ในการหารายได้จากตลาดหุ้นนอกจากการลงทุนโดยเน้นคุณค่าแล้ว อีกหนทางหนึ่งที่ทำได้คือการเก็งกำไรเพื่อสร้างกระแสเงินสดเข้ามาจากการเก็งกำไรในแต่ละครั้ง เทรดหุ้นด้วยกราฟเล่มนี้จะเหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการเข้าสู่โลกของการเก็งกำไร โดยอาศัยกราฟแท่งเทียนเป็นหลักว่าควรเข้าซื้อที่จุดไหนเทรดหุ้นด้วยกราฟ เขียนโดย พัชราภรณ์ เคนชมภู เจ้าของเพจ เหวี่ยงหุ้น...Go Inter ภายในเล่มว่าด้วยเรื่องของหลักการ Technical Analysis เป็นการนำข้อมูลจากอดีตหรือสถิติมาวิเคราะห์หาความน่าจะเป็นในอนาคตช่วยหาจังหวะซื้อขายที่เหมาะสม โดยเฉพาะผู้ที่ชอบเก็งกำไร ซึ่งจะช่วยบอกได้ว่ากราฟจะมีแนวโน้มไปต่อหรือไม่ ใช้ได้กับทั้งหุ้น ทองคำ TFEX FOREX เป็นต้นสำหรับใครที่เป็นมือใหม่อยากเข้ามาสู่โลกของการเก็งกำไรแล้วละก็...เล่มนี้ถือว่าเหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะทั้งอ่านง่าย เข้าใจง่าย ทิศทางเนื้อหาเข้าใจหัวอกของคนเป็นมือใหม่จริงๆ ทำให้ได้เรียนรู้เข้าใจในระดับหนึ่ง ส่วนการนำไปใช้กับการลงทุนได้ดีแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการตั้งเป้าหมาย การตีความของกราฟ และเงินทุนของแต่ละคน แนวคิดที่ได้ภายในเล่มตลาดมีการเคลื่อนไหวหลักๆ 3 รูปแบบ คือ แนวโน้มใหญ่ (1-3 ปีหรือมากกว่านั้น) แนวโน้มกลาง (3 สัปดาห์ ถึง 3 เดือนหรือมากกว่านั้น) แนวโน้มระยะสั้น (รายวันจนถึง 1 เดือน หรือมากกว่านั้น)ตลาดหุ้นมีเทรนด์ 3 ช่วงใหญ่ๆ ได้แก่ ช่วงสะสมหุ้น ช่วงมหาชน และช่วยปล่อยของTrend Line คือ เส้นแนวโน้ม ที่ช่วยบอกเทรนด์ ถ้าเฉียงขึ้นก็เป็นเทรนด์ขาขึ้น เฉียงลงก็เป็นเทรนด์ขาลง จะจบเทรนด์ก็ต่อเมื่อแท่งเทียนทะลุเส้น Trend Line ฉะนั้น มันจึงเหมาะกับกราฟแนวโน้มขาขึ้นและขาลง Channel Trade เป็นการตีเส้น 2 ทิศทาง เพื่อหาว่ากราฟจบจาก Sideway แล้ว จะขึ้นหรือลงต่อ มักใช้กับกราฟช่วง Sideway Up เพราะกราฟช่วงขาลงเราจะไม่เทรด กราฟมันอาจจะลงต่อไปได้เรื่อยๆ เราไม่มีทางรู้ว่าจะลงไปถึงเมื่อไหร่แนวรับและแนวต้าน เป็นแนวราคาที่มีคนต้องการซื้อขายมากๆ ปรากฏเป็นแนวนอน (Horizontal Line) แบ่งเป็น เส้นแนวรับ (Support Line) คือ ช่วงราคาลงแล้วมีแรงซื้อกลับที่ราคา X บาท ทำให้กราฟขึ้น เส้นแนวต้าน (Resistant Line) คือ กราฟที่ขึ้นมาเป็นลงที่แนวราคาเดิมบ่อยๆ เนื่องจากมีคนรอขายที่ราคานี้อยู่เป็นจำนวนมากแท่งเทียนที่ทะลุแนวต้าน (เส้นข้างบน) จะกลายเป็นแนวรับ แท่งเทียนที่ทะลุแนวรับ (เส้นข้างล่าง) จะกลายเป็นแนวต้านMA ย่อมาจาก Moving Average เป็นเส้นค่าเฉลี่ยของราคาหุ้น เช่น ใช้ MA 20 คือ เอาราคาของ 20 วัน มารวมแล้วเฉลี่ยใหม่ เราก็จะได้ราคาเฉลี่ย 1 เดือนของคนที่ถือหุ้นนี้ MA ที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้ ได้แก่ 5,15,35 หรือ 20,60 หรือ 13,34,89 ตามสัดส่วน FibonacciPrice Pattern เป็นเทคนิคสังเกตการณ์เคลื่อนไหวของตลาด ใช้ดูการกลับตัวของแนวโน้มก็ได้ มีอยู่ 2 รูปแบบ คือ1.รูปแบบต่อเนื่อง (Continuous Pattern) จะเกิดราคาพักหรือชะลอตัวจนเป็น Pattern เป็นการยืนยันว่าราคาไปต่อในทิศทางเดิม2.รูปแบบกลับตัว (Reversal Pattern) เป็นรูปแบบแสดงสัญญาณเปลี่ยนทิศ มีทั้ง Double Top, Double bottom, Triple Top, Triple Bottom, Head and shouldersเราควรเลือกดูเทรนด์จาก Time Frame ใหญ่ๆก่อน เช่น Time Frame Month แล้วค่อยหาจังหวะเข้าซื้อใน Time Frame Dayทุกการเข้าซื้อ ต้องมีจุด Stop Loss เผื่อราคาไม่ขึ้นตามแผนที่ว่างไว้ บางคนก็ใช้การขาดทุน 5% 10% บางคนใช้ High เดิม หรือ Low เดิมก่อนหน้า หรือใช้ Trend Line, Speed Line ก็ได้ ตามแต่ความถนัดซื้อด้วยเทคนิคไหน ควรขายด้วยเทคนิคนั้น เช่น ซื้อด้วย EMA ก็ควรขายด้วย EMA เพราะแต่ละเทคนิคแม้จะให้สัญญาณใกล้เคียง แต่ก็ไม่เหมือนกัน สามารถใช้กราฟฟรีจากเว็บไซต์ siamchart.com ประกอบการพิจารณาได้และนี่ก็คือความน่าสนใจและความรู้ที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ แต่ถ้าจะให้ดี การอ่านโดยมีกราฟ มีรูปภาพประกอบจะช่วยให้เข้าใจรายละเอียดได้ดีขึ้น โดยเฉพาะลักษณะของกราฟแท่งเทียนที่มีรายละเอียดของตัวแท่งเทียนไม่เหมือนกัน มีความหมายที่เราจะต้องตีความด้วยความระมัดระวัง ใจเย็น ไม่ตัดสินด้วยความลำเอียง แล้วประสบการณ์จะหล่อหลอมให้เราเทรดได้เก่งขึ้นเครดิตภาพภาพปก ภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียนภาพที่ 3 โดย Nicholas Cappello จาก Unsplash.comภาพที่ 4 โดย Markus Spiske จาก Unsplash.comบทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิวหนังสือ คู่มือเทรด FUTURES ในตลาด TFEXรีวิวหนังสือ เพาะหุ้นเป็นเห็นผลยั่งยืนรีวิวหนังสือ เล่นหุ้นออนไลน์ไม่ยากรีวิวหนังสือ เริ่มต้นลงทุนหุ้นด้วยตัวเองอย่างยั่งยืน ฉบับมือใหม่รีวิวหนังสือ 5 STEPS เทรดหุ้นจากเริ่มต้นจนเทรดเป็นเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !