รีเซต

ส่องสารพัดของขวัญปีใหม่จากคลัง ต๊าซไม่ต๊าซ?

ส่องสารพัดของขวัญปีใหม่จากคลัง ต๊าซไม่ต๊าซ?
มติชน
23 ธันวาคม 2564 ( 11:04 )
64
ส่องสารพัดของขวัญปีใหม่จากคลัง ต๊าซไม่ต๊าซ?

หลังจากที่รอกันมานาน สำหรับของขวัญปีใหม่ 2565 ของกระทรวงการคลัง ล่าสุดทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ได้เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอไปเพื่อเป็นการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยให้สามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง “มติชนออนไลน์” รวบรวมรายละเอียด ดังนี้

1. มาตรการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ประชาชน ประกอบด้วย 2 มาตรการ ได้แก่

 

1.1 มาตรการช้อปดีมีคืน ปี 2565

วัตถุประสงค์ เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ และสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีและผู้ประกอบกิจการการผลิตสินค้าท้องถิ่น

รายละเอียด กำหนดให้ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการเท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการสำหรับการซื้อสินค้าหรือการรับบริการในราชอาณาจักรให้กับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงค่าซื้อหนังสือและค่าบริการหนังสือที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และค่าสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท

ระยะเวลา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2565

ข้อยกเว้น ไม่รวมถึงค่าสินค้าและบริการบางชนิด เช่น ค่าสุรา เบียร์ และไวน์ ค่ายาสูบ ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ ค่าบริการจัดนำเที่ยว ค่าที่พักในโรงแรม ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย เป็นต้น ซึ่งเป็นไปตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร

 

1.2 มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย

วัตถุประสงค์ เพื่อสนับสนุนและบรรเทาภาระให้แก่ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ส่งเสริมการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประชาชน รวมถึงช่วยรักษาระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด–19

รายละเอียด ลดค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% ลงเหลือ 0.0% และลดค่าธรรมเนียมการจำนองจาก 1% ลงเหลือ 0.01% (เฉพาะการโอนและจดจำนองในคราวเดียวกัน) สำหรับที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ เฉพาะที่มีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมบ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว อาคารพาณิชย์ และห้องชุด

ระยะเวลา ตั้งแต่วันถัดจากวันที่เผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทยในราชกิจจานุเบกษา จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565

 

2. มาตรการลดภาระผู้ประกอบการและ/หรือประชาชน ประกอบด้วย 3 มาตรการ ได้แก่

2.1 มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการอนุญาตขายสุรา ยาสูบและไพ่ ตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560

วัตถุประสงค์ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่ผู้ประกอบการได้รับจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 ในช่วงปี 2564

รายละเอียด ให้สิทธิยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ขายสุรา ยาสูบ ไพ่ ประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 เป็นระยะเวลา 1 ปี เฉพาะผู้ได้รับอนุญาตขายรายเดิมซึ่งได้รับผลกระทบที่ประสงค์จะขอใบอนุญาตขายสุรา ยาสูบและไพ่ต่อเนื่องในปีถัดไป

ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2565

 

2.2 มาตรการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่น

วัตถุประสงค์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศรวมถึงสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจสายการบินให้สามารถฟื้นฟูและกลับมาดำเนินธุรกิจได้เป็นปกติให้เร็วที่สุด

รายละเอียด ลดอัตราภาษีตามปริมาณของน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่นที่ใช้บินในประเทศเหลือ 0.20 บาทต่อลิตร

ระยะเวลา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2565

 

2.3 มาตรการทางภาษีอากรและค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้

วัตถุประสงค์ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด–19อย่างต่อเนื่อง โดยขยายระยะเวลาการดำเนินมาตรการทางภาษีอากรและค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2563 และเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563 ออกไปอีก 5 ปี จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2569

รายละเอียด ยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ให้แก่ลูกหนี้และเจ้าหนี้ รวมทั้งผ่อนปรนการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ของเจ้าหนี้ สำหรับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของลูกหนี้ของสถาบันการเงิน ลูกหนี้ของเจ้าหนี้ที่มิใช่สถาบันการเงิน และลูกหนี้ของเจ้าหนี้อื่นซึ่งได้ดำเนินการเจรจาร่วมกับสถาบันการเงิน ตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2569

และลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดินและตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุดเหลือ 0.01% สำหรับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ดังกล่าว ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2569

นอกจากนี้ เพิ่มเติมนิยามเจ้าหนี้อื่นให้รวมถึงบริษัทที่มิใช่สถาบันการเงิน เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มลูกหนี้มากยิ่งขึ้น ดังนี้ (1) บริษัทที่ประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของสถาบันการเงิน (2) บริษัทที่ประกอบธุรกิจให้เช่าแบบลีสซิ่งที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของสถาบันการเงิน และ (3) บริษัทที่มิใช่สถาบันการเงินอื่นซึ่งเข้าร่วมและดำเนินการตามโครงการช่วยเหลือลูกหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2569

 

3. มาตรการการเงิน โดยสถาบันการเงินเฉพาะกิจภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง

วัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการเสริมสภาพคล่อง ลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและเสริมสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการ

เช่น โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ การคืนเงินลูกหนี้ธนาคารที่มีประวัติการชำระดี การยกเว้นค่าธรรมเนียมนิติกรรมสัญญาและค่าประเมินหลักประกันส่วนลดค่าบริการและค่างวดสำหรับการค้ำประกันสินเชื่อ เป็นต้น

ทั้งนี้ คิดเป็นวงเงินสินเชื่อรวม 25,000 ล้านบาท การคืนเงินและรางวัลพิเศษรวม 1,335 ล้านบาท การลดอัตราดอกเบี้ยรวม 4,700 ล้านบาท ส่วนลดค่าบริการและส่วนลดค่างวดสูงสุด รวม 7.43 ล้านบาท

 

โครงการคนละครึ่งเฟส 4 ขอห่างไปก่อน 3 เดือนนะ

จะเริ่มโครงการในวันที่ 1 มีนาคม – 30 เมษายน 2565 แต่ต้องเว้นช่วงไปเป็นเพราะว่าต้องมีการปรับปรุงระบบ ปรับแพลตฟอร์มให้ใช้ง่ายมากขึ้น มีการอัพเดทร้านค้าใหม่ ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลา 1 เดือน เพื่อให้ผู้ใช้สิทธิมีการยืนยันตัวตนใหม่ก่อนที่จะเริ่มโครงการ

 

ส่วนโครงการคนละครึ่งเฟส 3 จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ โดยจะไม่มีการขยายอายุให้ โดยปัจจุบันมีผู้ใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งเต็มวงเงิน 4,500 บาท หมดแล้วกว่า 7 ล้านคน อีก 20 ล้านคน ยังใช้ไม่หมด โดยมีเงินวงเงินเหลืออยู่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งวงเงินที่เหลือจะนำมาใช้ต่อในโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ต่อไป

 

สรุปต้องดูระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดโครงการดีกันดีๆ วางแผนการใช้จ่ายตามระยะเวลาสิทธิประโยชน์ เพื่อให้คุ้มค่ากับตัวเองให้มากที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง