รีเซต

ปภ.ประสานจังหวัดดูแลผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม-เผยส่งเครื่องสูบน้ำเข้าพท.เสี่ยงในกทม. 6 เขต

ปภ.ประสานจังหวัดดูแลผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม-เผยส่งเครื่องสูบน้ำเข้าพท.เสี่ยงในกทม. 6 เขต
มติชน
14 กันยายน 2565 ( 14:49 )
54
ปภ.ประสานจังหวัดดูแลผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม-เผยส่งเครื่องสูบน้ำเข้าพท.เสี่ยงในกทม. 6 เขต

เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 65 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานจังหวัดดูแลผู้ประสบอุทกภัยอย่างเต็มกำลัง ให้ความสำคัญกับการดูแลด้านการดำรงชีพเป็นหลัก ควบคู่กับการเร่งระบายน้ำท่วมขังเพื่อคลี่คลายสถานการณ์โดยเร็ว พร้อมส่งเครื่องจักรกลสาธารณภัยด้านอุทกภัยของศูนย์ ปภ.เขต เข้าเสริมกำลังการสูบระบายน้ำในพื้นที่ประสบภัยรวมแล้วกว่า 629 รายการ บูรณาการจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องมืออุปกรณ์ในพื้นที่พร้อมปฏิบัติการในพื้นที่เสี่ยงภัยตลอด 24 ชม.

 

นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะผู้อำนวยการกลาง กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เปิดเผยว่า จากภาวะฝนตกต่อเนื่องช่วงที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่หลายจังหวัด ซึ่งพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทน นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระดมสรรพกำลัง เครื่องมืออุปกรณ์เพื่อให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเตรียมพร้อมรับมือแจ้งเตือนภัย เผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็วและทั่งถึง ทั้งนี้ พื้นที่ที่ยังมีสถานการณ์น้ำท่วม ปภ. ได้ร่วมกับจังหวัด อำเภอ อาสาสมัคร และหน่วยงานในพื้นที่จัดชุดปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนแต่ละด้าน โดยให้ความสำคัญกับการดูแลด้านการดำรงชีพเป็นหลัก ได้จัดตั้งโรงครัวพระราชทานให้ความช่วยเหลือด้านอาหาร ดูแลแจกจ่ายน้ำดื่ม ถุงยังชีพ ตามวงรอบอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของเส้นทางคมนาคมมีน้ำท่วมขังหรือได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ได้ประสานจัดทำป้ายแจ้งเตือน จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแนะนำเส้นทางเลี่ยงที่ปลอดภัย และจัดยานพาหนะที่เหมาะสม เช่น เรือ รถยกสูง เพื่อให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน

 

 

นอกจากนี้ ในส่วนของการเร่งสูบระบายน้ำท่วมขัง ซึ่ง ปภ. ได้จัดส่งเครื่องจักรกลสาธารณภัยของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เกิดน้ำท่วมและพื้นที่ใกล้เคียง อาทิ เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถบรรทุก ฯลฯ เข้าไปเสริมกำลังเพิ่มเติมที่มีในพื้นที่อยู่แล้ว เพื่อเร่งสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ประสบภัยซ้ำ หรือเกิดน้ำท่วมขังต่อเนื่องเป็นเวลานาน เพื่อคลี่คลายสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด รวมถึงบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยโดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตได้เข้าร่วมปฏิบัติการเผชิญเหตุช่วยเหลือน้ำท่วมในจังหวัดต่างๆ โดยสนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยด้านอุทกภัยแล้วรวมกว่า 629 รายการ ส่วนในเขตกรุงเทพมหานครได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำขนาดอัตราสูบ 28,000 ลิตร/นาที รวม 16 รายการ ประจำพื้นที่เสี่ยง และจุดบ่อสูบน้ำ รวม 14 แห่ง ใน 6 เขต (วังทองหลาง 7 แห่ง ลาดพร้าว 2 แห่ง บึงกุ่ม 2 แห่ง สะพานสูง 1 แห่ง บางเขน 1 แห่ง และมีนบุรี 1 แห่ง)

 

 

นายบุญธรรม กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ได้ประสานไปยังกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ให้ติดตามสภาพอากาศและข้อมูลปริมาณน้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มสถานการณ์และแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า รวมทั้งเน้นย้ำให้จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่ วัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยจากทุกหน่วยงานในพื้นที่ให้พร้อมปฏิบัติการในพื้นที่เสี่ยงภัยตลอด 24 ชม. นอกจากนี้ ยังได้สั่งกำชับให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตที่อยู่นอกพื้นที่ประสบภัย เตรียมความพร้อมในการเข้าสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง

 

 

“สถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดวันนี้ (14 ก.ย.65) ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วม 17 จังหวัด รวม 49 อำเภอ 190 ตำบล 988 หมู่บ้าน ได้แก่ ลำพูน ลำปาง พะเยา ตาก หนองบัวลำภู ขอนแก่น กาฬสินธุ์ เลย ปทุมธานี สมุทรปราการ สระแก้ว ระยอง ชลบุรี จันทบุรี พระนครศรีอยุธยา และอ่างทอง ซึ่งภาพรวมระดับน้ำลดลงในทุกพื้นที่ ปภ.จังหวัดได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่และให้การดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว ได้จัดชุดปฏิบัติการฉีดล้างทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่สาธารณะ รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ” อธิบดี ปภ. กล่าวเพิ่มเติม

 

 

สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย พื้นที่ใดยังคงมีน้ำท่วมขังเเละยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับ แจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง