สรุปประเด็นสำคัญ คดี “อั้งยี่-ฟอกเงิน สว.” (DSI | 17 ก.ค. 2568)

• คืบหน้าแล้ว 70% สอบพยานกว่า 90 ปาก ครอบคลุมทั้งแผนจัดเลือกตั้งและการโอนเงิน
• พบ เส้นทางการเงินเชื่อมโยงกระบวนการจัดฮั้ว ครอบคลุม 3 จังหวัดหลัก และโยงนักการเมืองท้องถิ่น กว่า 30 จังหวัด
• มีผู้ต้องสงสัย กว่า 100 ราย อยู่ระหว่างรอพยานหลักฐานก่อนออกหมายเรียก
• พฤติการณ์เข้าข่ายทั้ง ฟอกเงิน และ อั้งยี่
• แบ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง 3 ประเภท: ได้จากผิดกฎหมาย, ใช้สนับสนุนผิด, ของผู้เกี่ยวข้อง
• ยังไม่ออกหมายเรียก เพราะ รอความชัดเจนของหลักฐาน คาดชัดเจนใน 1 เดือน
• หากพบ นักการเมืองหรือ ส.ส. เกี่ยวข้อง จะเรียกสอบทั้งหมด (มีรายชื่อแล้วแต่ยังไม่เปิดเผย)
• DSI ไม่แสดงความเห็นต่อมติ กกต. ชุดที่ 26

กำลังเร่งรวบรวมหลักฐานเพื่อขยับสู่ขั้นต่อไปอย่างรอบคอบ

คดีฟอกเงินและอั้งยี่ที่เชื่อมโยงกระบวนการได้มาซึ่ง สว. คืบหน้าแล้วกว่า 70% พบโยงนักการเมืองท้องถิ่นในกว่า 30 จังหวัด เตรียมเรียกสอบผู้ต้องสงสัยมากกว่า 100 ราย DSI ชี้อยู่ระหว่างรอพยานหลักฐานชัดเจน ก่อนออกหมายเรียกใน 1 เดือน

คดีฟอกเงิน–อั้งยี่ สว. คืออะไร?

คดีฟอกเงินและอั้งยี่ สว. เป็นหนึ่งในคดีสำคัญที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รับเป็นคดีพิเศษ โดยมีข้อสงสัยว่ามีการจัดการเลือกตั้งวุฒิสภาอย่างไม่โปร่งใส ผ่านเครือข่ายทางการเมืองและธุรกรรมทางการเงินที่ซับซ้อน ลักษณะความผิดมีทั้งการใช้เงินอย่างผิดปกติในการว่าจ้างผู้สมัคร สว. และการใช้อิทธิพลผ่านกลุ่มบุคคลเพื่อควบคุมผลการเลือกตั้ง

ความคืบหน้าล่าสุดจาก DSI

สอบสวนคืบหน้า 70%

จากการแถลงของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดี DSI พบว่า ขณะนี้คดีคืบหน้าแล้วกว่า 70% โดยมีการสอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 90 ราย ครอบคลุมผู้วางแผนการเลือกตั้ง ผู้สมัคร ส.ว. และผู้เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางการเงิน

พบบุคคลเกี่ยวข้องกว่า 100 ราย

เส้นทางเงินที่ตรวจสอบได้ พบว่ามีความเชื่อมโยงกับนักการเมืองท้องถิ่นใน 30 จังหวัด และอาจขยายไปถึงนักการเมืองระดับชาติ หรือผู้ที่มีบทบาทในพรรคการเมืองบางพรรค

เส้นทางเงินผิดปกติใน 3 จังหวัดหลัก

DSI ตรวจพบธุรกรรมผิดปกติในช่วงก่อนและระหว่างเลือกตั้งใน สุราษฎร์ธานี ลำพูน และหนองบัวลำภู โดยเงินบางส่วนถูกโอนกลับไปยังบุคคลใกล้ชิด สว. เพื่อจัดตั้งทีมผู้ช่วยและที่ปรึกษาอย่างมีนัยสำคัญ

ขั้นตอนต่อไป เตรียมออกหมายเรียก

• DSI เตรียมออกหมายเรียกผู้ต้องสงสัยภายใน 1 เดือน
• การเรียกสอบจะรวมถึงนักการเมือง และผู้เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งที่ปรึกษาส่วนตัวของ ส.ว.
• การดำเนินการต้องอาศัยพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อยืนยันความเชื่อมโยงกับขบวนการอั้งยี่ และการฟอกเงิน

ปปง. ร่วมตรวจสอบเส้นทางทรัพย์สิน

นายวิทยา นีติธรรม โฆษกสำนักงาน ปปง. ระบุว่า ทรัพย์สินในคดีนี้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม

• ทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำผิด
• ทรัพย์สินที่ใช้สนับสนุนการกระทำผิด
• ทรัพย์สินของผู้เกี่ยวข้องโดยอ้อม

ผู้ถูกเรียกสอบมีสิทธิ์นำหลักฐานมาชี้แจง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์

DSI ย้ำความเป็นอิสระ ไม่ขึ้นตรงต่อ กกต.

แม้จะมีเจ้าหน้าที่ DSI เข้าร่วมในคณะอนุกรรมการของ กกต. แต่ DSI ยืนยันว่ากระบวนการสอบสวนยังคงเป็นอิสระ และไม่ขึ้นกับมติของ กกต. ในการตัดสินใจดำเนินคดี

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: คดีนี้เกี่ยวข้องกับนักการเมืองระดับชาติหรือไม่?

A: ข้อมูลเบื้องต้นพบว่ามีความเชื่อมโยงกับนักการเมืองระดับท้องถิ่น และมีแนวโน้มขยายไปถึงระดับชาติ

Q: DSI จะออกหมายจับเมื่อไหร่?

A: คาดว่าจะสามารถออกหมายเรียกได้ภายใน 1 เดือน หากรวบรวมพยานหลักฐานได้ครบถ้วน

Q: ทรัพย์สินที่ถูกยึดมาจากอะไร?

A: เป็นทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำผิดหรือใช้สนับสนุนขบวนการฮั้วเลือกตั้ง