11 วิธีสร้างทัศนคติที่ดีในการใช้ชีวิต เปลี่ยนความคิด | บทความโดย Pchalisa การสร้างทัศนคติที่ดีเป็นเหมือนการลงทุนในชีวิตที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าที่สุดค่ะ เพราะมันจะส่งผลต่อทุกด้านของชีวิตเรา ที่ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ การทำงาน หรือแม้แต่ด้านสุขภาพกายและใจด้วย ดังนั้นการหันมาพัฒนาตัวเองเพื่อปรับเปลี่ยนทัศคติจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างมาก และหัวข้อนี้คนที่ต้องการพัฒนาตัวเองมักให้ความสำคัญค่ะ เพราะอย่าลืมว่าคนๆ หนึ่งเขาจะพัฒนาไปตามสิ่งที่เขาคิดค่ะ ความคิดสร้างทัศนคติ เมื่อเราคิดเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งบ่อยครั้งและต่อเนื่อง ความคิดเหล่านั้นจะค่อยๆ ก่อตัวเป็นทัศนคติ เช่น ถ้าเราคิดว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องยากและน่าเบื่อ เราก็จะมีทัศนคติที่ไม่ชอบการออกกำลังกาย ทัศนคติที่มีอยู่แล้วจะส่งผลต่อวิธีที่เราคิดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ เช่น ถ้าเรามีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้ เราจะมองหาโอกาสในการเรียนรู้เสมอและคิดว่าการเรียนรู้เป็นเรื่องสนุก และทั้งความคิดและทัศนคติจะส่งผลต่อการกระทำของเรา เช่น ถ้าเรามีความคิดและทัศนคติที่ดีต่อการทำงาน เราจะทำงานอย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพ ความคิดและทัศนคติเป็นเหมือนเหรียญสองด้าน ที่มีอิทธิพลต่อกันและกัน การทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างความคิดและทัศนคติจะช่วยให้เราสามารถปรับเปลี่ยนทัศนคติที่ไม่ดีได้ และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่ดีขึ้น และต่อไปนี้คือวิธีสร้างทัศนคติที่ดีค่ะทุกคน 1. โฟกัสที่ปัจจุบัน เมื่อเราให้ความสำคัญกับปัจจุบัน เราจะไม่จมอยู่กับความเสียใจในอดีต หรือกังวลกับอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้น จึงทำให้จิตใจสงบและลดความเครียดลงได้ การอยู่กับปัจจุบันทำให้เราสามารถรับรู้และชื่นชมกับสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตมากขึ้น ทำให้เรามีความสุขและอิ่มเอมใจ การโฟกัสที่งานที่ทำในปัจจุบัน ทำให้เราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีสมาธิมากขึ้นค่ะ การให้ความสำคัญกับปัจจุบัน ทำให้เราสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นได้มากขึ้น เพราะเราจะใส่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนั้นเท่านั้น ซึ่งการอยู่กับปัจจุบันทำให้เราสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง เพราะเราจะเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ และพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงนะคะ 2. สร้างเป้าหมาย คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า? การสร้างเป้าหมายเป็นเหมือนการสร้างแผนที่นำทางชีวิต ช่วยให้เรามีทิศทางและแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต เมื่อเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน ชีวิตของเราก็จะไม่รู้สึกว่างเปล่า แต่เต็มไปด้วยความหมายและความสำคัญ เป้าหมายเป็นเหมือนแรงผลักดันให้เราอยากจะทำสิ่งต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้นๆ เมื่อเราเห็นความคืบหน้าในการบรรลุเป้าหมาย ความมั่นใจในตัวเองก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วยค่ะ 3. สร้างวินัย การสร้างวินัยเป็นเหมือนการปูพื้นฐานให้กับการพัฒนาทัศนคติที่ดีได้อย่างแน่นอนค่ะ เพราะวินัยจะช่วยฝึกให้เราสามารถควบคุมตนเอง มีระเบียบวินัย และมีความรับผิดชอบ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการมองโลกในแง่ดีและการมีทัศนคติที่ดีต่อชีวิต เมื่อเราทำอะไรได้สำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ด้วยความสม่ำเสมอและวินัย จะทำให้เรารู้สึกภูมิใจในตัวเอง และมีความมั่นใจมากขึ้นในการเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ได้ค่ะ การสร้างวินัยต้องใช้ความอดทนและความพยายามอย่างต่อเนื่อง เมื่อเราฝึกฝนตัวเองให้มีวินัย ก็จะทำให้เรามีความอดทนมากขึ้นในการรอคอยผลลัพธ์ และสามารถรับมือกับความผิดพลาดได้ดีขึ้น ความมีระเบียบวินัยทำให้เรารู้สึกเป็นเจ้าของชีวิตมากขึ้น เราสามารถควบคุมและกำหนดทิศทางของชีวิตได้เอง ซึ่งจะนำไปสู่ความรู้สึกพึงพอใจและมีความสุขในชีวิต การมีวินัยทำให้เราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น และมีเวลาเหลือไปทำในสิ่งที่เราชอบ และวินัยทำให้เราเป็นคนที่น่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อความสัมพันธ์กับผู้อื่น ทั้งในระดับส่วนตัวและระดับสังคม 4. ยอมรับความผิดพลาด เมื่อเราหันมายอมรับความผิดพลาด สิ่งนี้เป็นเหมือนกุญแจสำคัญที่นำไปสู่การสร้างทัศนคติที่ดีได้อย่างน่าทึ่งค่ะ เพราะเมื่อเราสามารถยอมรับว่าเราทำผิดพลาดได้ เราก็จะสามารถเปิดใจเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้มากขึ้น ในขณะที่การปกปิดความผิดพลาดจะทำให้เราเครียดและกังวลตลอดเวลา แต่เมื่อเราเปิดใจยอมรับ เราจะรู้สึกโล่งใจและสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด การยอมรับความผิดพลาดแสดงให้เห็นว่าเราเป็นคนที่กล้าหาญและพร้อมที่จะเรียนรู้จากข้อผิดพลาด ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งตอนเรายอมรับความผิดพลาดและขอโทษจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น เพราะมันแสดงให้เห็นว่าเราเคารพผู้อื่น และพร้อมที่จะรับผิดชอบในสิ่งที่เราทำ การยอมรับความผิดพลาดเป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้จากประสบการณ์และพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้น และคนที่ยอมรับความผิดพลาดจะได้รับการยอมรับและชื่นชมจากผู้อื่นมากกว่าคนที่พยายามปกปิดความผิดพลาด ดังนั้นการยอมรับความผิดพลาดเป็นสิ่งสำคัญในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองค่ะ 5. ฝึกการฟัง การฟังเป็นทักษะสำคัญที่ส่งผลต่อการสร้างทัศนคติที่ดีได้อย่างมากเลยค่ะ เพราะการฟังไม่ใช่แค่การรับฟังเสียง แต่เป็นการเปิดใจรับรู้ เข้าใจ และเคารพในความคิดเห็นของผู้อื่น ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาทัศนคติที่ดีได้ค่ะ เนื่องจากการฟังอย่างตั้งใจทำให้เราเข้าใจความรู้สึก ความคิด และมุมมองของผู้อื่นได้ลึกซึ้งขึ้น ทำให้เกิดความเห็นอกเห็นใจ เมื่อเราเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น ก็จะช่วยลดความเข้าใจผิดและความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นได้ การเป็นผู้ฟังที่ดีจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น เพราะทุกคนต้องการที่จะรู้สึกว่าตัวเองได้รับการฟังและเข้าใจ การฟังความคิดเห็นที่แตกต่างจะช่วยให้เรามีความคิดที่เปิดกว้างและยอมรับความหลากหลาย เมื่อเราฟังผู้อื่นพูดจะทำให้เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และได้รับมุมมองที่แตกต่างออกไป ซึ่งการฟังการบรรยาย การสนทนา หรือการฟังข่าวสารต่างๆ จะช่วยเพิ่มพูนความรู้และทักษะของเรา ในทางตรงกันข้ามการฟังเพลงที่ชอบหรือเสียงธรรมชาติ จะช่วยผ่อนคลายจิตใจและลดความเครียดได้ค่ะ ดังนั้นการฟังอย่างตั้งใจจะช่วยให้เราเข้าใจผู้อื่นมากขึ้นและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีได้จ้า 6. ฝึกการพูด การฝึกฝนการพูดนั้นมีส่วนสำคัญในการสร้างทัศนคติที่ดีอย่างมากเลยค่ะ เพราะการพูดไม่ใช่แค่การสื่อสาร แต่ยังเป็นการสะท้อนความคิด ความรู้สึก และทัศนคติของเราด้วย เมื่อเราได้ฝึกพูดบ่อยๆ สิ่งนี้จะช่วยให้เราคุ้นเคยกับการพูดต่อหน้าผู้อื่นมากขึ้น ทำให้เรามีความมั่นใจในตัวเอง กล้าแสดงออก และกล้าเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆ การฝึกพูดจะช่วยให้เราสื่อสารความคิดของเราได้อย่างชัดเจนและเข้าใจง่าย ทำให้คนรอบข้างเข้าใจเราและเกิดความสัมพันธ์ที่ดี เมื่อเราฝึกพูด เราก็จะได้ฝึกฟังผู้อื่นมากขึ้น ทำให้เราเข้าใจความคิดเห็นของคนอื่น และเปิดใจรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง การเตรียมตัวพูดจะทำให้เราต้องคิดวิเคราะห์ข้อมูลและเรียบเรียงความคิด ทำให้เราคิดได้อย่างมีเหตุผลและเป็นระบบมากขึ้นค่ะ การพูดจาไพเราะ สุภาพและมีเหตุผล จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตัวเราเอง เมื่อเราพูดคำชม พูดจาให้กำลังใจ หรือพูดถึงสิ่งดีๆ บ่อยๆ จะส่งผลให้เรามีความคิดที่เป็นบวกและดึงดูดพลังงานที่ดีเข้ามาในชีวิต การฝึกพูดให้สร้างสรรค์ จะช่วยให้เราคิดค้นไอเดียใหม่ๆ และมองโลกในแง่ดี การพูดที่สร้างแรงบันดาลใจจะช่วยให้เรามีเป้าหมายในชีวิตและมีความมุ่งมั่นที่จะก้าวไปข้างหน้า สรุปคือการสื่อสารที่ดีจะช่วยให้เราแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกของเราได้อย่างชัดเจนค่ะ 7. ตั้งใจทำงาน การตั้งใจทำงานเป็นเหมือนรากฐานสำคัญที่ช่วยสร้างทัศนคติที่ดีได้อย่างแน่นอนค่ะ เพราะเมื่อเราตั้งใจทำงาน เราก็จะได้รับผลตอบแทนทั้งในแง่ของความสำเร็จและความพึงพอใจ เมื่อเราตั้งใจทำงานและเห็นผลลัพธ์ที่ดี เราก็จะรู้สึกภูมิใจในตัวเองมากขึ้น ทำให้เรามีความมั่นใจในการทำสิ่งต่างๆ ช่วยให้เรามองเห็นโอกาสและความเป็นไปได้มากขึ้น ทำให้เรามีทัศนคติเชิงบวกต่อชีวิต ทำให้เราเรียนรู้ที่จะรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเอง และมีความเป็นเจ้าของงาน การตั้งใจทำงานจะกระตุ้นให้เราอยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้นค่ะ การทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างตั้งใจจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานและเจ้านาย เมื่อเราตั้งใจทำงานและเห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม เราจะรู้สึกผ่อนคลายและลดความเครียดได้ การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าต่อสังคมและองค์กร เมื่อเราเห็นความสำเร็จจากการทำงาน เราก็จะอยากพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้นไปอีก การตั้งใจทำงานจะทำให้เรามองเห็นความสำคัญของงานและมีความสุขกับการทำงาน ซึ่งการทำงานอย่างมีความสุขจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จและมีความสุขมากขึ้นนะคะ 8. พัฒนาตนเองและสร้างความสัมพันธ์ที่ดี หลายคนอาจยังมองไม่เห็นว่า การพัฒนาตนเองและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีเป็นเหมือนการลงทุนในตัวเราเอง เนื่องจากการเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จะช่วยให้เรามีความคิดที่เปิดกว้างและปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้นค่ะ การพัฒนาทักษะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทักษะด้านการทำงาน ทักษะการสื่อสาร หรือทักษะส่วนบุคคล จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง และทำให้เรามีความสามารถในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การดูแลสุขภาพทั้งกายและใจ จะทำให้เรามีพลังงานและความพร้อมในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้ การได้ฝึกสติจะช่วยให้เราสามารถควบคุมอารมณ์และความคิดของตัวเองได้ดีขึ้น ทำให้เรามองโลกในแง่ดีมากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง จะช่วยให้เรารู้สึกมีคุณค่าค่ะ 9. หาเวลาทำในสิ่งที่ชอบ การหาเวลาทำในสิ่งที่ชอบเป็นเหมือนการเติมพลังให้กับชีวิตเลยนะคะ เพราะการได้ทำในสิ่งที่เราชอบจะทำให้เรารู้สึกมีความสุข สนุก การทำกิจกรรมที่เราชอบจะช่วยให้เราผ่อนคลายและลดความเครียดจากการทำงานหรือเรียน การทำในสิ่งที่ชอบจะช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ เมื่อเราทำในสิ่งที่เราชอบและประสบความสำเร็จ เราจะรู้สึกภูมิใจในตัวเองและมีความมั่นใจมากขึ้น การมีเวลาทำในสิ่งที่ชอบจะช่วยให้เรามีชีวิตที่สมดุล ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่แค่เรื่องงานหรือการเรียน เมื่อเรามีความสุขกับชีวิต เราก็จะมองโลกในแง่ดีมากขึ้น การทำในสิ่งที่ชอบเป็นการเติมเต็มความสุขส่วนตัว ทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตมีความหมาย ช่วยให้เรามีแรงบันดาลใจในการทำสิ่งอื่นๆ ได้ค่ะ 10. เดินทางท่องเที่ยว การท่องเที่ยวนั้นไม่ใช่แค่การไปยังสถานที่ใหม่ๆ แต่ยังเป็นการเดินทางของจิตใจที่สามารถเปลี่ยนแปลงทัศนคติของเราได้อย่างน่าทึ่งเลยค่ะ การได้ออกไปสัมผัสวัฒนธรรมที่แตกต่าง ผู้คนหลากหลาย และธรรมชาติที่สวยงาม จะช่วยให้เรามีทัศนคติที่ดีขึ้นได้ในหลายๆ ด้าน เพราะการเดินทางทำให้เราได้พบเจอกับสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ทั้งวัฒนธรรม ภาษา อาหาร และวิถีชีวิตของผู้คน ทำให้เราเปิดใจรับฟังและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้มากขึ้น การเดินทางจะช่วยกระตุ้นให้เราเกิดไอเดียใหม่ๆ และมองโลกในมุมที่กว้างขึ้น ทำให้เราคิดนอกกรอบและมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น และคุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า? การเดินทางโดยเฉพาะการเดินทางคนเดียว จะช่วยให้เรามีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เพราะเราต้องเรียนรู้ที่จะเอาตัวรอดและแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยตัวเอง การได้พักผ่อนจากชีวิตประจำวันและไปสัมผัสธรรมชาติ จะช่วยให้เราผ่อนคลายและลดความเครียดได้เป็นอย่างดี การเดินทางร่วมกับเพื่อนหรือครอบครัว จะช่วยให้เราได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น ทำให้เราต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในการดำรงชีวิต การได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนในที่ต่างๆ จะทำให้เราเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามี และรู้จักพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่ค่ะ 11. มีความหวัง ความหวังเปรียบเสมือนแสงสว่างที่นำทางให้เราเดินต่อไปข้างหน้าในยามที่รู้สึกท้อแท้หรือสิ้นหวังค่ะ ความหวังเป็นพลังงานบวกที่สามารถผลักดันให้เราผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ไปได้ และยังช่วยสร้างทัศนคติที่ดีต่อชีวิตได้อีกด้วย ความหวังจะช่วยให้เรามองเห็นด้านดีของชีวิตและมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายในอนาคต ทำให้เรามีพลังงานในการทำสิ่งต่างๆ การมีความหวังจะช่วยลดความวิตกกังวลและความเครียด เพราะเราจะรู้สึกว่ามีกำลังใจในการเผชิญหน้ากับปัญหาต่างๆ นะคะ เมื่อเรามีความหวัง เราจะเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้นและกล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่ๆ ความหวังจะช่วยให้เรามีแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเองและก้าวไปข้างหน้า ทำให้เรามองโลกในแง่ดีและเห็นโอกาสในทุกๆ สถานการณ์ เมื่อเรามีความหวัง เราจะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นได้ เพราะความหวังเป็นพลังงานที่ติดต่อกันได้ การมีความหวังจะทำให้เรารู้สึกมีความสุขและพึงพอใจกับชีวิตมากขึ้น เพราะความหวังเป็นแรงผลักดันสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จ ความหวังจะกระตุ้นให้เราอยากเรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอนะคะ และทั้งหมดนั้นคือแนวทางที่สามารถช่วยทำให้เราเป็นคนมีทัศนคติที่ดีได้ และต้องบอกว่าผู้เขียนก็เป็นคนหนึ่งที่ได้ประยุกต์ใช้ข้อมูลในนี้เกือบจะทั้งหมดค่ะ โดยสิ่งที่ทำตลอดแบบไม่เคยทิ้งเลยก็คือการสร้างวินัยให้ตัวเอง การตั้งใจทำงาน ฝึกการฟังและฝึกการพูดด้วย โดยในตอนหลังมาได้ทำวิดีโอสั้นและพูดบรรยายเอง แล้วนำไปลงในเฟสบุ๊กด้วยค่ะ การหาเวลาทำในสิ่งที่ชอบก็ได้ทำเรื่อยๆ การไปท่องเที่ยวก็ทำบ้างตามโอกาส และไม่เคยลืมที่จะมีความหวังในทุกๆ วันค่ะ ก็เกือบจะทุกข้อจริงๆ นะคะ อย่างไรก็ตามการสร้างทัศนคติที่ดีเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความพยายามอยู่เหมือนกันค่ะ เพราะไม่ใช่สิ่งนี้จะทำได้ในชั่วข้ามคืนนะคะ แต่ถ้าเราตั้งใจฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ เราจะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราให้ดีขึ้นได้อย่างแน่นอนจากการเปลี่ยนทัศนคติค่ะ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ😁 เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปก โดย Ron Lach จาก Pexels ภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1-2 โดยผู้เขียน, ภาพที่ 3 โดย Chevanon Photography จาก Pexels และภาพที่ 4 โดย ankiyay จาก Pexels ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa https://news.trueid.net/detail/rGz73MYpkbo4 https://news.trueid.net/detail/vRjP7NdVD2a4 https://news.trueid.net/detail/GzqK4pRdpemE เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !