สำหรับวันนี้ผู้ใหญ่ก็จะมารีวิวเกี่ยวกับวิธี วางแผนการเงิน และ วางแผนออมเงิน ใช้ได้สำหรับทุกอาชีพ หรือแม้แต่มนุษย์เงินเดือน ใครที่ไม่รู้ว่าจะจัดสรรปันส่วนกับเงินรายได้อย่างไร ทำอย่างไรให้มีเงินใช้แบบไม่เดือนชนเดือน หรือพบเจอกับปัญหาเก็บเงินไม่อยู่ สามารถลองนำวิธีเคล็ดลับดีๆเหล่านี้ไปใช้กันได้เลยค่ะ ซึ่งวิธีการที่สำคัญก็จะมีดังนี้ การประเมินรายรับขั้นตอนแรกที่ผู้เขียนทำก็คือการประเมินรายรับ จะเป็นขั้นตอนแรกที่จะนำไปสู่ การวางแผนการเงิน ในขั้นตอนต่อๆไปได้ดียิ่งขึ้น โดยผู้เขียนนั้นก็เป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาอะไรได้ไม่เกิน 30k ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่รวมรายรับทั้งหมดที่มีต่อเดือนเอาไว้แล้วค่ะ แจกแจงรายจ่ายที่จำเป็นรายจ่ายที่จำเป็นนั้นเราก็จะต้องมีการ list เป็นข้อๆก่อนว่ารายการที่เราต้องจ่ายในแต่ละเดือนนั้นมีอะไรบ้าง ซึ่งควรจะคิดทุกรายการไม่ให้ขาดตกเพื่อนำไปสู่การประเมินการวางแผนในข้อต่อไป ซึ่งสำหรับผู้เขียนนั้นข้อนี้ก็มีความสำคัญอย่างมากเลยทีเดียวค่ะ เพราะทำให้เราได้รู้แล้วว่าอะไรบ้างที่เราจ่ายเยอะเกินไป ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกเมื่อเรารู้แล้วว่ารายจ่ายนั้นมีอะไรบ้าง ในแต่ละเดือนเรามักจะเสียเงินไปกับอะไร ก็จะสามารถควบคุมการใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น อย่างเช่นผู้เขียนเองที่จะสอนมักจะเสียรายจ่ายให้กับค่าเครื่องดื่มชากาแฟเป็นประจำทุกวัน ถ้าคิดเป็นต่อเดือนก็หลักพันกว่าๆเลยทีเดียว ดังนั้นผู้เขียนจึงเลือกเปลี่ยนพฤติกรรมมาเป็นการชงกาแฟเอง ทำให้มีเงินเหลือจากส่วนนี้ครึ่งหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ เมื่อเรารู้แล้วว่าตรงนี้คือค่าใช้จ่ายที่สามารถลดทอนได้ ก็จะนำไปสู่เงินออมที่มากขึ้นนั่นเอง นำเงินที่เหลือมาแบ่งสัดส่วน อันดับแรกเราก็จะต้องมาดูก่อนว่าเงินที่เหลือนั้นมีจำนวนเท่าไหร่ ผู้เขียนเองก็จะเหลือเงินไม่มากหลังหักค่าใช้จ่าย เงินที่เหลือหลังจากหักค่าใช้จ่ายนั้นก็จะนำมาแบ่งเป็น 3 ก้อนใหญ่ๆด้วยกัน ก้อนแรกจะประมาณ 40% แบ่งเอาไว้เป็นเงินเก็บเผื่อวันข้างหน้าที่เราเกษียณ และอีก 20% จะนำมาเก็บในรูปแบบที่สามารถต่อยอดได้ ซึ่ง 20% ตรงนี้ ที่เอามาเป็นการต่อยอดนั้นอาจจะไม่ได้หมายถึงการลงทุนอย่างเดียวเสมอไป แต่อาจจะหมายถึงการทำในสิ่งที่สามารถเติบโตได้เช่น ออมทอง การออมเงินไว้สำหรับผ่อน / ซื้อบ้านหรือรถในอนาคต ซึ่ง 20% จากตรงนี้ผู้เขียนเองก็คิดเอาไว้แล้วว่าอยากจะเก็บไว้ในรูปแบบทองนั่นเองค่ะ ส่วนอีก 20% ที่เหลือนั้นก็จะเป็นค่าใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน เช่นเผื่อเวลาเจ็บป่วยหรือค่าซ่อมแซมบ้าน ค่าใช้จ่ายต่างๆที่เราไม่สามารถควบคุมหรือคาดเดาได้นั่นเองค่ะ ออมเงินอย่างไรดี ให้มีเงินเก็บมากขึ้น ?สรุปรีวิวจากผู้เขียนวันนี้ก็จะมีเนื้อหาที่สำคัญอยู่ 2 อย่างที่อยากจะบอกเล่าประสบการณ์ นั่นก็คือการแบ่งเงินให้เป็นสัดส่วน และการลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น บางครั้งเราอาจจะคาดไม่ถึงว่าอะไรการอะไรที่เราสามารถลดลงไปได้แต่ก็ต้องอาศัยระยะเวลาในการค่อยๆคิด อย่างผู้เขียนเองเมื่อก่อนอาจจะมีค่าใช้จ่ายในด้านอื่นๆที่แพงมากขึ้น เช่นค่าใช้ไฟฟ้า ค่าชากาแฟ ซึ่งผู้เขียนสามารถเปลี่ยนแปลงได้เช่น การเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยประหยัดพลังงานมากขึ้น หรือจะเปิดแอร์ที่ 27 องศา หรือค่าชากาแฟก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่เราสามารถเปลี่ยนโดยการหันมาทำเองได้ค่ะ ซึ่งในส่วนนี้ผู้อาจสามารถ create และเปลี่ยนแปลงได้ตามที่ตนเองสะดวกได้เลยนะคะ และการแบ่งเงินเป็นสัดส่วนบางคนอาจจะมองว่ารายรับน้อยถ้าแบ่งเป็นสัดส่วนก็จะเป็นจำนวนเงินที่น้อย ทำให้ขาดแรงจูงใจ แต่การที่เรามีรายรับไม่ว่าจะเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ก็ตาม จะหลักพันหรือหลักหมื่นก็สามารถทำได้นะคะ เพื่อที่เราจะได้เห็นว่าปัญหานั้นมาจากไหน มาจากรายรับที่เราต้องหามากขึ้น หรือรายจ่ายที่เราใช้เกินความจำเป็นแล้วไม่รู้ตัวนั่นเองค่ะ ทั้งนี้รายได้ของแต่ละบุคคลเองก็แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นการแบ่งรายรับและรายจ่ายให้เป็นสัดส่วนมากที่สุด จะทำให้เราเล็งเห็นว่าปัญหาการเงินที่เคยเกิดขึ้นมานั้นมาจากจุดไหน และสามารถแก้ไขได้อย่างตรงจุด รายจ่ายบางอย่างเราเองก็สามารถที่จะควบคุมหรือลดได้ ซึ่งก็จะเป็นสิ่งที่ทำให้เราสามารถเก็บเงินได้มากขึ้นอีกด้วยค่ะ เงินเก็บนั้นไม่ว่าต่อเดือนสามารถหรือน้อยแค่ไหน ถ้าเทียบกับในระยะยาวแล้วก็สามารถเป็นเงินก้อนใหญ่ได้เหมือนกัน เก็บเล็กเก็บน้อยก็ยังดีกว่าไม่ได้เก็บเลยค่ะ หลังจากนี้ขอให้ทุกคนมีความสุขกับทุกการวางแผนการเงินกันนะคะ :) รูปภาพทั้งหมดโดยผู้เขียนและภาพหน้าปกจาก canva เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !