การกำจัดน้ำเสียจากถังเกรอะส้วม ด้วยระบบร่องซึม ดีไหม | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล นอกจากเราจะต้องจัดหาให้มีส้วมไว้ใช้งานในบ้าน เพื่อกำจัดสิ่งปฏิกูลในแต่ละวันแล้ว ปัญหาหนึ่งที่หลายคนต้องนำมาคิดก็คือ การจัดการกับน้ำเสียที่ออกมาจากถังเกรอะหรือถังส้วม ซึ่งคุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า นอกจากเราจะสามารถปล่อยน้ำเสียจากส่วนนี้เข้ากับระบบรวบรวมน้ำเสียของทางเทศบาล เพื่อนำไปบำบัดต่อได้แล้ว อีกแนวทางหนึ่งที่น่าสนใจเลยก็คือการกำจัดน้ำเสียค่ะ อ่านดีๆ นะคะ กำจัดและบำบัดซึ่งจะเป็นคนละอย่างกัน โดยการกำจัดน้ำเสียนั้น หลายคนอาจคุ้นเคยกับบ่อซึมเท่านั้น แต่หารู้ไม่ว่านอกจากการทำบ่อซึมจะใช้ได้แล้ว การทำร่องซึมยังเป็นอีกระบบที่น่าสนใจค่ะ เพราะว่าระบบร่องซึมก็มีข้อดีอยู่หลายอย่างมาก ที่ในบทความนี้ผู้เขียนจะมาบอกต่อว่า ระบบนี้ดียังไง เพราะโดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนมีโอกาสได้วางระบบร่องซึม เพื่อกำจัดน้ำเสียจากถังเกรอะ และก็ได้เก็บรวบรวมข้อมูลที่สำคัญๆ ของระบบนี้เอาไว้ด้วยค่ะ โดยเมื่อคุณผู้อ่านได้อ่านให้แล้วจบจะพบว่า ระบบร่องซึมมีความเฉพาะตัว ที่ก็ไม่แน่ว่าอาจเป็นตัวอย่างนำทางให้กับคุณผู้อ่านได้ด้วย ดังนั้นต้องอ่านต่อค่ะ เพื่อความเข้าใจมากขึ้นและมองเห็นภาพเกี่ยวกับระบบร่องซึม กับข้อมูลที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ 1. ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและบำรุงรักษาต่ำ เหตุผลที่ระบบร่องซึมกำจัดน้ำเสียจากถังเกรอะส้วมมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและบำรุงรักษาต่ำนั้น หลักๆ มาจากตัวระบบเองที่ไม่ซับซ้อน โดยส่วนใหญ่แล้วจะประกอบด้วยถังเกรอะที่ทำหน้าที่แยกของแข็งออกจากน้ำเสียเบื้องต้น และส่วนที่เป็นร่องซึม ซึ่งมักจะเป็นท่อเจาะรูฝังอยู่ใต้ดิน เพื่อให้น้ำเสียค่อยๆ ซึมลงสู่ชั้นดินต่อไป ซึ่งวัสดุที่ใช้ในการติดตั้งจึงมักเป็นวัสดุที่ไม่แพงมากนัก เช่น ท่อ PVC หรือท่อซีเมนต์ และไม่ต้องอาศัยเครื่องจักรหรือเทคโนโลยีที่ซับซ้อนในการติดตั้งมากนัก ส่วนการบำรุงรักษาก็เน้นไปที่การดูแลถังเกรอะให้มีการสูบสิ่งปฏิกูลออกตามระยะเวลาที่เหมาะสม ซึ่งมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าระบบบำบัดน้ำเสียแบบอื่นๆ ที่อาจต้องใช้พลังงานไฟฟ้าหรือสารเคมีเพิ่มเติมค่ะ 2. กระบวนการทำงานที่ไม่ซับซ้อน หลายคนยังไม่รู้ว่า หัวใจหลักของระบบนี้คือการอาศัยกลไกทางธรรมชาติในการบำบัดน้ำเสีย เริ่มจากน้ำเสียจากส้วมจะถูกส่งมาพักไว้ที่ถังเกรอะก่อน ซึ่งทำหน้าที่เหมือนตัวกรองหยาบที่จะแยกพวกของแข็งต่างๆ ออก ทำให้น้ำที่ไหลต่อไปยังส่วนของร่องซึมมีลักษณะเป็นน้ำที่ใสขึ้น จากนั้นน้ำเสียก็จะค่อยๆ ซึมผ่านชั้นดินและรากพืชในบริเวณร่องซึม ซึ่งในชั้นดินนี้เองจะมีจุลินทรีย์ตามธรรมชาติคอยทำหน้าที่ย่อยสลายสารอินทรีย์และสิ่งสกปรกต่างๆ ในน้ำเสียให้กลายเป็นสารที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม การทำงานแบบนี้จึงไม่ต้องอาศัยเครื่องจักรกลไกที่ยุ่งยาก หรือกระบวนการทางเคมีที่ซับซ้อน ทำให้ระบบโดยรวมมีความเรียบง่ายและเข้าใจได้ง่ายค่ะ โดยส่วนประกอบของระบบ มีดังนี้ค่ะ หมายเลข 1 ถังเกรอะจากส้วม หมายเลข 2 บ่อกระจายน้ำ หมายเลข 3 ท่อระบายอากาศ หมายเลข 4 พืชที่ปลูกในบริเวณระบบร่องซึม หมายเลข 5 ท่อกระจายน้ำ หมายเลข 6 หินคลุกสำหรับก่อสร้าง หมายเลข 7 ท่อน้ำออกจากถังเกรอะส้วม หมายเลข 8 ระดับผิวดินเดิม 3. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หลักการทำงานของระบบร่องซึมเน้นการใช้กระบวนการทางธรรมชาติในการบำบัดน้ำเสียเป็นหลักค่ะ คือ หลังจากน้ำเสียผ่านการบำบัดเบื้องต้นในถังเกรอะแล้ว น้ำที่ไหลลงสู่ร่องซึมจะค่อยๆ ซึมผ่านชั้นดิน ซึ่งทำหน้าที่เป็นเหมือนเครื่องกรองตามธรรมชาติอีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้รากพืชในบริเวณร่องซึมยังช่วยดูดซับสารอาหารต่างๆ ที่อยู่ในน้ำเสีย ทำให้ของเสียไม่ไหลลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะโดยตรง ที่สำคัญคือระบบนี้ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีในการบำบัด และใช้พลังงานน้อยมาก ทำให้ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวได้เป็นอย่างดีค่ะ 4. ใช้พลังงานต่ำ เนื่องจากกระบวนการทำงานส่วนใหญ่ของระบบนั้นอาศัยแรงโน้มถ่วงของโลกและการบำบัดโดยธรรมชาติเป็นหลัก น้ำเสียจะไหลจากถังเกรอะลงสู่ร่องซึมใต้ดินด้วยแรงโน้มถ่วงเองนะคะ ไม่มีการสูบอะไรทั้งนั้น จึงไม่ต้องใช้ปั๊มน้ำหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ช่วยในการเคลื่อนย้ายน้ำค่ะ นอกจากนี้การบำบัดในชั้นดินและบริเวณรากพืชก็เป็นกระบวนการทางชีวภาพตามธรรมชาติ ที่จุลินทรีย์และพืชจะทำหน้าที่ย่อยสลายและดูดซับสารต่างๆ ในน้ำเสียเอง ทำให้ระบบนี้แทบจะไม่ต้องการพลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเลย ซึ่งแตกต่างจากระบบบำบัดน้ำเสียแบบอื่นๆ ที่อาจต้องใช้เครื่องเติมอากาศ ปั๊ม หรือกระบวนการทางเคมีที่ต้องใช้พลังงานในกระบวนการค่ะ 5. ช่วยปรับปรุงคุณภาพดิน คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า ระบบร่องซึมกำจัดน้ำเสียจากถังเกรอะส้วมสามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพดินได้ และที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่า น้ำเสียที่ผ่านการบำบัดเบื้องต้นจากถังเกรอะแล้ว ยังคงมีสารอาหารและแร่ธาตุบางชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อพืช เมื่อน้ำเสียค่อยๆ ซึมผ่านชั้นดินในบริเวณร่องซึม รากพืชจะดูดซับสารอาหารไปใช้ในการเจริญเติบโต ทำให้ดินได้รับธาตุอาหารที่จำเป็น เปรียบเสมือนเป็นการให้ปุ๋ยธรรมชาติแก่ดินอย่างช้าๆ นอกจากนี้การที่ดินมีความชื้นจากน้ำเสียที่ซึมลงมาอย่างสม่ำเสมอ ยังช่วยให้จุลินทรีย์ในดินทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งจุลินทรีย์ในดินมีบทบาทสำคัญในการย่อยสลายสารอินทรีย์และปรับปรุงโครงสร้างของดินให้ดีขึ้น ทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์และเหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืชมากยิ่งขึ้นค่ะ 6. มีความทนทานและอายุการใช้งานยาวนาน ความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนานของระบบร่องซึมกำจัดน้ำเสียจากถังเกรอะส้วมนั้น ส่วนหนึ่งมาจากโครงสร้างที่ไม่ซับซ้อนและใช้วัสดุที่ไม่เสื่อมสภาพง่าย เช่น ถังเกรอะที่ทำจากคอนกรีตหรือไฟเบอร์กลาส และท่อร่องซึมที่มักทำจาก PVC ซึ่งมีความทนทานต่อการกัดกร่อนในดิน นอกจากนี้การที่ระบบไม่ต้องมีชิ้นส่วนเครื่องกลที่ซับซ้อนหรือมีการเคลื่อนไหวมากนัก ก็ช่วยลดโอกาสการชำรุดเสียหาย ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีการซ่อมบำรุงบ่อยครั้ง ตราบใดที่การติดตั้งทำได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับสภาพดิน และมีการดูแลถังเกรอะโดยการสูบสิ่งปฏิกูลออกตามระยะเวลา ระบบร่องซึมนี้ก็สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องยาวนานหลายปี โดยยังคงประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสียได้ดีค่ะ 7. สามารถปรับขนาดให้เหมาะสมกับพื้นที่ได้ ความยืดหยุ่นในการปรับให้เหมาะสมกับพื้นที่ต่างๆ เป็นอีกข้อดีของระบบร่องซึมกำจัดน้ำเสียจากถังเกรอะส้วมค่ะ เพราะการออกแบบระบบสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามขนาดของพื้นที่และลักษณะของดิน เช่น หากพื้นที่จำกัด อาจเลือกใช้ร่องซึมแบบมีขนาดเล็กลง หรือปรับรูปแบบการวางท่อให้เหมาะสมกับรูปร่างของที่ดินได้ ในกรณีที่ดินมีคุณสมบัติในการซึมน้ำได้ดี ก็อาจออกแบบร่องซึมให้มีขนาดเล็กลงได้ ในทางตรงกันข้ามหากดินระบายน้ำได้ไม่ดีนัก ก็สามารถเพิ่มขนาดหรือความยาวของร่องซึม หรือปรับปรุงดินด้วยการเติมทรายหรือกรวด เพื่อช่วยให้การซึมน้ำเป็นไปได้ดีขึ้น นอกจากนี้การเลือกชนิดของพืชที่จะปลูกเหนือบริเวณร่องซึมยังสามารถปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและวัตถุประสงค์ของผู้ใช้งานได้อีกด้วย ความสามารถในการปรับเปลี่ยนนี้เอง ทำให้ระบบร่องซึมเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับบ้านเรือนหรือชุมชนที่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่หรือสภาพดินที่แตกต่างกันค่ะ 8. ส่งเสริมการเติบโตของพืช การที่ระบบร่องซึมกำจัดน้ำเสียจากถังเกรอะส้วมช่วยส่งเสริมการเติบโตของพืชนั้น เป็นผลมาจากการที่น้ำเสียที่ผ่านการบำบัดเบื้องต้นในถังเกรอะแล้ว ยังคงมีสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชค่ะ เมื่อน้ำเสียซึมผ่านชั้นดินไปยังบริเวณรากพืช พืชก็จะดูดซับสารอาหารไปใช้ประโยชน์ เปรียบเสมือนเป็นการให้ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง นอกจากนี้ความชื้นที่มาจากน้ำเสียที่ซึมลงสู่ดินยังช่วยให้ดินมีความชุ่มชื้นเพียงพอ ทำให้พืชสามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น และเจริญเติบโตได้แข็งแรงยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือการออกแบบระบบให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้น้ำเสียมีปริมาณสารอาหารมากเกินไปจนเป็นอันตรายต่อพืช หรือทำให้ดินแฉะเกินไปจนรากพืชเน่าได้ค่ะ และนั่นคือข้อดีของระบบร่องซึมค่ะ โดยต้องบอกว่าผู้เขียนได้ออกแบบระบบร่องซึม เพื่อกำจัดน้ำเสียจากถังเกรอะจากส้วมที่บ้านสวน โดยถังส้วมมีความจุ 1,000 ลิตร โดยส้วมมีคนใช้งานหลักๆ เพียง 2 คนเท่านั้นนะคะ และปลูกตะไคร้ไว้โดยรอบของพื้นที่บริเวณนี้ค่ะ ซึ่งตั้งแต่วางระบบมายังไม่พบว่ามีปัญหาอะไร ต่อให้ในบางวันมีฝนตกลงมา และร่องซึมยังไม่เต็มจนมีน้ำเสียเอ่อล้นขึ้นมาค่ะ ไม่มีกลิ่นเหม็นอะไร ดินไม่ทรุดตัว ไม่พบว่าผิวดินโดยรอบร่องซึมแฉะด้วยน้ำเสียนะคะ ก็ไม่รู้ว่าคุณผู้อ่านสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ในประเด็นไหนบ้าง จริงๆ ต้องบอกว่าร่องซึมไม่ได้เหมาะสมกับทุกที่ค่ะ แต่ถ้าทำได้ ก็จะมีข้อดีข้างต้น ตามที่ผู้เขียนได้พูดถึงเอาไว้ในบทความนี้ค่ะ และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไปค่ะ เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปก โดย @brgfx จาก FREEPIK และออกแบบหน้าปกใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ภาพที่ 1 ออกแบบใน Canva และแอป Notes เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน ทำไมถังเกรอะ (Septic Tank) บำบัดน้ำเสียให้มีคุณภาพดีขึ้นได้ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จากการปล่อยน้ำเสีย ที่ไม่ได้ผ่านการบำบัด ถังบำบัดน้ำเสียตามบ้าน เพื่อกำจัดสิ่งปฏิกูลจากส้วม ดีไหม? เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !