Page Layout) Affinity Publisher คือโปรแกรมสำหรับการจัดหน้าและออกแบบสิ่งพิมพ์ (Page Layout) StudioLink (จุดแข็ง): เป็นฟีเจอร์เด่นที่สุดที่สามารถเชื่อมต่อกับ Affinity Designer และ Affinity Photo ได้โดยตรง ทำให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขกราฟิกหรือภาพถ่ายที่อยู่ในเลย์เอาต์ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องสลับโปรแกรม การสนับสนุนภาษาและฟอนต์: รองรับการทำงานกับหลายภาษา และสามารถจัดการกับการทำงานกับฟอนต์ (Font) ที่มีคุณภาพสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อ Canva เข้ามา (พฤศจิกายน 2025) ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา Canva ได้ทำการปฏิรูปชุดซอฟต์แวร์ Affinity ใหม่ทั้งหมดในคราวเดียว ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ Affinity โดยมีรายละเอียดดังนี้: 1. การรวม 3 โปรแกรมเข้าเป็นหนึ่งเดียว (All-in-One) รูปแบบเดิม: ผู้ใช้จำเป็นต้องซื้อและสลับการทำงานระหว่าง 3 โปรแกรม ได้แก่ Affinity Photo, Affinity Designer, และ Affinity Publisher รูปแบบใหม่: โปรแกรมทั้งสามถูกยุบรวมกันเหลือเพียงโปรแกรมเดียว (Single Application) โดยภายในโปรแกรมจะมีโหมด (Persona) สำหรับการทำงานด้าน Vector, Pixel, และ Layout ที่ครบถ้วน 2. นโยบายการใช้งานฟรีตลอดชีพ นี่คือสิ่งที่สร้างความประหลาดใจที่สุดในวงการ เมื่อ Canva ประกาศให้โปรแกรม Affinity เวอร์ชันใหม่ (v.3.xx) ใช้งานได้ฟรี 100% ตลอดชีพ ซอฟต์แวร์ระดับมืออาชีพนี้ไม่มีการตัดคุณสมบัติ (Feature) เดิมออกไปแต่อย่างใด 3. ข้อแลกเปลี่ยนในการใช้งาน ผู้ใช้จำเป็นต้องใช้บัญชี Canva ในการเข้าใช้งานโปรแกรม Affinity เวอร์ชันใหม่ ซึ่งสามารถสมัครได้ฟรี อย่างไรก็ตาม หากต้องการใช้งานฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกับ AI ของ Canva ผู้ใช้จะต้องสมัครแพ็กเกจ Canva Pro เท่านั้น โอกาสและสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ได้สร้างโอกาสมหาศาลให้กับทั้ง Canva และผู้ใช้งาน: 1. ประโยชน์สำหรับผู้ใช้งาน การเข้าถึงเครื่องมือระดับโปรฟรี: ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงและใช้เครื่องมือออกแบบกราฟิกและตกแต่งภาพระดับมืออาชีพของ Affinity ได้ฟรี ซึ่งเป็นประโยชน์ที่ชัดเจนที่สุด 2. สิ่งที่ Canva ได้รับ ขยายฐานผู้ใช้ระดับมืออาชีพ: Canva สามารถดึงดูดผู้ใช้งานกลุ่มใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มมืออาชีพและผู้ใช้งานเดิมของ Affinity ให้เข้ามาสู่ระบบนิเวศของตนเองได้ทันที 3. แนวโน้มการสร้างรายได้ในอนาคต Affinity ฟรีถาวร: ผู้ใช้งานยังคงสามารถใช้โปรแกรม Affinity ได้ฟรีอย่างถาวร การอัปเกรดเพื่อฟีเจอร์ขั้นสูง: หากผู้ใช้ต้องการความสะดวกสบายและฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น ฟังก์ชัน AI และ บริการ Cloud จะต้องจ่ายค่าบริการรายเดือน (Canva Pro Subscription) เพื่อเข้าถึงคุณสมบัติเหล่านี้ บทสรุป: การปฏิวัติ Affinity สู่โมเดล "Freemium" การเข้าซื้อกิจการ Affinity โดย Canva ที่เคยสร้างความกังวลอย่างหนักให้กับผู้ใช้งานในปี 2024 ว่าจุดแข็งอย่าง "โมเดลซื้อขาด" (Perpetual License) จะถูกทำลายลง ได้มาถึงจุดเปลี่ยนที่น่าประหลาดใจที่สุดในเดือนพฤศจิกายน 2025 แทนที่จะเปลี่ยนไปสู่ระบบสมาชิกรายเดือนแบบที่ทุกคนกังวล Canva กลับเลือกกลยุทธ์ "ทุ่มตลาด" ที่เหนือความคาดหมาย ด้วยการประกาศให้ Affinity เวอร์ชันใหม่ (v.3.xx) ซึ่งรวมความสามารถของทั้ง Designer, Photo และ Publisher ไว้ในโปรแกรมเดียว กลายเป็นซอฟต์แวร์ "ฟรีถาวร" การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ ได้ปฏิรูป Affinity สู่โมเดลธุรกิจ "Freemium" อย่างเต็มตัว: ผู้ใช้งาน สามารถเข้าถึงเครื่องมือระดับมืออาชีพได้ฟรี โดยไม่ถูกตัดทอนคุณสมบัติหลัก Canva ได้รับประโยชน์มหาศาลจากการดึงดูดฐานผู้ใช้งานกลุ่มมืออาชีพ (ฐานเดิมของ Affinity) เข้าสู่ระบบนิเวศของตนเองได้ทันที ท้ายที่สุด นี่คือสถานการณ์ที่ผู้ใช้งานได้รับประโยชน์สูงสุดในการเข้าถึงเครื่องมือโปร ขณะเดียวกันก็เป็นการเปิดประตูให้ Canva เสนอขายบริการขั้นสูง (เช่น Generative AI และ Cloud) ผ่านการสมัครสมาชิก Canva Pro ซึ่งเป็นแนวโน้มและโมเดลธุรกิจใหม่ของ Affinity ที่ชัดเจนที่สุดนับจากนี้ต่อไป ภาพหน้าปกและภาพประกอบโดย: สาระนายพัช เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !