สิ่งที่เรียกว่า "ใบปัดน้ำฝน" เป็นอุปกรณ์หนึ่งในรถยนต์ที่มีส่วนสำคัญทีเดียว เนื่องจากว่าประโยชน์ของมันจะช่วยทำความสะอาดกระจกหน้ารถ ทำให้ทัศนวิสัยดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเศษฝุ่นหรือมีฝนตก เจ้าใบปัดนี้ก็จะช่วยทำความสะอาดให้คุณขับรถมองเห็นด้านหน้าชัดเจน รวมถึงรถ Hatchback ที่มีใบปัดด้านหลังด้วย ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นอุปกรณ์ที่ใคร ๆ มักละเลยไม่ค่อยดูแลมันดีเท่าที่ควร(อ่านบทความ ทำไมรถ Hatchback มีใบปัดน้ำฝนด้านหลัง)ความจริงแล้ว ใบปัดน้ำฝน มันเป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่ไม่ควรมองข้ามมัน ยิ่งเข้าใกล้ช่วงฤดูฝนด้วยแล้วการดูแลรักษาให้มีประสิทธิภาพพร้อมใช้งาน จึงเป็นเรื่องจำเป็นต้องทำ ส่วนวิธีการดูแลจะต้องทำอย่างไรบ้างนั้น เรามาดูกันเลยครับ เชื่อว่าบางคนอาจจะดูแลมันผิดวิธีด้วยการดูแลใบปัดน้ำฝนในรถของเราทำได้ไม่ยากเย็น เพียงแค่ยกก้านปัด นำผ้าชุบน้ำหมาด ๆ แล้วเช็ดยางปัดให้สะอาด เพราะว่ายางปัดน้ำฝนจะมีโอกาสที่เศษฝุ่นมาเกาะ หากไม่ได้มำความสะอาดบ่อย มันจะทำให้ฝุ่นเกาะหนาขึ้น เมื่อใช้งานจะไม่สามารถปัดสิ่งสกปรกออกไปได้เต็มที่หากใครที่จอดรถใต้ต้นไม้หรือไม่มีที่จอดรถที่บ้าน ต้องจำเป็นจอดริมถนนล่ะก็ สิ่งที่ต้องระวังก็คือจะมีเศษใบไม้เศษกิ่งไม้ต่าง ๆ หล่นมาเกาะบริเวณที่ปัดน้ำฝน ฉะนั้นจึงควรที่จะทำความสะอาด ดึงเศษใบไม้ออกบ่อย ๆ ประมาณ 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ ไม่อย่างนั้นแล้วการใช้งานจะทำได้ลำบากแถมยังทำให้รถของคุณดูสกปรกมาก ๆ ไม่น่าขับขี่ด้วยส่วนใครที่อยากจะรู้ว่ายางใบปัดน้ำฝนของคุณหมดอายุ-เสื่อมสภาพหรือไม่นั้นก็มีวิธีง่าย ๆ ในการตรวจสอบครับโดยหมั่นตรวจสอบยางปัดว่ามีความแข็งมากไปหรือไม่ ด้วยการยกก้านปัดแล้วใช้มือจับบริเวณยาง หากเนื้อยางแข็งก็แสดงว่ามันเสื่อมสภาพหรือถ้าเห็นเป็นขุยก็แสดงว่ามันหมดอายุแล้ว ดังนั้นควรจะเปลี่ยนยางปัดน้ำฝนโดยด่วน ไม่เช่นนั้นหากฝืนใช้งานต่อไป เนื้อยางจะโดนกระจกทำให้เป็นรอยได้ง่าย ทำให้ปัดสิ่งสกปรกออกไม่หมด มันจะมีผลต่อการมองเห็นและเสี่ยงอุบัติเหตุหากมีอาการที่ว่ามา แนะนำว่าควรเปลี่ยนยางปัดโดยเร็วครับ ซึ่งราคาของยางปัดน้ำฝนจะอยู่ที่ประมาณ 100-200 บาทเมื่อซื้อที่ร้านทั่วไปหรือร้านตามริมถนน หากต้องการจะเปลี่ยนเป็นของตรงรุ่นที่ศูนย์บริการอาจจะมีราคาสูงกว่านี้ประมาณ 500-700 บาท ตามแต่ศูนย์บริการแต่ละยี่ห้อ หรือว่าจะเปลี่ยนทุก ๆ 2 ปีก็ได้ครับหากใช้งานบ่อยหรือจอดรถตากแดดบ่อยครั้งอีกอย่างที่หลายคนอาจจะทำบ่อย ๆ แต่มันเป็นการดูแลที่ผิดวิธี นั่นคือการยกก้านปัดน้ำฝนตากแดด การทำแบบนั้นแทนที่จะรักษาคุณภาพเนื้อยาง กลับกลายเป็นว่า มันจะทำให้เนื้อยางเป็นรอยแตกเร็วขึ้น อีกทั้งยังทำให้สปริงที่ติดกับยางที่ทำให้ตัวยางปัดแนบกระจบ เกิดอาการยืดตัวทำให้สปริงล้าไม่สามารถทำให้ยางแนบกับกระจกได้ หากเกิดแบบนั้นวิธีแก้อย่างเดียวคือการเปลี่ยนชุดก้านปัดยกชุด ซึ่งมีราคาแพงมาก ๆดังนั้นถ้าไม่อยากเสียเงินมากก็อย่ายกก้านปัดน้ำฝนขึ้นโดยไม่จำเป็นครับ แทนที่จะเสียเงินหลักร้อยบาท อาจจะต้องควักเงินถึงหลักพันบาทครับสรุปแล้วใบปัดน้ำฝนจึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ ที่ต้องเอาใจใส่ดูแลมัน โดยเฉพาะส่วนที่เป็นยางปัด เพราะเป็นส่วนที่สัมผัสกับกระจกตลอดเวลา ซึ่งวิธีการดูแลข้างต้นก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตนเอง จะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ทำได้เช่นกัน เห็นแบบนี้แล้วก็อย่าลืมดูแลรถของคุณกันด้วยนะครับ ในช่วงนี้ก็กำลังจะเข้าสู่หน้าฝนอีกด้วย เพื่อทัศนวิสัยที่ดีและความปลอดภัยของคุณเองที่มารูปภาพ: รูปภาพปก / รูปภาพ 1 / รูปภาพ 2 / รูปภาพ 3 / รูปภาพ 4