เชื่อว่านักเขียนกลายๆท่านคงจะประสบปัญหาเขียนนิยายไม่จบ เนื้อเรื่องไหลออกทะเล อยู่ๆก็คิดบทไม่ออกใช่ไหมละคะ วันนี้เรามีวิธีแก้ปัญหามาให้ค่ะ 1. คิดโครงเรื่องเอาไว้การมีคอนเซ็ปต์และโครงเรื่องคร่าวๆจะช่วยให้นิยายของเราไม่ออกนอกทะเลมากเกินไป และยังช่วยให้เรารู้ว่าเราควรดำเนินเนื้อเรื่องแบบไหน อย่างเราที่แต่ก่อนชอบเขียนไปเรื่อยจนเนื้อเรื่องออกนอกทะไปไกลโพ้น พอลองวิธีนี้แล้วรู้สึกเลยว่าเขียนง่ายขึ้น รู้ว่าควรเขียนอะไร ในหัวจะมีเนื้อเรื่องขึ้นมาเองเลย2. เขียนให้จบเร็วที่สุดอันนี้สำหรับคนที่เขียนนิยายไม่เคยจบให้ลองวิธีนี้นะคะ ให้รีบเขียนให้จบตอนยังมีไฟ ไม่ต้องไปสนถูกผิด อย่าเพิ่งสนโครงเรื่อง อย่าเพิ่งเกลาคำ เขียนไปก่อน พอเขียนจบเราค่อยมาอ่านและเกลาบทอีกที พอเรามีบทอยู่แล้วแค่เกลาให้ดีขึ้นคงไม่ยากเท่าเขียนไปด้วยเกลาบทไปด้วยใช่ไหมละ แต่ก่อนเราจะคอยพะวงคำผิด พะวงคำเชื่อม เกรมมาต่างๆนาๆ จนเสียสมาธิ แต่พอลองเขียนแบบนี้ก็รู้สึกว่ามันโอเคขึ้นมากๆ มีเวลาจดจ่ออยู่กับเนื้อเรื่องแบบเต็มที่ ทำให้นิยายที่แต่งออกมาเนื้อหาดีขึ้นไปด้วย3. แต่งให้จบค่อยเปิดให้อ่านนี่เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะเซฟตัวเองค่ะ เพราะเราไม่ต้องไปสนว่ามีคนอ่านมากหรือน้อยแค่ไหน เชื่อว่า90%ของนักอ่านเคยหมดกำลังใจและหมดไฟเพราะคนอ่านน้อยใช่ไหมละ เพราะฉะนั้นวิธีนี้โอเคเลย อีกอย่างคือเราจะได้มีเวลาคิดบทมากขึ้น ไม่ต้องกดดันเรื่องเวลา เรามีเวลากับนิยายเต็มที่เลย ใช้เวลากับมันได้เต็มที่ ทำให้นิยายที่ออกมามีคุณภาพมากขึ้นเยอะเลย และอีกความลับหนึ่งนะคะ ถ้าแต่งจบแล้วลงทีเดียวเลยนักอ่านจะมากกว่าลงทีละตอนนะ เพราะบางคนจะชอบอ่านนิยายที่จบแล้ว ไม่ต้องรออ่านทีละตอนๆ4. แต่งนิยายตามความสนใจหรือออกไปหาแพสชั่นแน่นอนอยู่แล้วถ้าเราทำอะไรที่เราสนใจมันจะทำได้นาน แนะนำให้นักเขียนเขียนเกี่ยวกับเรื่องที่อยากทำจริงๆ มันจะทำให้เรามีไฟอยากเขียนมากขึ้น หรือจะออกไปหาแพสชั่น ไปเที่ยวเล่น ทำงาน เจอคนบ้าง อาจจะทำให้เรามีไอเดียหลากหลายขึ้น หรือบางทีนักเขียนก็แต่งจากประสบการณ์ของตัวเองเลยก็มี อันนี้จะทำให้เรารู้แบบชัดเจนเลยว่าเนื้อเรื่องควรดำเนินยังไง เราก็เคยลองแต่งจากเรื่องจริงของตัวเองนะ ปรากฏว่าแต่งง่ายมาก เพราะเหตุการณ์มันเกิดมาแล้ว เหมือนมีสตอรี่บอร์ดในหัว แล้วก็เอาไปเสริมเติมแต่งอีกให้มันน่าสนใจยิ่งขึ้น เนื้อเรื่องที่ได้จะค่อนข้างเรียลเลย จริงๆมีอีกหลายวิธีเลยค่ะ ค่อยๆทำค่อยๆหา เอาวิธีไหนก็ได้ที่คิดว่าเหมาะกับตัวเองและทำได้ดีที่สุด หวังว่าบทความนี้จะมีส่วนช่วยนักเขียนทุกท่านไม่มากก็น้อยนะคะ หวังว่าทุกท่านจะได้เทคนิคไปปรับใช้กับตัวเอง เครดิตภาพทั้งหมดจาก Pixabayภาพที่ 1 จาก Myriams-Fotosภาพที่ 2 จาก kaboompicsภาพที่ 3 จาก libellule789ภาพที่ 4 จาก StockSnapภาพหน้าปก จาก lanlalitเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !