จับตา"คิงเพาเวอร์"ยกเลิกสัญญา "5 สนามบิน"

นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง ระบุ สคร.ได้เกาะติดสถานการณ์รายได้ของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (เอโอที) หลัง บริษัท คิง เพาเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด 

ได้ยื่นหนังสือขอยกเลิกสัญญาดิวตี้ฟรีกับเอโอที ใน 5 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ท่าอากาศยานดอนท่าอากาศยานภูเก็ต, ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ซึ่งจะกระทบต่อรายได้ของเอโอที โดย เอโอทีมีเป้าหมายการนำส่งรายได้เข้าคลัง ปีละประมาณ 3 พันล้านบาท       

ทั้งนี้ รายได้ของเอโอที ประมาณร้อยละ 33 มาจากสัญญาเช่าของคิงเพาเวอร์ ในจำนวนนี้ราวร้อยละ 10-20 มาจากพื้นที่ที่คิงเพาเวอร์ขอคืนการเช่า ส่วนที่เหลือร้อยละ 70-80 มาจากการเช่าพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยแม้ว่า รายได้ที่จะหายไปจะไม่มาก  แต่หากรายได้หายไป ก็จะทำให้รัฐเสียประโยชน์ไปด้วย อย่างไรก็ดี เชื่อว่า หากมีการยกเลิกสัญญาแล้ว ทางเอโอทีก็จะต้องจัดหาผู้เช่าพื้นที่รายต่อไป

ทั้งนี้หากคิงเพาเวอร์ได้รับการยกเลิกสัญญา แม้ว่าจะทำให้รายได้ของเอโอทีหายไปไม่ได้เยอะ แต่ถือว่า รัฐก็จะขาดผลประโยชน์ ฉะนั้นเอโอทีก็ต้องหาคนประมูลใหม่ รัฐก็อาจจะไม่เสียหาย          

นายธิบดี กล่าวว่า  หากเอโอทียกเลิกสัญญาการเช่าต่อคิงเพาเวอร์ ในฐานะที่กระทรวงการคลังเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นในเอโอทีเราก็ต้องรอฟังคำชี้แจงจากเอโอทีเท่าๆกับผู้ถือหุ้นรายอื่น 

แต่ในฐานะที่คลังเป็นผู้กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ ก็ต้องติดตามเรื่องการยกเลิกสัญญาดังกล่าวและกรณีที่จะมีผลต่อสถานการณ์รายได้ของรัฐ ทั้งนี้ ในเบื้องต้น เราประเมินว่า หากคิงเพาเวอร์ได้รับการยกเลิกสัญญา ก็จะต้องมีการจ่ายค่าปรับให้กับทางเอโอที โดยการยกเลิกสัญญาเช่านั้น ทางเอโอทีและ คิงเพาเวอร์จะต้องปฏิบัติตามสัญญา