10 ตัวอย่างสภาพแวดล้อม ที่ส่งผลกระทบต่อคนได้ มีอะไรบ้าง | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล หลายคนยังไม่รู้ว่า จริงๆ แล้วนั้น สภาพแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเรา เป็นส่วนหนึ่งที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของเราค่ะ เพราะสิ่งแวดล้อมหนึ่งสามารถส่งผลต่อเราได้ ทั้งในด้านลบและด้านบวก สำหรับในบทความนี้เราจะมารู้กันว่า แล้วสภาพแวดล้อมแบบไหนบ้าง ที่สามารถส่งผลกระทบในทางลบต่อคนเราได้ โดยหลายคนก็อาจจะยังมองภาพไม่ออก จริงไหมคะ? แต่ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ เพราะผู้เขียนได้รวบรวมข้อมูลมาให้ได้รู้กันแล้ว ที่มีถึง 10 ตัวอย่างเลยทีเดียว แล้วสิ่งแวดล้อมแบบไหนมีความเสี่ยงต่อคนเรา แล้วสภาพแวดล้อมของเราในตอนนี้เข้าข่ายว่า เป็นสภาพแวดล้อมที่ส่งผลระทบต่อคุณภาพชีวิตของเราไหม ต้องอ่านต่อให้จบค่ะ โดยเมื่ออ่านจบแล้ว คุณผู้อ่านจะสามารถตอบตัวเองได้เลยว่า เราอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีหรือไม่ และถ้าอยากรู้แล้วว่า มีสิ่งแวดล้อมแบบไหนบ้างที่มีผลเสียต่อคนเรา งั้นเรามาอ่านต่อกันเลยดีกว่าค่ะ กับข้อมูลที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ 1. พื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติทางธรรมชาติ พื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติทางธรรมชาติกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่เราคิดเยอะเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม แผ่นดินไหว หรือแม้แต่ภัยแล้ง ทุกอย่างล้วนส่งผลกระทบต่อชีวิตคนเราได้ทั้งนั้น ตั้งแต่ทำให้บ้านเรือนเสียหาย ต้องอพยพออกจากที่อยู่ ไปจนถึงขั้นสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ยิ่งโลกเราเปลี่ยนแปลงไป ภัยพิบัติก็ดูจะรุนแรงและเกิดบ่อยขึ้นด้วย การเตรียมตัวรับมือและมีข้อมูลความเสี่ยงในพื้นที่ที่เราอยู่จึงเป็นเรื่องสำคัญมากๆ เพื่อที่เราจะสามารถป้องกันและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น 2. แหล่งอุตสาหกรรมหนาแน่น แหล่งอุตสาหกรรมที่มีโรงงานเยอะๆ ก็เป็นอีกเรื่องที่เราต้องใส่ใจค่ะ ถึงแม้ว่าจะเป็นแหล่งงานสร้างรายได้ แต่ถ้าไม่มีการจัดการที่ดี ปัญหามลพิษก็ตามมาแน่นอน ทั้งเรื่องของเสียจากโรงงานที่อาจจะปล่อยลงแหล่งน้ำ หรือฝุ่นควันในอากาศที่เราต้องหายใจเข้าไปทุกวัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลเสียต่อคนในพื้นที่โดยตรง นอกจากนี้เสียงดังจากโรงงานก็ยังรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วยค่ะ 3. ชุมชนแออัด เพราะการที่คนอยู่รวมกันอย่างหนาแน่นในพื้นที่จำกัด มักจะตามมาด้วยปัญหาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสุขอนามัยที่ไม่ดีพอ การเข้าถึงสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ยากลำบาก หรือแม้แต่ปัญหาอาชญากรรมที่อาจจะสูงกว่าพื้นที่อื่น นอกจากนี้ในเรื่องของสุขภาพก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะการอยู่ใกล้ชิดกันมากๆ ทำให้โรคติดต่อแพร่กระจายได้ง่าย ยิ่งถ้ามีโรคระบาดเกิดขึ้น ก็จะควบคุมได้ยากกว่าชุมชนทั่วไปค่ะ 4. พื้นที่เกษตรกรรมที่ใช้สารเคมีเข้มข้น การทำเกษตรที่เน้นการใช้สารเคมีมากๆ ก็เป็นเรื่องที่น่ากังวลถึงผลกระทบต่อคนนะคะ ถึงแม้ว่าจะช่วยให้ผลผลิตออกมาเยอะ แต่สารเคมีก็อาจตกค้างอยู่ในผลผลิตที่เรากินเข้าไปได้ ซึ่งในระยะยาวก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราได้ และเพิ่มความเสี่ยงของโรคร้ายแรงต่างๆ นอกจากนี้สารเคมีที่ใช้ในการเกษตรก็ยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย ทั้งดิน น้ำ และสัตว์ต่างๆ ในระบบนิเวศ การส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์ หรือการใช้สารเคมีอย่างระมัดระวังและมีความรู้ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้เรามีอาหารที่ปลอดภัยและรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กันค่ะ 5. ป่าไม้ที่ถูกทำลาย อย่างแรกที่เห็นชัดๆ คือเรื่องของสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะต้นไม้ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และปล่อยก๊าซออกซิเจน การที่ป่าลดลงก็ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ป่ายังเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญ ถ้าป่าหมดไป เราก็อาจจะเจอปัญหาภัยแล้งหรือน้ำท่วมได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญป่ายังเป็นบ้านของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด การทำลายป่าก็เท่ากับการทำลายที่อยู่อาศัยของสัตว์ ทำให้สัตว์บางชนิดอาจสูญพันธุ์ไป และยังส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศโดยรวมอีกด้วย การรักษาและฟื้นฟูผืนป่าจึงเป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องช่วยกัน เพื่อให้เรามีสภาพแวดล้อมที่ดีและยั่งยืนต่อไปในอนาคตค่ะ 6. ชายฝั่งทะเลที่ถูกกัดเซาะ ชายฝั่งทะเลที่ถูกกัดเซาะไม่ได้เป็นแค่เรื่องของทัศนียภาพที่หายไปนะคะ แต่ยังส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้คนโดยตรงเลยค่ะ ลองคิดดูว่าบ้านเรือนที่อยู่ใกล้ชายฝั่งอาจพังทลายลงมาได้เลย ที่ดินทำกินก็เสียหาย การประมงพื้นบ้านก็ทำได้ยากขึ้นเพราะแนวชายฝั่งเปลี่ยนไป แถมยังเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมมากขึ้นด้วยนะคะ เพราะไม่มีแนวหาดทรายหรือป่าชายเลนช่วยชะลอคลื่นอีกต่อไป ผลกระทบเหล่านี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่คนในพื้นที่ชายฝั่งเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศด้วย เพราะแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงามอาจเสียหาย นักท่องเที่ยวลดลง รายได้ก็ลดลงตามไปด้วย การแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราทุกคนควรให้ความสนใจค่ะ 7. แหล่งน้ำที่ปนเปื้อน ลองคิดดูว่าถ้าเราใช้น้ำที่สกปรกในการอุปโภคบริโภค จะเกิดอะไรขึ้น แน่นอนว่าสุขภาพของเราต้องแย่ลงแน่นอน นอกจากนี้น้ำที่ปนเปื้อนยังส่งผลกระทบต่อการเกษตรและการประมงด้วยค่ะ พืชผักที่ใช้น้ำสกปรกก็อาจไม่ปลอดภัย สัตว์น้ำที่อยู่ในแหล่งน้ำนั้นก็อาจตายหรือมีสารพิษสะสม ทำให้คนที่กินเข้าไปก็ได้รับผลกระทบอีกต่อหนึ่ง เรียกได้ว่าปัญหาน้ำปนเปื้อนเป็นเหมือนโดมิโนที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตเราในหลายด้านก็ได้ 8. พื้นที่แห้งแล้งและขาดแคลนน้ำ ลองนึกภาพว่าถ้าเราไม่มีน้ำดื่มน้ำใช้ จะใช้ชีวิตกันอย่างไร การเกษตรก็ทำไม่ได้ พืชผลเสียหาย ไม่มีอาหารเพียงพอเลี้ยงดูผู้คน สัตว์เลี้ยงก็ขาดน้ำล้มตาย นอกจากนี้ความแห้งแล้งยังอาจนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งในการแย่งชิงทรัพยากรน้ำที่เหลือน้อยนิดได้อีกด้วยค่ะ ผู้คนอาจต้องอพยพย้ายถิ่นฐานเพื่อหาแหล่งน้ำใหม่ ทำให้เกิดปัญหาทางสังคมตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ สุขภาพ หรือความมั่นคงในชีวิต ล้วนแล้วแต่ได้รับผลกระทบจากภาวะแห้งแล้งและขาดแคลนน้ำทั้งสิ้นค่ะ 9. เมืองที่มีมลพิษทางอากาศสูง ถ้าทุกครั้งที่เราหายใจเข้าไป แล้วเราสูดเอาฝุ่นละอองขนาดเล็กและสารพิษต่างๆ เข้าสู่ร่างกายโดยตรง ซึ่งมันส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราในระยะยาวแน่นอนค่ะ และนอกจากสุขภาพกายแล้ว มลพิษทางอากาศยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเราด้วย ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า หงุดหงิดง่าย สมาธิไม่ดี ยิ่งไปกว่านั้นมลพิษทางอากาศยังส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของเมืองด้วย เพราะคนป่วยมากขึ้น ค่ารักษาพยาบาลก็สูงขึ้น ประสิทธิภาพการทำงานของคนก็ลดลง แถมยังส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเมือง ทำให้ไม่น่าอยู่อาศัยและดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ยากอีกด้วยค่ะ 10. พื้นที่ที่มีการจัดการขยะไม่ถูกสุขลักษณะ กองขยะที่ส่งกลิ่นเหม็นเน่า มีแมลงวัน หนู และสัตว์พาหะนำโรคต่างๆ มาเพ่นพ่าน ไม่ใช่แค่ภาพที่ไม่น่ามองเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นโดยตรง นอกจากนี้ขยะที่ไม่ได้จัดการอย่างถูกวิธีอาจรั่วไหลลงสู่แหล่งน้ำ ทำให้แหล่งน้ำปนเปื้อนและส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำเพื่ออุปโภคบริโภคและการเกษตรอีกด้วยนะ ยิ่งไปกว่านั้นกองขยะยังส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ทำให้ดินและอากาศเป็นพิษ เสียทัศนียภาพ และบั่นทอนคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนอย่างมากเลยค่ะ ก็แล้วค่ะ กับตัวอย่างของลักษณะสภาพแวดล้อมที่สามารถคุกคามคนเราได้ โดยการได้รับผลกระทบนั้นก็จะมีในหลายรูปแบบนะคะ จะเห็นว่าจริงๆ แล้วสภาพแวดล้อมในบทความนี้ ที่ผู้เขียนได้พูดถึงนั้น ก็อาจเป็นสิ่งแวดล้อมรอบตัวของใครหลายคนอยู่ตอนนี้ก็ได้ แต่สำหรับที่นี่ที่ที่ผู้เขียนอาศัยอยู่ยังไม่ได้มีปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมแบบชัดเจนหรืออยู่ในระดับที่รุนแรงมากเหมือนกับบางที่ค่ะ จริงๆ จะเรียกว่ามีมลพิษน้อยอยู่ก็ได้เลย เพราะยังมีสิ่งที่บ่งชี้หลายอย่างที่บ่งบอกถึงคุณภาพของสิ่งแวดล้อมได้ เช่น แมลงในธรรมชาติชนิดต่างๆ ความหลากหลายทางชีวภาพในธรรมชาติ เป็นต้น แต่จากประสบการณ์ของผู้เขียนเอง เคยได้เห็นสภาพแวดล้อมที่สามารถส่งผลต่อคนเรามาบ้างเหมือนกันค่ะ เช่น ชุมชนเมืองที่แออัดและอยู่ในเขตใกล้กับแหล่งอุตสาหกรรม พื้นที่ที่แห้งแล้งก็เคยเห็นมาแล้วค่ะ ยังไงนั้นคุณผู้อ่านลองนำข้อมูลในนี้ไปประเมินความเสี่ยงของตัวเองก็ได้ และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไปค่ะ เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปก โดย @jplenio1 จาก FREEPIK และออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1 โดย Chris LeBoutillier จาก Pexels, ภาพที่ 2-3 โดยผู้เขียน และภาพที่ 4 โดย Marcin Jozwiak จาก Pexels เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน 10 แนวทางลดการใช้กระดาษ ที่บ้าน เพื่อลดขยะที่ต้องทิ้ง 9 ผลเสียจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในสิ่งแวดล้อม 8 ผลเสียที่เกิดจากการเผา ตอซังและฟางข้าว ในการเกษตร เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !