‘ททท.’ เตรียมหารือภายใน ก่อนชง ‘คลัง’ เคาะแพคเกจกระตุ้นท่องเที่ยวฉบับสมบูรณ์

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีการหารือกันภายในถึงรายละเอียดของแพคเกจมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว หลังจากกระทรวงการคลังได้ให้ ททท.กลับมาเพิ่มเติมรายละเอียดของรูปแบบและวิธีการดำเนินการของมาตรการ ให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น หลังจากนั้นจะนำเข้าหารือกับคลังอีกครั้ง โดยเชื่อว่าน่าจะมีความชัดเจนออกมา ในส่วนของรูปแบบแพคเกจ วิธีการใช้ และวงเงินงบประมาณที่จะใช้ของทั้ง 2 แพคเกจ โดยหากแพคเกจออกมาทันใช้ในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือว่าดีมาก เพราะจะเป็นการต่อเนื่องจากมาตรการแจกเงิน 5,000 บาท ในการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร จึงถือเป็นการรับช่วงต่อในการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจต่อไป

นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า สำหรับแพคเกจกำลังใจ ที่มีขึ้นเพื่อตอบแทนบุคลากรที่ปฏิบัติงานแนวหน้า ในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้แก่ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จำนวน 1.2 ล้านคน และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จำนวน 5 ล้านคน โดยจะสนับสนุนงบประมาณสำหรับการศึกษาดูงาน (3 วัน 2 คืน) ผ่านบริษัทนำเที่ยวในประเทศ เป็นการชวนเที่ยวฟรี

โดยรัฐจะเข้าไปช่วยในส่วนของการซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายในการเดินทางเหล่านั้น แต่ยังต้องหารือกันเพิ่มเติมว่า จะสนับสนุนเป็นจำนวนเงินเท่าใด หลังจากนั้นจะหารือร่วมกับเอกชนในภาคการท่องเที่ยว ถึงรายละเอียดในการดำเนินการ ซึ่งอสม.และรพ.สต. มีรายชื่อในระบบของรัฐอยู่แล้ว ทำให้การดำเนินการจะไม่ต้องลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์อะไรเพิ่มเติม แต่สามารถชวนเที่ยวได้ทันที หากรูปแบบแพคเกจออกมาสมบูรณ์แล้ว ส่วนอีกแพคเกจคือ เที่ยวปันสุข ที่จะให้เป็นบัตรกำนัลดิจิทัล สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ก็จะสนับสนุนส่วนต่างเช่นกัน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็นจำนวนเงินเท่าใด

“การชวนบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องออกเที่ยว เบื้องต้นจะประสานกับตัวแทนท่องเที่ยวประจำจังหวัดต่างๆ ในการพาออกเดินทาง อาทิ ทัวร์ประจำจังหวัด ไกด์ประจำพื้นที่ หรือมัคคุเทศน์ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ เพราะหากต้องใช้บริการผู้ประกอบการท่องเที่ยวประจำจังหวัด ก็จะเป็นส่วนสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยว ที่ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็กและกลาง (เอสเอ็มอี) รวมทั้งยังช่วยให้อสม. และ รพ.สต. ได้พักผ่อนจากการแบกรับหน้าที่ เป็นด่านหน้าในการสู้โควิด-19 ด้วย” นายยุทธศักดิ์กล่าว

นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า ที่ผ่านมา ททท. ได้หารือกับภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการหารือเกี่ยวกับความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว ที่จะเริ่มออกเดินทางอีกครั้งในระยะสั้นๆ นี้ เพราะการมีโรคระบาดเข้ามา ทำให้การท่องเที่ยวหลังจากนี้จะเปลี่ยนแปลงไป อาทิ คนจะสนใจเรื่องความปลอดภัย และสุขอนามัยมากขึ้น ต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในภาคการท่องเที่ยวมากขึ้น การบริหารจัดการภายใต้การปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ที่จะทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการเพิ่มมากขึ้น ซึ่งตอนนี้ยังติดอยู่ที่นโยบายของภาครัฐ ในการต้องเว้นระยะห่างทางสังคม หรือบางจังหวัดที่ยังต้องกักตัวอยู่ ทำให้มาตรการด้านการตลาด ทำได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร