ซัมซุง ผนึก Google Gemini เปิดตัว AI Vision ยกระดับบ้านอัจฉริยะในงาน CES 2026

ซัมซุง (Samsung) เปิดตัว AI Vision เวอร์ชันใหม่ ภายในงาน Consumer Electronics Show 2026 (CES 2026) หรือ งานมหกรรมแสดงเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภคที่ใหญ่และทรงอิทธิพลที่สุดในโลก พร้อมประกาศความร่วมมือกับ Google Gemini และ Google Cloud เพื่อนำความสามารถของโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายรูปแบบ (Multimodal AI) เข้ามาเสริมศักยภาพให้เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มอุปกรณ์ครัวอัจฉริยะ

AI Vision คืออะไร ?

AI Vision รุ่นใหม่นี้ ไม่ได้อยู่แค่การ “มองเห็น” ผ่านกล้องเท่านั้น แต่คือเทคโนโลยีที่ผสานคอมพิวเตอร์วิชัน หรือการวิเคราะห์ภาพและวิดีโอได้ของคอมพิวเตอร์ได้ เช่นเดียวกับมนุษย์ เข้ากับ Generative AI เพื่อให้ระบบสามารถตีความสิ่งที่เห็น และเชื่อมโยงข้อมูลเหล่านั้นเข้ากับพฤติกรรมผู้ใช้ได้โดยอัตโนมัติ

เทคโนโลยีนี้สามารถจดจำอาหารและวัตถุต่าง ๆ ภายในตู้เย็นได้ละเอียดขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องตั้งค่าล่วงหน้าทั้งหมด ระบบสามารถแยกแยะอาหารสด อาหารแปรรูป รวมถึงวัตถุที่ผู้ใช้ติดป้ายกำกับเอง และอัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์ นี่เป็นตัวอย่างของการนำ AI มาจัดการข้อมูลเชิงกายภาพ (Physical Data) ให้กลายเป็นดิจิทัลอย่างเป็นระบบ

ความร่วมมือกับ Google Gemini ทำให้เทคโนโลยีนี้ก้าวจากระบบจดจำภาพ ไปสู่การ “เข้าใจบริบท” มากขึ้น โดยมี Gemini ทำหน้าที่เป็นแกนกลางในการประมวลผลข้อมูลจากภาพ เสียง และคำสั่งของผู้ใช้ ช่วยให้เครื่องใช้ไฟฟ้าสามารถโต้ตอบและแนะนำการใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่ใช่แค่ทำงานตามคำสั่งแบบเดิม

หนึ่งในอุปกรณ์ที่ถูกนำมาโชว์ศักยภาพของเทคโนโลยีนี้คือตู้เย็นอัจฉริยะที่มีชื่อว่า Bespoke AI Refrigerator Family Hub ซึ่งใช้ AI Vision ร่วมกับ Gemini เพื่อจัดการข้อมูลอาหารภายในตู้เย็น ตั้งแต่การตรวจจับสิ่งของ การจัดหมวดหมู่ ไปจนถึงการแสดงผลข้อมูลผ่านหน้าจออัจฉริยะ โดยลดภาระของผู้ใช้ในการกรอกข้อมูลด้วยตัวเอง

ซัมซุงยังขยายการใช้งาน AI Vision ไปสู่ตู้เก็บไวน์อัจฉริยะที่มีชื่อว่า Bespoke AI Wine Cellar ซึ่งสามารถจดจำฉลากไวน์ ติดตามจำนวน และจัดเก็บข้อมูลแต่ละขวดได้อัตโนมัติ สะท้อนให้เห็นการนำ AI มาแก้ปัญหาการจัดการข้อมูลเฉพาะทาง (Niche Use Case) มากกว่าการใช้งานแบบทั่วไป

ภาพรวมของนวัตกรรมครั้งนี้ ชี้ให้เห็นทิศทางใหม่ของอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่กำลังเปลี่ยนจาก “อุปกรณ์อัจฉริยะ” ไปสู่ระบบที่มี AI เป็นแกนกลางอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แต่เป็นการทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าใจสิ่งแวดล้อมและผู้ใช้งานได้ใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้น