ต.ไชโยวิกฤต น้ำทะลักใต้แนวเขื่อน เร่งอุดวุ่น ซึ้งใจหญิงวัย 53 สละบ้านเป็นจุดรวมน้ำ เพื่อสูบออกง่าย
ต.ไชโยวิกฤต น้ำทะลักใต้แนวเขื่อน เจ้าหน้าที่ ชาวบ้าน พระ เณร เร่งอุดกันวุ่น ซึ้งใจหญิงวัย 53 ยอมสละบ้านเป็นจุดรวมน้ำ จนท่วมสูง 2 เมตร เพื่อสูบออกง่าย
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 1 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุมีมวลน้ำมุดดินใต้แนวเขื่อนและจุดเชื่อมต่อ จุดชำรุดหลายจุด เจ้าหน้าที่เทศบาลไชโย จ.อ่างทอง ได้ประชาสัมพันธ์ออกเสียงตามสาย แจ้งให้เร่งขนย้ายทรัพย์สินไว้ในที่สูง และขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ในพื้นที่ออกมาช่วยกันก่อกระสอบทราย เพื่อนำไปอุดจุดที่มีมวลน้ำทะลักเข้ามา ซึ่งบริเวณดังกล่าวใกล้เคียงกับวัดไชโยวรวิหาร หากปิดกั้นมวลน้ำไม่อยู่ จะทำให้น้ำทะลักเข้าท่วม วัดไชโยวรวิหารซึ่งเป็นวัดพระอารามหลวงชั้นโท และพื้นที่หมู่ 1 ถึงหมู่ 6 โดยใน อ.ไชโย มีทั้งหมด 7 หมู่ ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านเป็นอย่างดีร่วมแรงร่วมใจกันรวมตัวกรอกทราย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่เทศบาลไชโย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกษไชโย เจ้าหน้าที่ทหาร กองทัพบก ร.31 พัน.3 รอ. รวมถึงประชาชน และพระสงฆ์ ของวัดไชโย วรวิหาร ต่างเร่งก่อกระสอบทรายเพื่อนำไปอุดจุดที่มีน้ำทะลัก และมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 2 เครื่อง โดยชาวบ้านที่มีบ้านใกล้กับจุดที่มีมวลน้ำทะลักยินยอมเสียสละให้น้ำท่วมบ้านบริเวณชั้นล่าง เพื่อเป็นจุดศูนย์รวมของน้ำที่ทะลักเข้าเนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำ และนำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำออก
ด้าน พระครูวิบูลย์ รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไชโยวรวิหาร ได้นำพระสงฆ์ เข้ามาช่วย เปิดเผยว่า สถานการณ์ตอนนี้ ต้องยอมรับว่าค่อนข้างหนัก โดยทางวัดไชโยในตอนนี้ นำกระสอบทรายตั้งเป็นแนวป้องกันตามจุดเสี่ยงโดยรอบ แต่ ณ จุดนี้ ซึ่งเป็นทิศเหนือของวัด เป็นจุดที่ป้องกันยากหากเกิดเหตุสุดวิสัยเอาไม่อยู่ ทางวัดต้องขออนุญาต ญาติโยมที่อยู่ติดกับพื้นที่วัด ทำพนังกั้นน้ำ อีกชั้นรอบวัดเพื่อที่จะไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วมบริเวณวัด
ทางด้าน นายสุรศักดิ์ พัฒนะ นายกเทศบาลไชโย เปิดเผยว่า สถานการณ์ตอนนี้ ระดับน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงมาก ในช่วงตอนเย็นของวันนี้ มีน้ำทะลักเข้ามาหลายจุด บางจุดมาจากท่อระบายน้ำย้อนเข้าท่อและเกิดการแตกทำให้รั่วซึมมุดใต้ดิน และทะลักขึ้นตามรอยแตกและชำรุดของเขื่อน ในตอนนี้ สามารถควบคุมไว้ได้ระดับหนึ่งแต่ก็คงต้องเฝ้าระวังกันตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่ นางมะลิ จั่นบรรจง อายุ 53 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 ต.ไชโย ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ที่ยอมให้เป็นที่พักของมวลน้ำที่ทะลักเข้ามา เป็นบ้าน 2 ชั้นและบริเวณชั้นล่างมีระดับน้ำเข้าท่วมสูงเกือบ 2 เมตร เปิดเผยว่า ตนยินยอมและเต็มใจเสียสละบ้านของตนเองให้เป็นจุดรวมน้ำ เพื่อที่จะได้สูบออกได้ง่าย เพราะอยู่ติดกับเขื่อน ซึ่งถ้าไม่ทำแบบนี้ จะมีผู้ได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ทั้งวัดไชโยวรวิหาร และ ชาวบ้าน ทั้ง 6 หมู่ ตอนนี้ก็อาศัยอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน โดยขึ้นลงทางหน้าต่าง