Super Mario Bros: The Lost Levels เป็นเกมแพลตฟอร์มที่พัฒนาโดยนินเทนโด ออกวางจำหน่ายครั้งแรกในญี่ปุ่นเมื่อปี 1986 ภายใต้ชื่อ Super Mario Bros 2 ในขณะที่ตลาดตะวันตกได้รับเวอร์ชันที่แตกต่างออกไป เกมนี้ถือเป็นภาคต่อโดยตรงของ Super Mario Bros ต้นฉบับ แต่มีความยากเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนทำให้นินเทนโดตัดสินใจไม่วางจำหน่ายนอกญี่ปุ่นในช่วงแรก เนื้อเรื่อง เนื้อเรื่องของเกมยังคงคล้ายกับภาคแรก โดยมาริโอ (หรือลุยจิ) ต้องผจญภัยผ่านอาณาจักรเห็ดเพื่อช่วยเหลือเจ้าหญิงพีช จากการจับตัวของคิงคูปา แม้จะเป็นเรื่องราวที่ไม่ซับซ้อน แต่ก็เพียงพอที่จะสร้างแรงจูงใจให้ผู้เล่นต้องการเอาชนะความท้าทายต่างๆ ในเกม ระบบการเล่น The Lost Levels ยังคงใช้ระบบการเล่นพื้นฐานเดียวกับภาคแรก ผู้เล่นต้องควบคุมมาริโอหรือลุยจิวิ่งจากซ้ายไปขวา กระโดดข้ามอุปสรรค และเอาชนะศัตรูต่างๆ อย่างไรก็ตาม เกมนี้ได้เพิ่มความท้าทายใหม่ๆ เข้ามามากมาย เช่น: 1. เห็ดพิษ: เห็ดสีม่วงที่ทำให้มาริโอตัวเล็กลงแทนที่จะโตขึ้น 2. ลมแรง: บางด่านมีลมพัดแรงที่ส่งผลต่อการกระโดดของตัวละคร 3. ทางลับที่ซ่อนอยู่: มีทางลับและทางลัดที่ซ่อนอยู่มากกว่าภาคแรก 4. การออกแบบด่านที่ซับซ้อน: ด่านต่างๆ มีความซับซ้อนและท้าทายมากขึ้น ความยากของเกม The Lost Levels มีชื่อเสียงในด้านความยากที่สูงลิ่ว แม้แต่ผู้เล่นที่ชำนาญในการเล่น Super Mario Bros ภาคแรกก็อาจพบว่าเกมนี้ท้าทายเกินไป ความยากนี้มาจากหลายปัจจัย: 1. การวางศัตรูที่แยบยล: ศัตรูถูกวางในตำแหน่งที่ทำให้ผู้เล่นต้องใช้ความแม่นยำสูง 2. การกระโดดที่ต้องแม่นยำ: หลายด่านต้องการการกระโดดที่แม่นยำมากๆ 3. กับดักที่ซ่อนอยู่: มีกับดักที่ซ่อนอยู่มากมาย ทำให้ผู้เล่นต้องระมัดระวังตลอดเวลา 4. เวลาจำกัด: เวลาในแต่ละด่านค่อนข้างจำกัด ทำให้ผู้เล่นต้องเร่งรีบ กราฟิกและเสียง ด้านกราฟิก The Lost Levels ใช้สไตล์เดียวกับ Super Mario Bros ต้นฉบับ แต่มีการเพิ่มรายละเอียดบางอย่าง เช่น ฉากหลังที่หลากหลายขึ้น และการออกแบบด่านที่ซับซ้อนขึ้น ส่วนด้านเสียง ยังคงใช้เพลงและเอฟเฟกต์เสียงคุ้นหูจากภาคแรก แต่มีการเพิ่มเพลงใหม่บางเพลงเข้ามา ประสบการณ์การเล่น ในฐานะผู้เล่น ผมพบว่า The Lost Levels เป็นเกมที่ทั้งน่าหงุดหงิดและน่าพึงพอใจในเวลาเดียวกัน ความยากของเกมทำให้ผมต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการผ่านแต่ละด่าน บ่อยครั้งที่ผมต้องเล่นซ้ำๆ หลายสิบครั้งเพื่อผ่านด่านเดียว ด่านแรกๆ ยังพอรับมือได้ แต่พอเข้าสู่โลกที่ 2 ความยากก็เพิ่มขึ้นอย่างฮวบฮาบ ผมยังจำได้ดีถึงความรู้สึกตกใจเมื่อเจอเห็ดพิษครั้งแรก คิดว่าจะได้พลังเพิ่ม แต่กลับทำให้มาริโอตัวเล็กลง ด่านที่มีลมแรงเป็นอีกความท้าทายที่น่าสนใจ ต้องคำนวณจังหวะการกระโดดให้ดี ไม่เช่นนั้นอาจลอยไปตกเหวได้ง่ายๆ บางครั้งผมรู้สึกว่าเกมนี้ไม่ยุติธรรม โดยเฉพาะเมื่อเจอกับดักที่มองไม่เห็น แต่พอผ่านได้ก็รู้สึกภูมิใจมาก หนึ่งในประสบการณ์ที่น่าจดจำที่สุดคือการค้นพบทางลับโดยบังเอิญ ผมกำลังพยายามหาทางผ่านด่านที่ยากมาก แล้วบังเอิญกระโดดชนกำแพงที่ถูกต้อง ทำให้พบทางลัดที่ช่วยข้ามความยากของด่านไปได้ มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นนักสำรวจในโลกของมาริโอจริงๆ แม้จะมีช่วงที่รู้สึกท้อ แต่ความพึงพอใจเมื่อผ่านด่านที่ยากได้นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ผมเล่นต่อไป การเอาชนะ The Lost Levels ให้ความรู้สึกเหมือนได้พิชิตภูเขาที่สูงชัน เป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจจริงๆ ข้อดีและข้อเสีย ข้อดี: 1. ความท้าทายสูง เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการทดสอบทักษะ 2. การออกแบบด่านที่สร้างสรรค์และซับซ้อน 3. เพิ่มองค์ประกอบใหม่ๆ เช่น เห็ดพิษ และลมแรง 4. ให้ความพึงพอใจสูงเมื่อเอาชนะความท้าทายได้ 5. มีความลับและทางลัดให้ค้นหามากมาย ข้อเสีย: 1. ความยากอาจสูงเกินไปสำหรับผู้เล่นทั่วไป 2. บางด่านอาจรู้สึกไม่ยุติธรรม เนื่องจากกับดักที่มองไม่เห็น 3. ต้องใช้ความจำและการลองผิดลองถูกมาก อาจทำให้บางคนรู้สึกหงุดหงิด 4. กราฟิกและเสียงไม่ได้พัฒนามากนักจากภาคแรก สรุป Super Mario Bros: The Lost Levels เป็นเกมที่สร้างขึ้นสำหรับแฟนพันธุ์แท้ของซีรีส์มาริโอที่ต้องการความท้าทายระดับสูง แม้จะมีความยากที่อาจทำให้ผู้เล่นหลายคนรู้สึกท้อ แต่ก็ให้ความพึงพอใจอย่างล้นเหลือเมื่อสามารถเอาชนะได้ การออกแบบด่านที่ซับซ้อนและสร้างสรรค์ ผสมผสานกับองค์ประกอบใหม่ๆ ทำให้เกมนี้มีเอกลักษณ์และน่าจดจำ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความท้าทายและต้องการทดสอบทักษะการเล่นเกมแพลตฟอร์มของตนเอง The Lost Levels เป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด แต่สำหรับผู้เล่นทั่วไป อาจต้องเตรียมใจรับความยากและความผิดหวังบ้าง อย่างไรก็ตาม เกมนี้ยังคงเป็นส่วนสำคัญในประวัติศาสตร์ของซีรีส์มาริโอ และเป็นตำนานในวงการเกมที่ยากที่สุดตลอดกาล เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !