ยูเครนยกระดับความปลอดภัย หวั่นรัสเชียรุกล้ำในวันเอกราชยูเครน
ยูเครนยกระดับความมั่นคงทั่วประเทศในวันเอกราช ท่ามกลางความกังวลว่ารัสเซียอาจมีปฏิบัติการบางอย่างในช่วงเวลานี้ ขณะที่ผู้นำยูเครนประกาศพร้อมตอบโต้อย่างทรงพลัง และนำแคว้นไครเมียกลับคืนสู่ยูเครน
---ยูเครนยกระดับความมั่นคงทั่วประเทศ หวั่นถูกโจมตีช่วงวันเอกราช---
วันนี้ครบรอบ 31 ปีที่ยูเครนเป็นเอกราช ออกจากสหภาพโซเวียตเมื่อปี 1991 และครบรอบ 6 เดือนที่รัสเซียเปิดปฏิบัติการทางทหารในยูเครนด้วย โดยประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีและบรรดาชาติตะวันตก กล่าวว่า รัสเซียอาจโจมตีอย่างรุนแรงในช่วงก่อนวันเอกราชของยูเครน ทำให้หลายเมืองของยูเครน เฝ้าระวังขั้นสูง และประกาศห้ามรวมตัวกันในที่สาธารณะ หรือไม่ก็ประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกนอกเคหสถานไปจนถึงวันพฤหัสบดีด้วย
ขณะที่รัฐบาลยูเครนยังแบนการเฉลิมฉลองในกรุงเคียฟ เมืองหลวงด้วย แม้ที่ตั้งของกรุงเคียฟจะอยู่ห่างไกลจากแนวหน้าของสงครามก็ตาม
ด้านสถานทูตสหรัฐฯ ในยูเครน ประกาศเตือนครั้งใหม่ ให้ชาวอเมริกันที่อยู่ในยูเครน เดินทางออกจากยูเครน "ทันที" หลังจากสหรัฐฯ เชื่อว่า รัสเซียอาจมีเป้าหมายโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลและของพลเรือนในช่วงวันเอกราชยูเครน
ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ยังเพิ่มมากขึ้นในช่วงเวลานี้ หลังมีการลอบวางระเบิดรถยนต์ในกรุงมอสโก จนทำให้ดาร์ยา ดูกินา ลูกสาวของอเล็กซานเดอร์ ดูกิน นักปรัชญาและที่ปรึกษาคนใกล้ชิดของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เสียชีวิต ซึ่งทางการรัสเซียอ้างว่า เป็นฝีมือของหน่วยข่าวกรองยูเครน
---ผู้นำยูเครนประกาศ พร้อมเอาไครเมียกลับคืนมา---
เมื่อวานนี้ (23 สิงหาคม) ประธานาธิบดีเซเลนสกี ประกาศว่า หากรัสเซียโจมตียูเครนในช่วงนี้ รัสเซียจะเผชิญการตอบโต้ที่ทรงพลัง “ในแต่ละวัน การตอบโต้นี้จะเพิ่มขึ้น แข็งแรงมากขึ้นเรื่อยๆ”
ขณะเดียวกันเซเลนสกี ยังกล่าวว่า ยูเครนจะเอาไครเมียกลับคืนมา ความขัดแย้งกับรัสเซียเริ่มขึ้นที่ใด ก็จะจบลงในที่ ๆ มันเริ่มต้น นั่นคือที่คาบสมุทรไครเมีย เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องปลดปล่อยไครเมียจากการควบคุมของรัสเซีย เพราะนั่นคือการฟื้นคืนชีพกฎหมายและระเบียบโลก
ผู้นำยูเครนระบุต่อไปว่า หนทางเดียวที่จะรับประกันเสถียรภาพทั่วยุโรป คือการสกัดความทะเยอทะยานทางทหารของรัสเซีย ไม่ให้ประสบความสำเร็จในยูเครน และชี้ว่า ความล้มเหลวในการทำให้รัสเซียต้องรับผิดชอบการบุกไครเมียตั้งแต่ปี 2014 นั้น คือต้นตอชนวนเหตุที่ทำให้ยูเครนต้องมาจับอาวุธสู้ในวันนี้
คำกล่าวล่าสุดของผู้นำยูเครน มีขึ้นใน Crimea Platform Summit ซึ่งเป็นการประชุมออนไลน์ของผู้นำโลกและองค์การระหว่างประเทศ รวมถึงประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรี 40 ประเทศว่าด้วยเรื่องไครเมีย และการสนับสนุนยูเครนในสงคราม โดยที่ประชุมได้ยืนยันการสนับสนุนยูเครนอย่างต่อเนื่องต่อไปทั้งการทหารและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
---นาโตชี้ สงครามยูเครนลากยาวหลายเดือนหรือหลายปี---
ด้านเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การนาโต กล่าวในการประชุมว่า การสู้รบในยูเครน จัดเป็นการสู้กันที่ใจ และการสู้กันด้วยโลจิสติกส์การส่งกำลังบำรุง และจัดเป็นการสู้รบประเภท "สงครามพร่ากำลัง" (War of Attrition)
ข้อมูลจาก BBC อธิบายลักษณะสงครามชนิดนี้ เป็นการสู้รบที่ลากยาวอาจนานหลายเดือนหรือหลายปี และจะสู้กันไปจนหมดแรงสู้ โดยไม่มีฝ่ายใดยอมแพ้
สโตลเทนเบิร์กเตือนด้วยว่า ฤดูหนาวกำลังจะมาถึงและจะทำให้สถานการณ์ในยูเครนยากลำบากมากขึ้น
พร้อมประกาศว่า นาโตจะต้องสนับสนุนยูเครนต่อไปในระยะยาว แม้จะเป็นสงครามที่ลากยาวก็ตาม เพื่อให้แน่ใจว่า ยูเครนจะสามารถขับกองกำลังรัสเซียออกไปจากยูเครนได้สำเร็จ
————
แปล-เรียบเรียง: ธัญย์ชนก จงยศยิ่ง
ภาพ: Reuters