รีเซต

โฆษกรบ. เผย 'บิ๊กตู่' เตรียมมอบบ้านเคหะฯ ตามโครงการบ้านเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย

โฆษกรบ. เผย 'บิ๊กตู่' เตรียมมอบบ้านเคหะฯ ตามโครงการบ้านเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย
มติชน
2 ธันวาคม 2564 ( 15:55 )
34
โฆษกรบ. เผย 'บิ๊กตู่' เตรียมมอบบ้านเคหะฯ ตามโครงการบ้านเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย

2 ธันวาคม นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมีกำหนดเป็นประธานในพิธีส่งมอบสิทธิโครงการบ้านเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย โครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า ณ โครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า ถนนร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ในวันพรุ่งนี้ (3 ธันวาคม 2564) ซึ่งปัจจุบันโครงการบ้านเคหะสุขประชาอยู่ระหว่างดำเนินโครงการนำร่อง 2 โครงการ ได้แก่ โครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า และโครงการบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติได้เสนอ “โครงการบ้านเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย” ให้คณะรัฐมนตรีทราบเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 โดยการเคหะแห่งชาติดำเนินโครงการดังกล่าวภายใต้ชื่อ “โครงการบ้านเคหะสุขประชา” โดยมีเป้าหมายจัดสร้าง 100,000 หน่วย ภายในระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ.2564 – 2568) กำหนดส่งมอบปีละประมาณ 20,000 หน่วย เพื่อสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มเปราะบาง ข้าราชการชั้นผู้น้อย ข้าราชการเกษียณ รวมถึงผู้บุกรุกในพื้นที่สาธารณะ ทั้งยังเป็นการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) อีกทั้งเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชนครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายตามแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560 – 2579) ที่ต้องการให้คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยถ้วนทั่ว (Housing for all)

 

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้ให้นโยบายนอกเหนือจากการเช่าอยู่อาศัยในโครงการบ้านเคหะสุขประชาแล้ว ยังได้สร้างเศรษฐกิจชุมชนคู่ขนานกันไป “มีบ้าน – มีอาชีพ – มีรายได้ – มีสุข” ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยให้สามารถประกอบอาชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ดังนั้น การเคหะแห่งชาติ จึงได้จัดสรรโซนนิ่ง โดยนอกเหนือจากโซนที่พักอาศัยภายในโครงการยังจัดให้มีพื้นที่สีเขียว พื้นที่สันทนาการ พื้นที่จอดรถ และพื้นที่ “เศรษฐกิจสุขประชา” นั้น ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของพื้นที่ในการพัฒนาโครงการ มีจำนวน 6 รูปแบบ ได้แก่ เกษตรอินทรีย์ ปศุสัตว์ อาชีพบริการชุมชนและชุมชนข้างเคียง ตลาด อุตสาหกรรมขนาดเล็ก และศูนย์การค้าปลีก – ส่ง โดยมุ่งส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยประกอบอาชีพอิสระในชุมชน รวมถึงสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนตามภูมิสังคมของพื้นที่นั้น ๆ เริ่มตั้งแต่การผลิตไปจนถึงช่องทางการจัดจำหน่าย ส่วนโครงการในพื้นที่ภูมิภาคจัดให้มีการประกอบอาชีพเกษตรกรรม และกสิกรรม เป็นต้น

 

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีห่วงใยประชาชนต้องการช่วยลดภาระของผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะจากผลกระทบโควิด-19 ที่ยาวนานเกือบ 2 ปี ที่ผ่านมา ส่งผลรายได้ของประชาชนลดลง ทำให้โอกาสที่จะซื้อบ้านก็ยากขึ้น จึงมอบหมายให้การเคหะแห่งชาติดำเนินการทำบ้านสำหรับเช่าเป็นหลักสำหรับผู้มีรายได้น้อยพร้อมจัดให้มีพื้นที่เศรษฐกิจสุขประชา เพื่อสร้างรายได้สร้างอาชีพแก่ผู้เช่า พร้อมย้ำว่า คนไทยทุกคนต้องมีบ้านอยู่โอกาสให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้อย่างทั่วถึง เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง