ภาวะเบิร์นเอ้าท์ (Burnout Syndrome) หรือภาวะหมดไฟจากการทำงาน อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย เพื่อนๆเคยรู้สึกไหมครับ เมื่อทำงานไปสักระยะหนึ่ง อาจรู้สึกว่า "หมดไฟ" ในการทำงาน บางครั้งคุณอาจจะเผชิญกับภาวะเบิร์นเอ้าท์ หรือ Burnout Syndrome แบบไม่รู้ตัว ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติสำหรับปัจจุบันที่ปัจจัยต่างๆ รอบตัวเราอาจทำให้เกิดอาการหมดไฟ ทั้งจากเพื่อนร่วมงาน งานหนักเกินไป หัวหน้าไม่เข้าใจ หรือต้องจำใจทำงานที่ไม่ชอบ ฯลฯ วันนี้ผู้เขียนจึงอยากมาแชร์วิธีลดอาการหมดไฟ เพื่อเติมพลังบวกให้ตัวเอง และผ่อนคลายจากความตึงเครียดจากที่ทำงาน ให้สามารถมีกำลังใจในการทำงานและใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุข ด้วยวิธีเหล่านี้กันครับกลับบ้าน ต้องเกริ่นก่อนครับว่าผู้เขียนเองเป็นคนต่างจังหวัด เข้าทำงานในเมืองหลวง ทำงานต่างที่ต่างถิ่น บ่อยครั้งก็รู้สึกหมดไฟจากการทำงาน และพบว่าการพาตัวเองกลับบ้านไปหาคนที่เรารัก กลับไปกอดพ่อ กอดแม่ ทำให้เรามีกำลังใจและเป็นการเติมพลังในการใช้ชีวิตได้ดีมากๆครับออกกำลังกาย แน่นอนนอนครับว่าการออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าเป็นสิ่งที่ดี และทำให้สุขภาพแข็งแรง แต่ทราบหรือไม่ครับว่า การออกกำลังกายนั้นยังสามารถช่วยให้เรามีจิตใจที่ดีขึ้น และเพิ่มความสุขมากขึ้น เพราะเมื่อเราออกกำลังกายจะมีสารตัวหนึ่งที่ชื่อว่าสาร "เอ็นโดรฟิน" หรือสารแห่งความสุข ที่จะทำให้เรารู้สึกสบาย ลดอาการเครียด และได้ปลดปล่อยพลังงานลบๆ ในขณะออกกำลังกาย โดยอาจจะเริ่มออกกําลังกาย 15 นาที หรือ 20 นาที หรือตามสะดวกได้เลยค่าบกินอาหารดีมีประโยชน์ การกินอาหารที่มีประโยชน์ช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดี รวมถึงระบบการทำทำงานของร่างกายโดยรวม เช่น ระบบการขับถ่าย การย่อยอาหาร และระบบอื่นๆ ทำงานได้ดียิ่งขึ้น และที่สำคัญควรดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน เพราะร่างกายคนเราประกอบด้วยน้ำถึง 60-70 เปอร์เซ็นต์ เป็นส่วนช่วยในการปรับสมดุลโดยรวมของร่างกาย เพราะฉะนั้นอย่าลืมดื่มน้ำกันเยอะๆ นะค่าบ เดินเล่นสวนสาธารณะ ในหนึ่งสัปดาห์แนะนำว่าเราควรไปสูดอากาศ เดินเล่น หรือเดินชมนกชมไม้ที่สวนสาธารณะบ้าง เพื่อปลดปล่อยความเครียด ความไม่สบายใจของตัวเองออกไปจากตัว เพราะปกติเรามักจะอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงานหรือห้องพัก หากได้มีโอกาสไปเจอต้นไม้สีเขียวๆ อากาศดีๆ ไปฟังเสียงนก เสียงแมลง อาจช่วยให้เราผ่อนคลายและรู้สึกดีมากขึ้นตั้งเป้าหมายในชีวิต ประเด็นนี้ส่วนตัวผู้เขียนมองว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนควรพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง เพราะจริงๆ แล้วการทำงาน หรือการใช้ชีวิตในแต่ละวัน โดยมีเป้าหมายเป็นสิ่งที่ดี เช่น เป้าหมายในการทำงาน การใช้ชีวิต หรือเป้าหมายที่จะมีความสุขในรูปแบบที่ตนเองอยากจะเป็น เพราะเมื่อเราทราบแล้วว่าเป้าหมายคืออะไร เราก็สามารถใช้ชีวิตได้ถูกทางมากยิ่งขึ้น นำมาซึ่งความสุข และเต็มไปด้วยพลังบวก ดูหนังที่ชอบ สำหรับไครที่เป็นสายที่ชื่นชอบความบันเทิงการดูหนังออนไลน์ ฟังเพลง ร้องคาราโอเกะ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ เพราะนอกจากจะสนุกเพลิดเพลินแล้ว ถือเป็นการสังสรรค์ไปในตัว อย่าลืมชวนเดอะเเก๊ง หรือกลุ่มเพื่อนสนิทไปด้วยกันนะคิดบวก (Positive thinking) ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมองโลกในแง่ดีหรือการคิดบวกถือเป็นเรื่องพื้นฐานที่หากเราสามารถทำได้ จะเกิดประโยชน์เป็นอย่างมาก อาจช่วยให้การใช้ชีวิตของเราง่ายขึ้น เพราะเมื่อเรามองแต่ในแง่บวกแล้ว ทำให้เราลดอีโก้ (Ego) ลงได้ อีกทั้งยังทำให้เรามีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้างอีกด้วยสำหรับผู้เขียนเองได้ลองปรับใช้วิธีการต่างๆ ตามที่กล่าวมาเมื่อนำมาลองใช้กับตัวเองก็รู้สึกได้เลยว่าสามารถเติมพลังความคิด และเติมพลังให้กับชีวิตได้ดีมากๆ ช่วยให้ตัวเราเองสามารถทำงาน และมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น เพื่อนๆ อย่าลืมลองนำไปปรับใช้กันดูนะครับ ภาพจัดทำโดยครีเอเตอร์ตกแต่งภาพโดย canva.com เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !